กรุงเทพฯ--26 พ.ย.--บีโอไอ
บีโอไอรุกจัดสัมมนาเสริมความรู้ธุรกิจไทยไปลงทุนในเวียดนามและกลุ่มประเทศอาเซียน ทั้งในกรุงเทพฯ อุดรธานี ชลบุรี 27- 30 พ.ย. 56 นี้
นายโชคดี แก้วแสง รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ในวันที่ 27 - 28 และ 30 เดือนพฤศจิกายนนี้ บีโอไอ จะจัดสัมมนาเกี่ยวกับโอกาสและลู่ทางการลงทุนในประเทศเวียดนามและประเทศอาเซียนอื่น ๆ รวม 3 ครั้ง ทั้งในกรุงเทพ ฯ และต่างจังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี และอุดรธานี เพื่อให้นักลงทุนไทยที่สนใจลงทุนในภูมิภาคอาเซียนโดยเฉพาะเวียดนามได้รับข้อมูลเชิงลึกและรับทราบประสบการณ์ตรงจากนักลงทุนที่ลงทุนอยู่แล้ว ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับการลงทุน รวมทั้งกลยุทธ์การขยายกิจการในต่างประเทศ
การจัดสัมมนาโอกาสและการลงทุนในประเทศเวียดนามตอนกลางจะจัดขึ้นครั้งแรกในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2556 ณ ห้อง ซาลอน บี โรงแรมสวิสโซเทล เลอคองคอร์ด กรุงเทพฯ ส่วนครั้งที่ 2 จะจัดขึ้นในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2556 ณ โรงแรมเซ็นทารา แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จังหวัดอุดรธานี โดยใช้หัวข้อ “ Trade & Investment Opportunities in Central Vietnam ” ทั้ง 2 ครั้งนี้ได้รับเกียรติจากนายโหงว ดุ๊ก ถัง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย มากล่าวเปิดการสัมมนา พร้อมการนำเสนอ ศักยภาพการทำธุรกิจในภาคกลางของเวียดนาม จากทูตพาณิชย์เวียดนามประจำประเทศไทย และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ตรงของนักลงทุนไทยที่ไปลงทุนในเวียดนาม
“ การส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศเป็นอีกหนึ่งภารกิจของบีโอไอ นอกเหนือจากการส่งเสริมการลงทุนในประเทศ โดยปัจจุบันธุรกิจไทยมีศักยภาพด้านเทคโนโลยี และมีความเข้มแข็งทางการเงินมากขึ้น ประกอบกับการขาดแคลนแรงงานระดับล่างเป็นปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจไทยสนใจไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น บีโอไอจึงได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ข้อมูลและความรู้ตลอดจนแนะนำโอกาสและลู่ทางการลงทุนแก่นักธุรกิจไทยอย่างต่อเนื่อง ” นายโชคดีกล่าว
สำหรับกิจกรรมสัมมนา ครั้งที่ 3 กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 ณ ศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ภายใต้หัวข้อ “ รุกหรือรับ โอกาสสำหรับธุรกิจไทยในอาเซียน ” โดยจะมีผู้บริหารของธนาคารกรุงเทพที่ประจำอยู่ในแต่ละประเทศในอาเซียน ได้แก่ เวียดนาม ลาว และเมียนมาร์ มาร่วมให้ข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนรายประเทศ
ทั้งนี้จากสถิติการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของนักลงทุนต่างชาติที่เข้าไปลงทุนในเวียดนาม ตั้งแต่เดือนมกราคม 2531 — ธันวาคม 2555 ญี่ปุ่นเป็นนักลงทุนอันดับ 1 ที่เข้าไปลงทุนในเวียดนาม โดยมีโครงการลงทุนทั้งสิ้น 1,849 โครงการ มูลค่าทุนจดทะเบียนประมาณ 28,700 ล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ 2 คือ ไต้หวันเข้าไปลงทุนทั้งสิ้น 2,234 โครงการ มูลค่าทุนจดทะเบียนประมาณ 27,000 ล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ 3 คือ สิงคโปร์ เข้าไปลงทุนทั้งสิ้น 1,119 โครงการ มูลค่าทุนจดทะเบียนประมาณ 24,800 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนประเทศไทยได้เข้าไปลงทุนในเวียดนามเป็นอันดับ 10 มีโครงการลงทุนทั้งสิ้น 298 โครงการ มูลค่าทุนจดทะเบียนประมาณ 6,100 ล้านเหรียญสหรัฐ