กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,253 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,245 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 32.07 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,950 บาท กับ 19,000 บาท และกลับมาปิดที่ 18,900 บาท กับ 19,000 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,718 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 6,624 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 17% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 6% GFZ13 ปิด 19,110 บาท และ GFG13 ปิด 19,210 บาท GF10Z13 ปิดที่ 19,100 บาท GF10G13 ปิดที่ 19,180 บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ระดับ 1,241.4 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 3.4 เซนต์ ที่ระดับ 19.84 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 848.91 ตัน น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 41 เซนต์ ปิดที่ระดับ 93.68 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.26 จุด ปิดที่ 16,072.80 จุด
ข่าวที่สำคัญ
ทองคำ ปิดบวกได้รับแรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯที่ชะลอตัวลง ซึ่งการปรับตัวลดลงของดัชนีดังกล่าวกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ทองคำยังคงการซื้อขายค่อนข้างเบา บางแม้ว่าการประกาศตัวเลขการอนุญาตสร้างบ้านจะช่วยกดดันราคาทองคำลงแต่ค่า เงินดอลลาร์กลับอ่อนค่าลงหนุนราคาทองคำเช่นกัน
รายงานคิทโก้ระบุว่าการขอ อนุญาตการสร้างบ้านที่เพิ่มขึ้นทำให้เฟดนั้นอาจลดเม็ดเงินอัดฉีดไม่ช้าก็ เร็วอีกทั้งตลาดนั้นเริ่มเบาบางจากการเข้าใกล้เทศกาลThanksgiving ในวันพฤหัสบดีนี
ภาพรวมของตลาดทองคำยังคงเป็นภาวะหมีขาลงจากที่ตลาด หุ้นนั้นเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการลงทุนซึ่งเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมานั้นเป็นภาวะกระทิงร้อนแรงและทำให้นักลงทุนส่วนมากโยกย้าย สินทรัพย์เข้าสู่ตลาดหุ้นเป็นส่วนมาก
จิม เวคคอฟนักวิเคราะห์จากคิทโก้ ยังคงให้ระดับแนวรับทองคำไว้ที่ระดับ 1,200 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 1,275 เหรียญ
เบ ฟินผู้ควบคุมดูแลระบบการเงินการธนาคารแห่งเยอรมนีได้มีการเฝ้าติดตามและปรับ เปลี่ยนการกำหนดราคาทองคำและโลหะเงินโดยผ่านทางธนาคารที่ได้ทำการปรับปรุง และเป็นไปตามรูปแบบสหรัฐฯและอังกฤษ
รายงานรอยเตอร์ ระบุว่า สำหรับการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจในคืนนี้เป็นที่จับตามองอย่างมากถ้าหากตัว เลขออกมาดีขึ้นกว่าที่คาดไว้ก็จะยิ่งกระตุ้นให้เฟดนั้นพร้อมที่จะลดเม็ดเงิน อัดฉีดในทันที
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยก่อนที่จะมีการประกาศ ตัวเลขเศรษฐกิจเพื่อชี้นำเฟดหลังจากที่ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯนั้นเริ่มฟื้นตัว ตลาดเริ่มกังวลว่าตัวเลขการขออ้างสิทธิ์การว่างงานอาจเพิ่มขึ้นและสินค้าคง ทนอาจลดลงอีกและความรู้สึกของผู้บริโภคนั้นลดลง โดยเมื่อนี้ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ แตะระดับ 80.679 จุด จากเดิมที่ระดับ 80.884 จุดในวันก่อน
สำหรับค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น จากการรอคอยการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้ที่ตลาดเชื่อว่าจะดีขึ้น หลังจากที่ECB นั้นได้ทำการลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่ออัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบตลาดสหภาพยุโรป
รายงาน การประชุมประจำเดือนตุลาคมของบีโอเจ แสดงให้เห็นว่า กรรมการในที่ประชุมมีความเห็นต่างกันเรื่องการบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ ที่ 2% ส่งผลให้ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วันเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์
นักวิเคราะห์ กล่าวว่า ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านครั้งล่าสุดแสดงให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายประนีประนอม กันมากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสู่การผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรด้านน้ำมันในเร็วๆนี้ และจะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันของอิหร่านกลับเข้าสู่ตลาดโลกมากขึ้นในระยะยาว และจะทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงด้วย
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดปรับตัวสูง ขึ้นเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงหนุนจากดัชนีราคาบ้าน 20 เขตของสหรัฐฯที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่งในรอบ 7 ปี
ตลาดหุ้น โตเกียวเปิดวันนี้ร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากตลาดพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินเยนเมื่อเทียบกับยูโรและ ดอลลาร์
สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ส คาดการณ์ว่า การปฏิรูปตลาดและการบรรเทาความเสี่ยงทางการเมืองของจีน จะส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปรับตัวดีขึ้นในปีหน้า เนื่องจากความเชื่อมั่นนักลงทุนฟื้นคืน
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของ จีน กล่าวว่า หากปัญหาการเมืองไทยยังยืดเยื้อและลุกลามไปมากกว่านี้ อาจส่งผลต่อเสถียรภาพของประเทศไทย รวมถึงความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคด้วย จึงวอนขอให้ทุกฝ่ายเจรจากันอย่างสันติ ไม่ใช้กำลังและความรุนแรง
นักวิชาการระบุว่า ปัญหาเรื่องการเมืองไทย จะส่งผลให้ตัวเลขจีดีพี เติบโตหลุดเป้าที่ตั้งไว้ในไตรมาสที่ 4 จากระดับ 5% จะเหลือเพียง 3-4% เท่านั้น ทั้งนี้นักวิชาการคาดหวังว่า การประชุมกนง. ในวันนี้จะมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.5%
ขณะที่นักวิเคราะห์ เศรษฐกิจบางราย คาดการณ์ว่า การประชุม กนง.ในวันนี้ ที่ประชุมอาจตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% จากปัจจุบัน 2.5% เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวได้ในระยะเวลาต่อไป
นอกจากนี้ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เผยว่า กำลังประสานกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย หรือ คณะกกร. เพื่อหารือวาระด่วนในวันนี้ (27 พ.ย.) โดยแสดงจุดยืนถึงความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองไทยที่เริ่มเข้าสู่ภาวะตึง เครียด ซึ่งภาคเอกชนต้องการให้ทุกฝ่ายเจรจากันโดยสันติ เพื่อให้ประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ขณะนี้มีหนังสือแจ้งเตือนจากทั้ง 22 ประเทศ เพื่อเตือนให้ประชาชนของประเทศตนเองหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้เขตพื้นที่ชุมนุม ในประเทศไทย ส่งผลให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย วอนขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมแต่เพียงเท่านี้ เพราะจะทำให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยเสียหาย และจะส่งผลต่อเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และความร่วมมือกับประเทศต่างๆ
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวาน
- Building Permits ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.93M ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 1.03M
- CB Consumer Confidence ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 71.2 ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 70.4
ตัวเลขที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้
- Core Durable Goods Orders ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.2% ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.5%
- Revised UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 72 ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 73.1
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 323K ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 331K
- Durable Goods Orders ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 3.8% ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ -1.5%
- Chicago PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 65.9 ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 60.5
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเมื่อวานนี้ในรูปของ USD ปรับตัวลดลง ในขณะที่ค่าเงินบาทยังกลับมาอ่อนค่าต่อเนื่อง ทะลุระดับ 32 บาท/ดอลลาร์ ขึ้นมาที่ 32.07 บาท/ดอลลาร์โดยประมาณ และเช้าวันนี้เงินบาทยังอ่อนค่าต่อเนื่อง ในเช้านี้อยู่บริเวณ 32.12 บาท/ดอลลาร์โดยประมาณ ขณะที่เมื่อวานนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมา อันได้แก่ Building Permits ที่ออกมาดีขึ้นอยู่ที่ 1,030,000 ยูนิต จาก 970,000 ยูนิต ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ แตะระดับ 70.4 จุด จากระดับ 71.2 ขณะที่ SPDR เมื่อวานนี้ไม่ได้ทำอะไร ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 848.91 ตัน ภาพรวมดูจะทรงๆ การเคลื่อนไหวน่าจะน้อยเนื่องจากวันพรุ่งนี้เป็นวัน Thanksgiving และวันศุกร์นี้เป็น Black Friday ซึ่งเป็นช่วงหยุดยาว
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำในเชิงเทคนิคยังอยู่ในแนว โน้มขาลง มีการแกว่งตัว Technical Rebound สั้นๆทดสอบแนวต้านด้านบน 1,260 เหรียญปรับตัวลดลง ตลาดน่าจะเคลื่อนตัวในกรอบแคบหรืออาจจะปรับตัวลดลงต่อ เนื่องจากจะเป็นช่วงหยุดยาว นักลงทุนไม่ถือครองสถานะมากนัก Gold Futures series Z ในตลาด COMEX จะมีการซื้อขายวันสุดท้ายในวันที่ 29 พ.ย.นี้ และคาดว่าวันนี้จะมีปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังเป็นกลยุทธ์ในแนวโน้มขาลง และเชื่อว่าราคาจะยังเคลื่อนตัวในกรอบแคบๆของวันนี้ระหว่าง 1,230-1,250 เหรียญ
-นักลงทุนที่ถือ Long Position
ยังแนะนำให้ลดสถานะ Long Position และตั้ง Stop Loss เอาไว้บริเวณ 1,230 เหรียญ
-นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังเป็นลักษณะการทำกำไรเป็นช่วงๆในระยะสั้น รอการหยุดยาวในช่วงวันพฤหัสบดี ศุกร์ และเสาร์
Gold Futures Z13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,040 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,240 บาท
Gold Futures G14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,130 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,330 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้ วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง