กรุงเทพฯ--6 ธ.ค.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์
ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2556 บริษัท ดาว เคมิคอล (NYSE:DOW) มีกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เทียบกับไตรมาสเดียวกัน ของปีก่อน โดยมุ่งเน้นตลาดปลายทางหลัก ได้แก่ บรรจุภัณฑ์ สารเคลือบผิวและผลิตภัณฑ์หมวดโครงสร้างพื้นฐาน และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลักดันการเติบโตของยอดขายและกำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อมราคา (EDITDA) บริษัทฯมีกระแสเงินสด 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากการดำเนินงานในไตรมาสนี้ และเท่ากับ 5.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากการดำเนินงานจนสิ้นไตรมาส 3
บริษัท ดาว เคมิคอล รายงานกำไรต่อหุ้นในไตรมาสนี้ 0.49 เหรียญสหรัฐ หรือ 0.50 เหรียญสหรัฐ หากคำนวณตามหลักเกณฑ์การปรับเปลี่ยนทางบัญชี เปรียบเทียบกับปีก่อนที่มีกำไรต่อหุ้น 0.42 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เปอร์เซนต์ เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
บริษัทฯ มีกระแสเงินสด 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 นี้ หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 27 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากต้นปีจนถึงสิ้นไตรมาส 3 นี้ บริษัทฯ มีกระแสเงินสด 5.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 3.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับปีก่อน
บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 13.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 หากคำนวณตามหลักเกณฑ์การปรับเปลี่ยนทางบัญชี เมื่อเทียบกับปีก่อน รายได้จากการขายเพิ่มขึ้นในกิจการในหมวดการเกษตร (เพิ่มขึ้นร้อยละ 8) เช่นเดียวกับ กิจการสารเคลือบผิวและผลิตภัณฑ์ในหมวดโครงสร้างพื้นฐาน รวมไปถึงกิจการพลาสติก (Performance Plastics) (ซึ่งแต่ละกิจการเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ) ล้วนผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้นในระดับของแต่ละกลุ่มกิจการ นอกจากนั้นรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นในเกือบทุกภูมิภาค และเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 5 สำหรับตลาดเกิดใหม่ ซึ่งนำโดยทวีปละตินอเมริกา
ปริมาณขายของบริษัทฯ ลดลงร้อยละ 2 หรือร้อยละ 1 หากไม่รวมผลกระทบจากการถอนทุน (divestitures) ปริมาณขายเพิ่มขึ้นในกิจการอิเล็กทรอนิกส์และงานวัสดุฟังก์ชั่น (Functional Materials) ประมาณร้อยละ 6 กิจการสารเคลือบผิวและผลิตภัณฑ์ในหมวดโครงสร้างพื้นฐาน และกิจการในหมวดการเกษตร (แต่ละกิจการเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ) อย่างไรก็ตาม ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ ถูกลดทอนไปด้วยปริมาณขายที่ลดลงในกลุ่มกิจการอื่น โดยเฉพาะในหมวดวัตถุดิบและพลังงาน
บริษัทฯ รายงานราคาขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 จากการเพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์พลาสติก (Performance Plastics) (เพิ่มขึ้นร้อยละ 9) และผลิตภัณฑ์ในหมวดการเกษตร (เพิ่มขึ้นร้อยละ 3) โดยราคาขายเพิ่มขึ้นในเกือบทุกกิจการ
บริษัท มีผลกำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) ที่ 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีกิจการพลาสติก (Performance Plastics) มีกำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 32 นอกจากนี้กิจการสารเคลือบผิวและผลิตภัณฑ์ในหมวดโครงสร้างพื้นฐาน และกิจการอิเล็กทรอนิกส์และงานวัสดุฟังก์ชั่น (Functional Materials) มีกำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 และร้อยละ 5 ตามลำดับ
แอนดรูว์ เอ็น. ลิเวอริส ประธานบริษัทฯ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดาว เคมิคอล กล่าวว่า ?ดาว พยายามที่ดำเนินธุรกิจให้เป็นไปในทิศทางบวกอย่างต่อเนื่อง จากมาตรการพึ่งพาตนเองในภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีการเจริญเติบโตช้าลง บริษัทฯ มีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง ควบคู่กับการเติบโตของผลกำไรอย่างต่อเนื่องมาตลอดสี่ไตรมาสติดต่อกัน ด้วยห่วงโซ่คุณค่าที่ควบรวมไว้ด้วยกัน และความหลากหลายของตลาดกลุ่มเป้าหมาย เราได้พิสูจน์ให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ตลาดเกิดใหม่ ในด้านการเพิ่มมูลค่าให้ผู้ถือหุ้น และในกลุ่มกิจการปลายน้ำหลัก เช่น กิจการอิเล็กทรอนิกส์ กิจการสารเคลือบผิวและผลิตภัณฑ์ในหมวดโครงสร้างพื้นฐาน และกิจการบรรจุภัณฑ์ เราพยายามจัดลำดับความสำคัญของทรัพยากรของบริษัทฯ โดยมุ่งเน้นไปยังกิจการเหล่านี้ รวมไปถึงตลาดที่มีการเติบโตสูงอื่น ๆ
ตลอดระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา เรามุ่งความสนใจที่อัตราผลตอบแทนต่อเงินทุน โดยได้ตัดทอนกิจกรรมในธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก อาทิ การถอนการลงทุนในกิจการโพลีโพลพีลีนและกิจการสารเร่งปฏิกิริยา และยังลดความสำคัญในกิจการที่เติบโตช้า เช่น กิจการคลอรีน เรากำหนดเป้าหมายและแผนถอนการลงทุนที่ชัดเจน การดำเนินการเหล่านี้มีมูลค่าอย่างน้อย 3-4 พันล้านเหรียญสหรัฐ เงินที่ได้จะช่วยสร้างศักยภาพในการสร้างอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นต่อไป
เราจะยังคงให้ความสำคัญกับการให้ผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น ลดการจ่ายดอกเบี้ยจากโครงสร้างหนี้ และการจัดหาเงินทุนเพื่อช่วยในการเติบโตจากการพัฒนาทรัพยากรที่มีอยู่ (Organic Growth)?
มร. ลิเวอร์ริสยังกล่าวถึงอนาคตอันสดใสของบริษัทฯ ว่า ?ท่ามกลางสถานการณ์ธุรกิจโลกที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้เช่นนี้ ดาว เคมิคอล ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความคล่องตัวและความมุ่งมั่น โดยการบริหารงานอย่างแข็งขันในทุก ๆ ด้าน เพื่อที่จะสร้างผลกำไรให้กับบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง เรายังคงมุ่งใช้มาตรการพึ่งพาตนเองต่อไป โดยให้ความสำคัญกับเป้าหมายของอัตราผลตอบแทนต่อเงินทุนที่ชัดเจน รักษาระดับการบริหารต้นทุนและกระแสเงินสด โดยที่จะนำเงินลงทุนไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ ในโครงสร้างทุนและผู้ถือหุ้นของเรา?