กรุงเทพ--12 ก.พ.--กระทรวงสาธารณสุข
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยันการปรับปรุงระบบสวัสดิการข้าราชการตามมติ ครม.ที่ผ่านมาข้าราชการไม่ต้องตระหนกกังวลทุกคนยังมีสิทธิประโยชน์การเบิกจ่ายสวัสดิการรักษาพยาบาลทุกอย่างพ่อ แม่ ลูก สามีหรือภรรยายังได้รับสิทธินี้เหมือนเดิม
นายรักเกียรติ สุขธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า มติครม.เกี่ยวกับการปรับปรุงระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการว่ายังมีข้าราชการและประชาชนที่มีบุตรหลานเป็นข้าราชการหลายคนยังเข้าใจผิดว่าเป็นการตัดสิทธิประโยชน์ค่ารักษาพยาบาล และหลายคนคิดว่าจะตัดสิทธิการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของ พ่อ แม่และบุคคลในครอบครัว ของผู้เป็นข้าราชการด้วย
นายรักเกียรติ กล่าวว่าการปรับปรุงระบบดังกล่าวไม่มีผลกระทบเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลแต่อย่างใดทุกคนยังมีสิทธิเหมือนเดิมทุกอย่างสามารถใช้สิทธิการรักษาพยาบาลได้แต่มีเงื่อนไขว่าการใช้จ่ายทุกอย่างต้องเป็นไปด้วยความประหยัดและมีความจำเป็นเพื่อให้สอดคล้องกับฐานะทางการเงินของประเทศ เช่นการรักษาพยาบาลให้สถานพยาบาลหันมาใช้ยาตามบัญชียาหลักแห่งชาติ ซึ่งครอบคลุมการรักษาทุกโรคหากเป็นยาต่างประเทศหรือเป็นยานอกบัญชียาหลักให้จ่ายเองทั้งนี้หากคณะกรรมการแพทย์ของโรงพยาบาลเห็นว่ามีความจำเป็นต้องใช้ยาดังกล่าวก็มีสิทธิเบิกค่ารักษาได้,การใช้บริการตรวจรักษาคลินิกนอกเวลาราชการที่โรงพยาบาลรัฐคงเบิกค่ารักษาและค่ายาได้เหมือนเดิม ยกเว้นค่าธรรมเนียมแพทย์ไม่สามารถนำมาเบิกได้, ค่าห้องพิเศษและค่าอาหารเบิกได้ตามสิทธิหากผู้ป่วยประสงค์จะนอนโรงพยาบาลนานเกินกว่าที่แพทย์กำหนดเช่นบางคนขออยู่ต่อเพราะไม่มีคนดูแลหรือบางคนอาการดีขึ้นแพทย์ให้กลับบ้านได้แต่ขอนอนพักต่อที่โรงพยาบาลในส่วนดังกล่าวผู้ป่วยต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเองยกเว้นรายที่แพทย์ผู้ทำการรักษาต้องการแยกผู้ป่วยติดเชื้อในห้องพิเศษรัฐยังจ่ายให้หมด ส่วนผู้ป่วยนอนห้องสามัญหรือห้องผู้ป่วยรวม รัฐยังรับภาระให้สามารถเบิกจ่ายได้ตามปกติ ,สำหรับการตรวจรักษาที่ไม่มีความจำเป็นหรือการศัลยกรรมตบแต่งเสริมความงามก็ไม่มีสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลได้เช่นกันพร้อมทั้งให้ยกเลิกสิทธิในการเข้ารับการตรวจสุขภาพและรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลเอกชนเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีเงื่อนไขที่เหมาะสมและให้หันมาใช้บริการที่โรงพยาบาลของรัฐเพราะโรงพยาบาลของรัฐมีแพทย์และเครื่องมือที่ทัดเทียบเท่ากับโรงพยาบาลเอกชน
อย่างไรก็ตามมาตรการดังกล่าวถือเป็นมาตรการชั่วคราวเพราะจะสามารถประหยัดงบประมาณให้รัฐได้ประมาณ 1,925 ล้านบาทต่อปีและจะได้ปรับปรุงระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการระยะยาวต่อไปโดยทางรัฐบาลพยายามสงวนสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของข้าราชการคงเดิมหรือมีผลกระทบน้อยที่สุด --จบ--