กรุงเทพฯ--3 ธ.ค.--PR STORY
?ไข่มุกอันดามัน สวรรค์เมืองใต้ หาดทรายสีทอง สองวีรสตรี บารมีหลวงพ่อแช่ม? นี่คือคำขวัญประจำจังหวัดภูเก็ต จังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ของประเทศไทย เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ มีลักษณะต่างจากจังหวัดอื่นอย่างสิ้นเชิง เพราะเป็นจังหวัดเดียวที่พื้นที่ของจังหวัดทั้งหมดเป็นเกาะในมหาสมุทรอินเดีย
เมื่อเอ่ยถึง ?ภูเก็ต? หลายๆ คนมักจะนึกถึงธรรมชาติที่สวยงาม หาดทราย และสายลม เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามอยู่มากมาย อาทิ แหลมพรหมเทพ หาดป่าตอง หาดกะรน หาดราไวย์ หาดไม้ขาว เกาะเฮ เกาะราชา แต่ที่จะลืมไม่ได้เลยเมื่อไปเยือนก็คงจะต้องเป็นการเข้าไปกราบสักการะ ?หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง? หรือวัดไชยธาราม วัดคู่บ้านคู่เมืองที่มีชื่อเสียงของภูเก็ต อีกทั้งยังมีอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร ที่ได้รับการยกย่องเป็นวีรสตรีเมืองถลางสองวีรสตรีของไทย
โดยในปี 2556 นี้จำนวนนักท่องเที่ยวในช่วง 11 เดือน ที่เข้ามาภูเก็ต มีประมาณ 10 ล้านกว่าคน กวาดรายได้ด้านการท่องเที่ยวเข้าประเทศหลักแสนล้านบาทต่อปี ด้วยเหตุผลต่างๆ มากมาย จึงทำให้ ?ภูเก็ต? ถูกยกย่องให้เป็น ?ไข่มุกอันดามัน? นั่นเอง
?บริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาล บริการประทับใจ เพื่อนำภูเก็ตไปสู่เมืองน่าอยู่ คู่คุณธรรม? คือวิสัยทัศน์การพัฒนาขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ภูเก็ต ซึ่งหนึ่งในทีมบริหารก็คือ นางสาววิศัลย์ศยา ผลสิน หรือ สจ.นุช สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เขต 8 อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งนอกจากจะทำหน้าที่รับใช้ประชาชนแล้ว ยังเป็นต้นแบบให้กับคนภูเก็ตในการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในธุรกิจร้านอาหารของครอบครัว ซึ่งอาหารประจำถิ่น หรืออาหารใต้นี้เอง ก็เป็นอีกหนึ่งจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยือนจังหวัดนี้ ?ไข่มุกอันดามัน?
นางสาววิศัลย์ศยา กล่าวว่า เปิดร้านขายอาหาร ?ครัวเพิ่มทรัพย์? เจริญลอยตามบรรพบุรุษ เป็นรุ่นที่ 3 ซึ่งธุรกิจครอบครัวเคยทำอาหารแปรรูปมาก่อน ทุกคนในครอบครัวขอบทำอาหาร โดยมีไอเดียร์อยากเปิดร้านอาหารที่ทุกชนชั้นนั่งได้ ขายอาหารแบบครบวงจร เปิดร้านให้เป็นบ้านของเราเอง ที่บอกว่า แบบครบวงจร ก็คือขายอาหารที่หลากหลาย บางคนไปร้านขายบะหมี่ก็มีแต่บะหมี่อย่างเดียว อยากกินขนมจีนก็ไม่มี ส่วนร้านเราบริการครบวงจร มีอาหารหลายชนิดที่เด่นๆ อาทิ ขนมจีนน้ำยาปู แกงไตปลาเกาเหลา ก๋วยจั๊บ ห่อหมก ข้าวยำ ข้าวหมูแดง หมูกรอบ และติ่มซำนึ่งสด ซึ่งส่วนใหญ่ที่ภูเก็ตติ่มซำจะวนจากโต๊ะอื่นมาให้ลูกค้า แต่เรามองว่าหากนึ่งซ้ำความหอมหวานรสชาติจะลดลง
สำหรับวัตถุดิบที่ใช้ในร้านนั้น เนื้อสัตว์ซื้อตามตลาดทั่วไป พืชผักทางการเกษตรส่วนหนึ่งปลูกเอง เช่น ผักเครื่องเคียงที่คนภูเก็ตจะเรียกผักเกร็ด อย่างพวกมะละกอ ขนุน มะนาว มะเขือมีหลายอย่าง อาทิ ในไตปลามีกล้วยดิบ ใบกาหยี่ ดอกดาหลา เสริอมในข้าวยำ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นวัตถุดิบที่เรามี
การปลูกผักสวนครัวเรายึดตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีบ่อเลี้ยงปลา ปลูกผักสวนครัว เมื่อเหลือใช้ก็นำไปขาย หรือนำไปแลกเปลี่ยนผักอย่างอื่นที่เราไม่มี ใช้ปุ๋ยหมักที่มีอยู่ในพื้นที่ ซึ่งเรียนรู้มาจากปราชญ์ชุมชน โดยยึดหลักว่า ?ทำทุกอย่างให้ดี มีคุณภาพ?
ปัจจุบันเราพอใจการทำงานของตัวเอง แต่จะมีการพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความประทับใจในรสชาติอาหารและบริการ เพิ่มในแง่พีอาร์ โดยร้านเราเพิ่งเปิดได้เพียง 6 เดือน ขอให้สิ่งที่มีติดปากก่อน ถ้าอยู่ตัวก็จะทำแบบบริการส่งถึงบ้าน ออกบูทในพื้นที่ ออกงานโอทอปภูมิภาค ซึ่งปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้ามารับประทานมากขึ้น โดยการบอกปากต่อปากหลังจากที่ได้เข้ามาชิม และชอบในฝีมือของเรา
โดยเฉพาะขนมจีนลูกค้าติดใจในรสชาติและผักเคียง หรือที่ชาวภูเก็ตมักเรียกว่าผักเกร็ด ไม่ว่าจะเป็นถั่วงอกดอง ถั่วผักยาว แตง และผักอื่นๆอีกกว่าสิบชนิด นอกจากนี้ยังมีติ่มซำแบบนิ่งสดที่ลูกค้าสามารถเลือกและนำมานิ่งรับประทานเวียนเพราะทางร้านจะให้ความสำคัญที่รสชาติ ลูกคาจะได้รับประทานติ่มซำที่รสชาติกลมกล่อม สด หอม หวาน ไม่นำมาเวียน ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของร้านที่เลือกหารับประทานได้ยาก ข้าวยำก็เป็นอีกเมนูหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากลูกค้า ที่มาแล้วจะไม่พลาดที่สั่งมารับประทาน ห่อหมกที่ร้านจะมีห่อหมกหัวปลา ซึ่งหารับประทานยาก เพราะส่วนใหญ่จะมีห่อหมกเนื้อปลา เท่านั้น และนี้คือเมนูทางร้านได้รับความนิยมจากลูกค้าที่มาร้านแล้วจะมาพลาดที่จะสั่ง
?ส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบงานบริการ บริการด้วยใจ มาร้านคือมาแล้วกินอิ่ม ทำอาหารให้ดี ให้พอเพียง ให้ลูกค้าพอใจ หมั่นปรับปรุงแก้ไขอยู่เสอม นุชจะทำงานเองทุกอย่างและใส่ใจลูกค่าและลูกน้อง ทำเท่าที่เราทำไหว โดยยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง?
หากท่านใดมีโอกาสแวะไปเที่ยวภูเก็ต ก็อย่าลืมไปลิ้มลองอาหารเมืองใต้คุณภาพได้ที่ "ครัวเพิ่มทรัพย์" ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต อาคารพาณิชย์สีชมพู เลยศาลเจ้าสะปำ ขาเข้าเมืองภูเก็ต เปิดบริการตั้งแต่ 06.00 -14.00 น. โทร 086-952-0697, 081-922-2998, 086-364-3038