กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--บลจ. ฟินันซ่า
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ฟินันซ่า จำกัด (บลจ.ฟินันซ่า) เสนอกองทุนตราสารหนี้ 3 เดือน อัตราผลตอบแทนโดยประมาณ 3.10% ต่อปี
“บลจ.ฟินันซ่า ประเมินว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) น่าจะเริ่มลด QE ทีละเล็กทีละน้อย เริ่มเดือน มี.ค. 57 แต่ผลคือตลาดจะตีความว่ายุคของการพิมพ์เงินและดอกเบี้ยต่ำ กำลังจะสิ้นสุดลง ดังนั้นดอกเบี้ยระยะยาวจะค่อยทยอยปรับขึ้น กอปรกับสภาพคล่องในประเทศเริ่มตึงตัวมากขึ้น แม้ว่า ร่างพรบ. 2 ล้านล้าน ยังไม่ผ่านเป็นกฎหมาย”
“ในภาวะดอกเบี้ยระยะยาวมีแนวโน้มปรับขึ้นอย่างนี้ การลงทุนในกองทุนเปิดฟินันซ่า ตราสารหนี้พลัสโรลโอเวอร์ 3 เดือน 5 ผลตอบแทนโดยประมาณ 3.10% ต่อปี สูงกว่าดอกเบี้ยนโยบาย จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุน เพราะลงทุนในระยะเวลาที่สั้น ไม่เสียโอกาสถ้าดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นเต็มตัว”
บลจ.ฟินันซ่า จึงออกเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ 3 เดือน ชื่อ กองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัสโรลโอเวอร์ 3เดือน5 (FAM FIPR3M5) โดยมีอัตราผลตอบแทนโดยประมาณ 3.10% ต่อปี เปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 25 พ.ย. — 2 ธ.ค.56 โดยสินทรัพย์ในกองทุนบางส่วนจะลงทุนเป็นเงินฝากธนาคารต่างประเทศและในประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ขึ้นไป (Investment Grade)
สำหรับกองทุนเปิดฟินันซ่า ตราสารหนี้พลัสโรลโอเวอร์ 3 เดือน 5 (FAM FIPR3M5) เป็นกองทุนที่โรลโอเวอร์มาจากการขายกองก่อนหน้านี้ เป็นกองทุน Specific fund โดยกองทุนจะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงินและ/หรือ เงินฝากของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ เงินฝากธนาคารต่างประเทศสกุลเงิน USD, CNY, HKD, EUR, JPY กับธนาคาร BOC (Macau), Standard Chartered Bank (Hong Kong), ธนาคาร CIMB Niaga (Indonesia), Akbank T.A.S. (Malta) หรือเงินฝากสกุลเงิน AED ธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank, UAE (F1), ธนาคาร Union National Bank, UAE(P-1), ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ, ตั๋วแลกเงิน บมจ.ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) (BBB), ตั๋วแลกเงิน บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง (BBB+), ตั๋วแลกเงิน บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง (BBB+), บมจ.อีซี่บาย (BBB+), บจ.บีเอสแอล ลีสซิ่ง(BBB) หรือตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB ขึ้นไป, ตั๋วเงินคลัง หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น
สำหรับรอบการลงทุนของการสั่งซื้อหน่วยลงทุนครั้งที่ 5
อัตราผลตอบแทนโดยประมาณเท่ากับ 3.10% ต่อปี ซึ่งคำนวณจากการลงทุน สำหรับรอบระยะเวลาประมาณ 3 เดือน
ตราสารที่ลงทุน*** ผลตอบแทนของตราสารในรูปสกุลเงินบาทโดยประมาณ (ต่อปี) สัดส่วนการลงทุนโดยประมาณ ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนในรูปสกุลเงินบาทโดยประมาณ (ต่อปี) ระยะเวลาการลงทุนโดยประมาณ
เงินฝากธนาคารต่างประเทศ สกุลเงินUSD, CNY, HKD, EUR, JPY กับธนาคาร BOC (Macau), Standard Chartered Bank (Hong Kong), ธนาคาร CIMB Niaga (Indonesia), Akbank T.A.S. (Malta) หรือเงินฝากสกุลเงิน AED ธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank, UAE (F1), ธนาคาร Union National Bank,UAE (P-1), ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ** 3.30%* 43.00% 1.42% 3 เดือน
ตั๋วแลกเงิน บมจ.ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) (BBB) 3.75% 22.00% 0.83% 3 เดือน
ตั๋วแลกเงิน บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง (BBB+) 3.13% 22.00% 0.69% 3 เดือน
ตั๋วแลกเงิน บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง(BBB+),บมจ.อีซี่บาย(BBB+),บจ.บีเอสแอล ลีสซิ่ง(BBB) หรือตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB ขึ้นไป 3.05% 12.00% 0.37% 3 เดือน
ตั๋วเงินคลัง หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 2.47% 1.00% 0.02% 3 เดือน
ประมาณการค่าใช้จ่ายกองทุน (ต่อปี) (0.22%)
อัตรารับซื้อคืนโดยประมาณ (ต่อปี) 3.10%
หมายเหตุ: * โดยอัตราผลตอบแทนที่เสนอโดยผู้ออกตราสารและมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน USD, CNY, HKD, EUR, JPY, AED เป็นเงินบาทแล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 20 พฤศจิกายน 2556)
** เงินฝากธนาคารออมสิน หรือ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ตั๋วเงิน หรือ หุ้นกู้ ธนาคารเกียรตินาคิน, ธนาคารไอซีบีซี(ไทย), ธนาคารทิสโก้, ธนาคารทหารไทย, ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย, ธนาคารกรุงไทย, บมจ.ทุนธนชาต, ธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์, บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย(A+) เป็นต้น (ข้อมูล ณ วันที่ 20 พฤศจิกายน 2556)
***ตั๋วแลกเงินหรือหุ้นกู้ เช่น หุ้นกู้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง(BBB+), บมจ.บัตรกรุงไทย(BBB+), บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง(BBB+), บมจ.แสนสิริ(BBB+), บมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น(BBB+), บมจ.มั่นคงเคหะการ(BBB+), บมจ.ถิรไทย(BBB+), บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ(BBB+), บมจ.ช การช่าง (BBB+), บจ.บีเอสแอล ลีสซิ่ง (BBB), บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์(A), บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) (A), บมจ.ศุภาลัย(A-), บมจ.ภัทรลิสซิ่ง (A-), บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์(A-), บมจ.อยุธยาแคปปิตอล ออโต้ลิส(A+), บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท(A), บจ.กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง(AA-) ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade)
- หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป หรือผลการประมูลของตราสารไม่เป็นไปตามที่กำหนด ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทน ตามอัตราที่ประมาณการไว้
- ทั้งนี้ ตราสารที่ลงทุน สัดส่วนการลงทุน และประมาณการค่าใช้จ่าย อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ หากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป หรือตามที่บริษัทจัดการเห็นสมควร
- กองทุนจะถือทรัพย์สินที่ลงทุนตลอดรอบการลงทุนแต่ละรอบ 3 เดือนโดยประมาณ
หากผู้ถือหน่วยไม่ส่งคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนมาภายในวันและเวลาที่กำหนดในการเปิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุน บริษัทจัดการจะถือว่าผู้ถือหน่วยลงทุนประสงค์ที่จะลงทุนต่อไปในรอบการลงทุนถัดไป
บริษัทจัดการสงวนสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลงตราสารที่ลงทุน สัดส่วนการลงทุนและประมาณการค่าใช้จ่าย สำหรับการลงทุนในแต่ละรอบทุก 3 เดือนโดยประมาณ โดยไม่ถือเป็นการแก้ไขโครงการ โดยจะแจ้งรายละเอียดการลงทุนดังกล่าว ในหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปและหรือเว็บไซด์ของบริษัทจัดการ ให้ผู้ลงทุนทราบล่วงหน้า
โดยผู้ลงทุนสามารถลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท ซึ่งหากนักลงทุนสนใจ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-352-4050 อัตราผลตอบแทนสามารถดูได้จากเอกสารแนบ
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต