กรุงเทพฯ--4 ธ.ค.--ทริสเรทติ้ง
ทริสเรทติ้งกล่าววันนี้ว่า แผนการปรับโครงสร้างกิจการของ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) อาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของบริษัทได้ เนื่องจากบริษัทจะสูญเสียรายได้ที่ค่อนข้างสม่ำเสมอจากธุรกิจจัดการกองทุนและจะทำให้บริษัทมีที่มาของรายได้ที่กระจายตัวน้อยลง
ภายใต้แผนการปรับโครงสร้างกิจการที่ผ่านการอนุมัติโดยคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2556บล. คันทรี่ กรุ๊ป จะโอนธุรกิจบางส่วนของบริษัท ซึ่งรวมถึงธุรกิจวาณิชธนกิจและธุรกิจการลงทุนไปยังบริษัทลงทุน (โฮลดิ้ง) แห่งใหม่ โดยเงินลงทุนของบริษัทใน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ก็จะถูกโอนไปยังบริษัทลงทุนแห่งใหม่ดังกล่าวด้วย ปัจจุบันบริษัทถือหุ้นใน บลจ. เอ็มเอฟซี 24.9% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนใน บลจ. เอ็มเอฟซี คิดเป็นสัดส่วน 15% ของกำไรก่อนภาษีของบริษัทในปี 2555 แผนการปรับโครงสร้างกิจการดังกล่าวยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้น และการดำเนินการปรับโครงสร้างกิจการคาดว่าไม่น่าจะเสร็จสมบูรณ์ก่อนเดือนมิถุนายน 2557 ทั้งนี้ ภายหลังการปรับโครงสร้างกิจการ บริษัทจะดำเนินธุรกิจเฉพาะธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และตราสารอนุพันธ์และธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวข้องเป็นหลัก
ในมุมมองของทริสเรทติ้ง กำไรจากเงินลงทุนใน บลจ. เอ็มเอฟซี ถือเป็นแหล่งรายได้ประจำที่ค่อนข้างสม่ำเสมอแหล่งหนึ่งของบริษัท ทั้งนี้ ผลกระทบต่อธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่บริษัทได้รับจากการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารในตำแหน่งสำคัญในช่วงที่ผ่านมาน่าจะทำให้รายได้จาก บลจ. เอ็มเอฟซี ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นต่อผลประกอบการของบริษัท ทริสเรทติ้งมองว่าขอบเขตการดำเนินธุรกิจที่จำกัดลงของบริษัทและการสูญเสียรายได้จาก บลจ. เอ็มเอฟซี เป็นปัจจัยที่มีผลกระทบต่ออันดับเครดิตบริษัท ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งอาจทำการทบทวนอันดับเครดิตภายหลังทราบผลการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทซึ่งกำหนดไว้ในวันที่ 15 มกราคม 2557 นี้
ปัจจุบันทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กรของ บล. คันทรี่ กรุ๊ป ที่ระดับ ?BBB-? ด้วยแนวโน้ม ?Stable? หรือ ?คงที่?