กรุงเทพฯ--28 พ.ย.--เวิรฟ
- พบกับรถยนต์ต้นแบบ the concept GLA พร้อมเปิดตัวยนตรกรรมใหม่ 4 รุ่นได้แก่ the new GL 350 BlueTEC AMG Premium, the E 300 BlueTEC HYBRID Estate AMG Dynamic, the C 200 Edition C และ the C 250 AMG Plus
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมกระตุ้นตลาดรถหรูส่งท้ายปีในฐานะผู้นำตลาดรถยนต์พรีเมี่ยม จัดทัพนำขบวนยนตรกรรมหรูรวมกว่า 21 รุ่น ครบครันในทุกเซ็กเมนต์ รวมทั้งรถยนต์ต้นแบบและยนตรกรรมใหม่ล่าสุด จัดแสดงในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป หรือมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 30 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี
มร. ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “งานมอเตอร์เอ็กซ์โปเป็นหนึ่งในกิจกรรมการตลาดส่งท้ายปี ซึ่งในปีนี้เราได้จัดเตรียมพื้นที่สำหรับการจัดแสดงสุดยอดยนตรกรรมไว้อย่างยิ่งใหญ่ในฐานะที่เมอร์เซเดส-เบนซ์เป็น ผู้บุกเบิกโลกแห่งยนตรกรรมมามากกว่า 125 ปี โดยบูธของเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้สะท้อนถึงปรัชญาของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ว่า “The best or nothing.”โดยเราได้นำขบวนยนตรกรรมหลากหลายเทคโนโลยีและดีไซน์มาจัดแสดงกว่า 21 รุ่น รวมทั้งรถยนต์ต้นแบบและ ยนตรกรรมใหม่ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกกลุ่มพร้อมกับราคาที่น่าสนใจด้วย”
ไฮไลท์พิเศษของงานมอเตอร์เอ็กซ์โปปีนี้ คือ การนำเสนอยนตรกรรมต้นแบบ และยนตรกรรมใหม่ล่าสุด โดยเริ่มจาก Concept GLA รถยนต์ต้นแบบ SUV คอมแพ็คพรีเมี่ยม ที่ได้รับการออกแบบโดยได้รับอิทธิพลมาจากรถยนต์รุ่น A-Class และ B-Class ที่เน้นความเป็นสปอร์ตเหมาะสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่สำคัญโดดเด่นด้วยนวัตกรรมไฟส่องสว่างที่ล้ำหน้าที่สุดในปัจจุบันคือเทคโนโลยีระบบเลเซอร์โปรเจ็คเตอร์ ในโคมไฟหน้าที่จะให้แสงสว่างที่คมชัดและสามารถฉายภาพยนต์ได้ด้วย GL 350 BlueTEC AMG Premium ยนตรกรรมหรู SUV ใหม่ระดับลักซ์ชัวรีที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์อันทรงพลังและสมรรถนะรวมถึงระบบความปลอดภัยใหม่ที่เหนือกว่าพร้อมพื้นที่ภายในกว้างขวาง ถัดมาเป็นสมาชิกล่าสุดในตระกูล E-Class family คือ E 300 BlueTEC HYBRID Estate AMG Dynamic ยนตรกรรมหรูที่มาพร้อมกับพื้นที่ใช้สอยอรรถประโยชน์กว้างขวาง C 200 Edition C ที่มาพร้อมกับเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่น มีสไตล์ ในทุกองค์ประกอบ บ่งบอกถึงความปราดเปรียว สปอร์ต แข็งแกร่ง สะกดทุกสายตา ตั้งแต่กระจังหน้าแบบสปอร์ต เบาะนั่งดีไซน์ใหม่ด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยม รวมทั้งชุดแต่ง AMG และ C 250 AMG Plus โดดเด่นในทุกรายละเอียด สะท้อนถึงอารมณ์ความเป็นสปอร์ตที่เร้าใจกว่าเดิม ตั้งแต่ไฟหน้าแบบไบซีนอน พร้อมระบบปรับโคมไฟหน้าอัจฉริยะ ช่วงล่างแบบสปอร์ต พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ตพร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย เบาะนั่งดีไซน์สปอร์ต พร้อมด้วยชุดแต่ง AMG Plus
Concept GLA — Escape the everyday ต้นแบบนวัตกรรมคอมแพ็คพรีเมี่ยม SUV
Mercedes-Benz Concept GLA เป็นยนตรกรรมต้นแบบของรถยนต์พรีเมี่ยม SUV ขนาดคอมแพ็คใหม่ล่าสุด มีขนาดมิติตัวถังความยาว 4,383 มิลลิเมตร กว้าง 1,978 มิลลิเมตร และสูง 1,579 มิลลิเมตร ได้รับการออกแบบโดยได้รับอิทธิพลมาจากรถยนต์รุ่น A-Class และ B-Class โดย Concept GLA มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ พร้อมเทอร์โบชาร์จ ให้กำลัง 155 กิโลวัตต์ 211 แรงม้า ขนาดความจุกระบอกสูบ 1,991 ซีซี ใช้ระบบส่งกำลังแบบคลัทช์คู่เดินหน้า 7 จังหวะ (7G-DCT) และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ 4MATIC
Concept GLA รถยนต์พรีเมี่ยม SUV ขนาดคอมแพ็คได้รับการปฏิวัติในการดีไซน์ใหม่โดยให้มีรูปลักษณ์ภายนอกสปอร์ตและทันสมัยเหมือนรถยนต์คูเป้มากขึ้น แต่มีบุคลิกที่แข็งแกร่ง ดุดันกว่า เต็มไปด้วยพละกำลัง ภายใต้แนวคิด “Escape the everyday” เมอร์เซเดส-เบนซ์ Concept GLA จึงเหมาะแก่การใช้งานเพื่อการพักผ่อนและเพลิดเพลินกับกิจกรรมใหม่ๆ เพื่อหลีกหนีความจำเจในชีวิตประจำวันอีกด้วย
รูปลักษณ์ภายนอก สวยงามโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ล้ำหน้าไปในอนาคต กระจังหน้าแบบสปอร์ตพร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ตรงกลาง โคมไฟหน้าและหลังมีขนาดใหญ่และยาวขึ้น ลายเส้นพลิ้วไหวโค้งนูนด้านข้างดึงดูดสายตาแสดงให้เห็นถึงพลังและความมุ่งมั่น
ภายในได้รับการดีไซน์ให้มีความสปอร์ตทันสมัยล้ำยุค สวยงามสมบูรณ์แบบเหมือนงานประติมากรรมชั้นเลิศ สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างอีกระดับที่เปี่ยมด้วยคุณภาพของรถคอมแพ็ค SUV ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ห้องโดยสารโดยรวมให้อารมณ์สปอร์ตและความทันสมัยด้วยโทนสีเฉดน้ำตาลสลับสีเทา เบาะแบบสปอร์ต 4 ที่นั่งแยกอิสระ ช่องแอร์บนแผงคอนโซลหน้าและด้านหลังมีรูปแบบเหมือนในรุ่น Concept A-Class และ Concept Style Coupe แต่ได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นคือสามารถปรับสีได้ตามอุณหภูมิ คือ จะเป็นสีขาวถ้าอุณหภูมิที่ 22 องศาเซลเซียส และจะเป็นสีฟ้าถ้าอุณหภูมิต่ำลง หากร้อนขึ้นจะเป็นสีแดง
ที่สำคัญเมอร์เซเดส-เบนซ์ Concept GLA มาพร้อมกับนวัตกรรมด้านแสงไฟใหม่ล่าสุดแห่งโลกยนตรกรรมในปัจจุบัน คือ ดวงไฟหน้าติดตั้งด้วยระบบเลเซอร์โปรเจ็คเตอร์ ที่ไม่เพียงให้ลำแสงไฟที่สว่างมากขึ้นสะดวกในการขับขี่ แต่ยังสามารถทำงานร่วมกันระหว่างเซ็นเซอร์ในระบบไฟหน้าและระบบนำทางผ่านดาวเทียม (navigation system) เพื่อให้ผู้ขับขี่รู้สภาพท้องถนนล่วงหน้า นอกจากนี้ยังสามารถฉายภาพ และภาพยนตร์จาก smartphone และจากอินเตอร์เน็ตอื่นๆ ได้อีกด้วย นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญแห่งวิศวกรรมยานยนต์ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถให้มากขึ้น
GL 350 BlueTEC AMG Premium : SUV หรูระดับเฟิร์สคลาส พร้อมในทุกสถานการณ์
GL 350 BlueTEC AMG Premium เป็นยนตรกรรม SUV หรูในระดับลักซ์ชัวรีออฟโรด 7 ที่นั่งขับเคลื่อน 4 ล้อ โดดเด่นทั้งรูปลักษณ์ภายในและภายนอก ด้วยดีไซน์อันโฉบเฉี่ยวแฝงไปด้วยพละกำลัง แต่ยังคงความหรูหรา สะดวกสบายและปลอดภัย ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุคุณภาพชั้นเยี่ยม พร้อมด้วยพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางให้ความสะดวกสบายในทุกอิริยาบถ แม้จะอยู่ในเบาะคู่แถวที่ 3 โดยพนักพิงเบาะนั่งแถวที่ 2 พับได้แบบ 1/3 และ 2/3 ด้วยระบบไฟฟ้า ส่วนเบาะนั่งแถว 2 สามารถพับ-เลื่อนเก็บได้ด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเข้าออกรถสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 3 (EASY-ENTRY) รวมทั้งเบาะแถวที่ 3 ยังสามารถพับเก็บได้ด้วยระบบไฟฟ้าเช่นกัน โดย GL 350 BlueTEC AMG Premium มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล V6 เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 2,987 ซีซี ให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 190 กิโลวัตต์ (258 แรงม้า) ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 620 นิวตันเมตร ที่ 1,600 — 2,400 รอบต่อนาที อัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 7.9 วินาที และความเร็วสูงสุด 220 กม./ชม. โดยขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G-TRONIC PLUS) แบบ DIRECT SELECT พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Steering-wheel Gearshift Paddles) และยังเพียบพร้อมไปด้วยระบบความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้น อาทิ ระบบรักษาสมดุลของตัวรถเมื่อมีลมมาปะทะด้านข้าง (Crosswind Assist) ระบบรักษาการทรงตัวขณะเข้าโค้ง ขณะเปลี่ยนเลนที่ความเร็วสูง และเมื่อขับขี่แบบออฟโรด (Active Curve System) และเพิ่มความปลอดภัยอีกระดับด้วยกล้องแสดงภาพ 360 องศา เป็นต้น GL 350 BlueTEC AMG Premium ราคา 8,990,000 บาท
E 300 BlueTEC HYBRID Estate AMG Dynamic
E 300 BlueTEC HYBRID Estate AMG Dynamic เป็นยนตรกรรมรุ่นล่าสุดในตระกูล E-Class family ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและภายใน เน้นความเป็นสปอร์ตมากขึ้น ตั้งแต่แผงกระจังหน้าและโคมไฟคู่หน้า ด้วยการนำไฟแบบ LED มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ ส่วนภายในห้องโดยสารมีคัดสรรวัสดุชั้นดีมีคุณภาพสูงมาใช้ให้ดูหรูหราขึ้น มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง โดยพื้นที่เก็บบรรทุกสัมภาระด้านหลังมีความจุถึง 1,905 ลิตร ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุด ทั้งยังประกอบด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย อาทิ ระบบเปิด-ปิดฝาท้ายอัตโนมัติ EASY-PACK tailgate เพียงปลายนิ้วสัมผัส แผ่นปิดที่เก็บสัมภาระด้านท้าย แบบดึงกลับ-เลื่อนเปิดขึ้นอัตโนมัติ และระบบ quickfold ซึ่งปรับที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังออกเป็น 1/3 : 2/3 ตอนได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดาย พร้อมด้วยหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลไฮบริดแถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบคู่ ความจุกระบอกสูบ 2,143 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 150 กิโลวัตต์ (204 แรงม้า) ที่ 4,200 รอบ/นาที และให้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเพิ่มอีก 20 กิโลวัตต์ (27 แรงม้า)ให้แรงบิดสูงสุดที่ 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 — 1,800 รอบ/นาทีและให้แรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้า 280 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0 — 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 7.8 วินาที และความเร็วสูงสุด 232 กม./ชม. ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G-TRONIC PLUS) E 300 BlueTEC HYBRID Estate AMG Dynamic ราคา 4,190,000 บาท
C 200 Edition C
C 200 Edition C ยนตรกรรมที่ได้รับการออกแบบให้โดดเด่นมีดีไซน์สปอร์ตมากขึ้น ตั้งแต่กระจังหน้าแบบสปอร์ตสีดำเคลือบเงาเสริมโครเมียม พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และไฟหน้าแบบฮาโลเจน (halogen) รมดำ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรุ่น Edition C ซึ่งทำให้เพิ่มความปราดเปรียว ดุดัน และดูกระฉับกระเฉงมากขึ้น เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ รวมทั้งการตกแต่งภายในที่ใช้วัสดุคุณภาพชั้นเยี่ยม มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ความจุกระบอกสูบ 1,796 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 135 กิโลวัตต์ (184 แรงม้า) ที่ 5,250 รอบ/นาที ให้แรงบิดสูงสุดที่ 270 นิวตันเมตร ที่ 1,800 — 4,600 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0 — 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 7.8 วินาที และความเร็วสูงสุด 235 กม./ชม. ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G-TRONIC PLUS) C 200 Edition C ราคา 2,290,000 บาท
C 250 AMG Plus
C 250 AMG Plus เป็นยนตรกรรมที่สะท้อนถึงอารมณ์ความเป็นสปอร์ตที่เร้าใจกว่าเดิม ตั้งแต่ไฟหน้าแบบไบซีนอน พร้อมระบบปรับโคมไฟหน้าอัจฉริยะ หลังคาซันรูฟแบบกระจก เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า ช่วงล่างแบบสปอร์ต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวและยึดเกาะถนนอย่างมั่นคง พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ตพร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย เบาะนั่งดีไซน์สปอร์ต รวมทั้งชุดแต่ง AMG bodystyling ตั้งแต่ภายนอก ทั้งกันชนหน้า กันชนหลัง และสเกิร์ตข้าง ล้ออัลลอย AMG ลาย 7 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ต ทูโทน ดำ-บรอนซ์เงิน สปอยเลอร์บนฝากระโปรงท้าย ไปจนถึงภายในห้องโดยสารที่มีเบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO สลับ DINAMICA microfiber สีดำเดินด้ายสีแดง มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ความจุกระบอกสูบ 1,796 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 150 กิโลวัตต์ (204 แรงม้า) ที่ 5,500 รอบ/นาที ให้แรงบิดสูงสุดที่ 310 นิวตันเมตร ที่ 2,000 — 4,300 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0 — 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 7.2 วินาที และความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G-TRONIC PLUS) C 250 AMG Plus ราคา 2,990,000 บาท
นอกจากไฮไลท์ดังกล่าว เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังได้เตรียมขนขบวนสุดยอดยนตรกรรมรวมทั้งสิ้นกว่า 21 คันในทุกเซ็กเมนต์ทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ อาทิ S 400 HYBRID, E 200 Executive, E 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic, A 250 AMG Sport, CLA 250 AMG Sport, ML 250 BlueTEC AMG Dynamic, C 180 Coupe AMG Dynamic และ Vito 115 CDI เป็นต้น
ข้อเสนอพิเศษในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป
นอกเหนือจากขบวนรถมากมายที่นำมาจัดแสดงภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปแล้ว เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังได้จัดข้อเสนอพิเศษเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน — 31 ธันวาคม 2556 ดังนี้
- สำหรับทุกท่านที่ซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกรุ่นและรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2556 (ยกเว้นรุ่น CLA-Class, M-Class และ S-Class) ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ขอเชิญท่านพบกับขบวนสุดยอดยนตรกรรมต้นแบบและยนตรกรรมใหม่ล่าสุดทั้ง 4 รุ่นและยนตรกรรมหลากหลายรุ่นได้ใน งานมอเตอร์เอ็กซ์โป ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน — 10 ธันวาคมศกนี้ ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี