กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--WorkLink
ณุศาศิริ คาดรายได้รวมปีนี้ทะลุ 1,500 ล้านบาทโต 184% เตรียมปรับกลยุทธ์ปี 57 รุกจังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยว สร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ พร้อมจับมือพันธมิตรเพิ่มประสิทธิภาพงานก่อสร้าง เตรียมเพิ่มทุน 1,000 ล้านหุ้นออก PP 400 ล้านหุ้น และหุ้นกู้แปลงสภาพ 600 ล้านหุ้น ระดมเงิน 700 ล้านบาท AO Fund กองทุนต่างชาติเชื่อมั่นศักยภาพจ่อลงทุน เผยออกโครงการใหม่อย่างน้อย 2 โครงการ
นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) (NUSA) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะรับรู้รายได้จากการขายคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 1,545 ล้านบาท โดยเป็นการรับรู้รายได้จากโครงการ PARC EXO เกษตร-นวมินทร์ โครงการ My Ozone Nusa Chivani @ Pattaya และโครงการแนวราบที่มีอยู่เดิม โดยรายได้จาการขายดังกล่าวคิดเป็นอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 184.53% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาซึ่งมีรายได้จากการขายอยู่ที่ 543 ล้านบาท
“อัตราการเติบโตของยอดขายปีนี้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ แม้จะคลาดเคลื่อนจากเป้าหมายที่วางไว้เล็กน้อย เนื่องจากเกิดความล่าช้าในการส่งมอบงานก่อสร้างโครงการ PARC EXO รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น นโนบายการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร แต่เราคาดว่ารายได้จะยังเติบโตได้ค่อนข้างดี โดยรายได้ส่วนใหญ่จะมาจากโครงการ PARC EXOและ My Ozone ที่จะรับรู้รายได้ในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตามในส่วนของโครงการที่มีความล่าช้าออกไป จะส่งผลดีต่อการรับรู้รายได้ของปี 57 ตั้งแต่ช่วงต้นปีเป็นต้นไป ซึ่งปัจจุบันบริษัทมี back log อยู่ที่ประมาณ 3,400 ล้านบาท”นายวิษณุ กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 57 NUSA จะรุกตลาดจังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยวมากขึ้นเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางบนที่มีกำลังซื้อ รวมทั้งตลาดลูกค้าชาวต่างชาติ เน้นการสร้างโครงการที่มีความแตกต่าง ครบวงจร มีการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกเฉพาะของแต่ละโครงการ ขณะเดียวกันจะเพิ่มประสิทธิภาพการก่อสร้างโครงการต่างๆให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรหลายราย เพื่อร่วมกันดำเนินการ
นอกจากนี้บริษัทจะทำการเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยแบ่งเป็นการเสนอขายให้กับนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (Private Placement) จำนวนไม่เกิน 400 ล้านหุ้น และหุ้นกู้แปลงสภาพ (Convertible Debenture) ที่ออกให้ผู้ลงทุนในต่างประเทศโดยเฉพาะเจาะจง จำนวน 600 ล้านหุ้น วงเงินไม่เกิน 700 ล้านบาท เพื่อใช้รองรับในกรณีที่บริษัทฯต้องการสภาพคล่องเพื่อการลงทุน
โดยจะทำการเสนอขายให้กับ AO Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนระยะยาวในบริษัทที่มีศักยภาพ ซึ่งอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย และไทย ทั้งนี้บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพมาใช้สำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียนในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันจำนวน 10 โครงการ และนำไปใช้เป็นเงินลงทุนสำหรับโครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้น
นางศิริญา เทพเจริญ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาด NUSA เปิดเผยว่า ในปี 57 บริษัทมีแผนงานเบื้องต้นที่จะลงทุนในโครงการใหม่จำนวน 2 แห่ง ประกอบด้วย The Lake Como และ Nusa Chivani พระราม 2 โดยสองโครงการจะมีมูลค่าโครงการรวมกว่า 3,000 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการบริษัทมีที่ดินในมือเพื่อรอการพัฒนาอยู่แล้ว
นอกจากนี้ NUSA ยังมีแผนรุกตลาดโครงการเดิมอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงต้นปีจะเน้นการรุกตลาดโครงการแนวสูง ประกอบด้วย UP เอกมัย และ Fresh คอนโดมิเนียม ขณะที่โครงการแนวราบ บ้านเดี่ยว ทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด จะเน้นการทำตลาดกับลูกค้าต่างชาติมากขึ้น ตลอดจนเพิ่มรูปแบบการขายในส่วนของบ้านสั่งสร้าง เป็นต้น
อนึ่ง โครงการในปัจจุบันของ NUSA ประกอบไปด้วยโครงการบ้านเดี่ยว 4 โครงการ คือ ณุศาศิริ พระราม 2, กฤษณา พระราม 5, บ้าน ณราธร และ ณุศา ชีวาณี พัทยา เขาใหญ่ โครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการ ประกอบด้วย Up Ekamai PARC EXO เกษตร นวมินทร์ และ เฟรช คอนโดมิเนียม และโครงการอื่นๆ ประกอบไปด้วย แบงคอค เมดิเพล็กซ์, Nuza Avenue และ PARC EXO-Sport Mall