สรุปราคาซื้อขายทองคำและGold Futures ภายในประเทศ ณ วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 9, 2013 10:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ธ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,227 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,233 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 32.32 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,750 บาท กับ 18,850บาท และกลับมาปิดที่ 18,750 บาท กับ 18,850 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,224 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 6,766 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 3.8% แบบ 10 บาท ลดลง 0.7% GFZ13 ปิด 18,950 บาท และ GFG13 ปิด 19,040 บาท GF10Z13 ปิดที่ 18,960 บาท GF10G13 ปิดที่ 19,040 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 2.9 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,229 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 1.9 เซ็นต์ ที่ระดับ 3.2485 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR (ขายออก 3 ตัน ถือครองทองคำ 835.71 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น27 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 97.65 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ ปิดเพิ่มขึ้น 198.69 จุด ปิดที่ 16,020.20 จุด ข่าวที่สำคัญ ทองคำดูเหมือนว่าจะเริ่มออกจากการสนใจในการประกาศตัวเลขงานเมื่อคืนวันศุกร์ แต่กลับให้ความสำคัญในการประชุมเฟดที่กำลังจะเกิดขึ้นสำหรับเดือนธันวาคมมากกว่าส่งผลให้ทองคำนั้นทะยานขึ้นไปรอไว้ก่อน นักวิเคราะห์กล่าวว่าจากการที่มีการปรับตัวลงและดีดกลับขึ้นไปนั้นได้มีแรงเข้าซื้อเพื่อปิด Short Covering เกิดขึ้นซึ่งให้ระดับความสำคัญในทองคำนั้นจะอยู่ที่ 1,210-1,251 เหรียญ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SPDR มีการเทขายทองคำเพิ่ม 3 ตัน ทำให้ปัจจุบันมีการคงทองที่ระดับ 835.71 ตัน ผลสำรวจจากคิทโก้ โดยได้รับการตอบรับทั้งหมด 19 ราย จาก 34 ราย พบว่า 7ราย มองว่าราคาจะมีการปรับตัวสูงขึ้นและ 7ราย คาดว่าราคาจะลงและอีก 5ราย ให้ความเป็นกลางไม่เปลี่ยนแปลง ผลการสำรวจของบลูมเบริ์กทิศทางของทองคำพบว่า 11 รายมองว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้น 16 รายมอว่าราคาจะลงและอีก2รายมองว่าราคาจะไม่เปลี่ยนแปลง นักวิเคราะห์เชื่อว่าตลาดนั้นยังคงรอเฝ้าจับตาดูการประชุมเฟดในวันที่ 17-18 ธันวาคมนี้ เป็นพิเศษ เนื่องจากจะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของเบน เบอร์นันเก้ในฐานะประธานธนาคารกลาง มาร์ค โอเบรียนจากโกลด์คอร์ โบรคเคอร์เรจ กล่าวว่า ทองคำดูเหมือนจะส่งสัญญาณขายมากเกินไปอีกทั้งแรงความต้องการทองคำของจีนนั้นเพิ่มขึ้นก่อนจะถึงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงปลายมกราคมนี้ซึ่งการบริโภคทองคำของจีนนั้นเพิ่มขึ้น 30% นับตั้งแต่รอบ 12เดือนที่ผ่านมาและแทนที่อินเดียไปเรียบร้อยแล้ว ผลสำรวจจากนักเศรษฐศาสตร์โดยบลูมเบริ์กพบว่า34%เฟดจะทำการลดQEลงที่เพิ่มขึ้นมาถึง17%จากการสำรวจครั้งก่อนแต่อย่างไรก็ตามมีเปอร์เซนต์ถึง53%ที่เชื่อว่าจะทำการลดQEลงในเดือนมีนาคมปีหน้า นักเศรษฐศาสตร์ของบลูมเบริ์กได้ทำการสำรวจเหล่าบรรดาผู้ตัดสินใจนโยบายทางการเงินของเฟดที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนธันวาคมซึ่งผลนั้นปรากฎว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่เฟดนั้นจะชะลอเม็ดเงินลงในเดือนมีนาคมปีหน้า จากตัวเลขงานที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 204,000 ตำแหน่ง ก็สอดคล้องกับคำพูดของ ชาร์ลี อีวาน ประธานเฟดสาขา ขิคาโกที่เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาเฟดจะลดเม็ดเงินลงก็ต่อเมื่อตัวเลขงานนัั้นแสดงออกมาว่าเหนือกว่า 200,000 ตำแหน่ง ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ชาร์ลี อีวาน ประธานฟดสาขาชิคาโกซึ่งเป็นผู้ที่สนับสนุนการลด QE มากที่สุด ได้ กล่าวว่า ถึงแม้ว่าเขาเองเปิดรับในเรื่องการลด QE ในเดือนนี้ แต่ก็ยังคงยินดีที่จะรอไปก่อน นักวิเคราะห์บางรายเชื่อว่าเฟดอาจมีการปรับลดเม็ดเงินลงในเดือนมกราคมเนื่องจากว่าตัวเลขอัตราว่างานในเวลานี้ลดลงอยู่ที่ระดับ7%ซึ่งก่อนหน้านี้ เบน เบอร์นันเก้ เคยกล่าวไว้ว่าเขาจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำตราบเท่าที่อัตราการว่างงานยังคงเหนือระดับ6.5% สำนักงานศุลกากรของจีนเปิดเผยว่า ยอดส่งออกเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 12.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 5.3% ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าของจีนในเดือนพ.ย.อยู่ที่ 3.38 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวแรงเมื่อวันศุกร์เนื่องจากรายงานตัวเลขจ้างงานและอัตราว่างงานออกมาดี ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังปรับตัวแข็งแกร่งขึ้น ตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อหุ้นหลังจากนิกเกอิร่วงลงในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนักลงทุนจำนวนมากมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐฯจะเปิด เผยตัวเลขจ้างงาน สำหรับกลุ่มผู้ชุมนุมวันนี้ได้เตรียมเคลื่อนพลตั้งแต่ 7.00น. เศษเพื่อไปปักหลักที่ทำเนียบรัฐบาล ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวาน - Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 200 k ตัวเลขคาดการณ์ลดลงอยู่ที่ระดับ 180k ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ 203 K - Unemployment Rate ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 7.3% ตัวเลขคาดการณ์ลดลงอยู่ที่ระดับ 7.2% ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ 7.0 % - Prelim UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 75.1 ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 76.2 ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ 82.5 ตัวเลขที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้ FOMC Member Bullard Speaks ทิศทางราคาทองคำ ภาพรวมราคาทองคำดีดตัวขึ้นมาได้แม้ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาค่อนข้างดีในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา ราคาร่วงลงมาที่บริเวณ 1,215-1,220 เหรียญ แต่ก็มีแรงซื้อกลับทุกครั้ง ทำให้ในวันพุธ วันพฤหัสบดี และวันศุกร์ ภายใน 3 วันนั้นมีการตกและดีดกลับขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งๆที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาค่อนข้างดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขการจ้างงาน อย่างไรก็ดี SPDR ในวันศุกร์ขายต่อเนื่องอีก 3 ตัน ลดการถือครองทองคำอยู่ที่ระดับ 835.71 ตัน และในส่วนของตัวเลขเศรษฐกิจไม่ค่อยกระทบต่อราคาตลาด ณ ขณะนี้ และค่าเงินดอลลาร์เองก็กลับมาอ่อนค่าแทนที่จะแข็งค่าขึ้น โดยค่าเงินดอลลาร์ต่อยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3707 แพทเทิร์นโดยภาพรวมของปัจจัยทางพื้นฐานกับราคาทองคำในช่วง 3 วันนี้ดูไม่ค่อยจะเคลื่อนไปในทิศทางปกติเท่าไหร่นัก วิเคราะห์ได้ว่า โอกาสที่ราคาทองคำจะดีดกลับเริ่มจะมีสูงขึ้น ถ้าในช่วง 2 วันนี้ราคายังไม่มี New low เชื่อว่าราคาจะดีดกลับขึ้นมาได้ และอาจจะเป็นการหยุดตกระยะยาวก็เป็นไปได้ วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ในเชิงเทคนิคพบว่า กราฟในราย 8 ชม. เริ่มมีในลักษณะของ Bullish Divergence ขึ้นมาบ้าง และหากนับกราฟตาม Elliott Wave ดูเหมือนกับจะมีการจบ wave 5 ได้แล้ว ซึ่งรอการยืนยันในอีก 2 วัน โดยภาพรวมในระยะสั้นดูลักษณะเป็นการ Bottom Out และเริ่มจะมีการ U-turn ของราคา อย่างไรก็ดี ราคาทองคำจะมีแนวรับบริเวณ 1,220 เหรียญ ในขณะที่แนวต้านอยู่บริเวณ 1,250 เหรียญ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ แนะนำให้นักลงทุนกลับทิศของการลงทุน และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์จากขาลงเป็นขาขึ้น และให้พยายามปิดสถานะ Short Position ออกไป โดยที่เช้าวันนี้รัฐบาลได้ประกาศยุบสภา ทำให้ค่าเงินบาทเองกลับมาแข็งค่าอย่างรวดเร็วกว่า 10 สตางค์ จากระดับที่ขึ้นไปสูงสุดบริเวณ 32.37 บาท/ดอลลาร์ ในคืนวันศุกร์ และมาปิดตลาดในช่วงเที่ยงคืนที่ระดับ 32.29 บาท/ดอลลาร์ เช้านี้กลับมาเปิดที่ระดับ 32.28 บาท/ดอลลาร์ และเมื่อประกาศยุบสภาราคาร่วงหลุดลงมาที่ 32.13 บาท/ดอลลาร์ โดยประมาณ กลยุทธ์การลงทุนจึงค่อนข้างสับสน เนื่องจากเงินบาทมีทิศทางที่แข็งค่าขึ้น ในขณะที่ราคาทองคำดูจะค่อนข้างทรงตัวได้เหนือบริเวณ 1,215 เหรียญ จึงแนะนำในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในลักษณะการเป็น Sideways ก่อนที่จะมีความชัดเจนของราคา ซึ่งตลาดคงรอการแถลงของนาย เบน เบอนันเก ที่จะแถลงในวันที่ 18 ธ.ค.นี้ นักลงทุนที่ถือ Long Position แนะนำให้ขายปิดทำกำไร นักลงทุนที่ถือ Short Position ควรที่จะลดสถานะหรือปิดสถานะ หรือมิเช่นนั้นก็ควรที่จะมี Stop Loss อยู่ในใจบริเวณ 1,243 เหรียญ Gold Futures Z13 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,800 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,000 บาท Gold Futures G14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,890 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,090 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง ** หมายเหตุ ** ประชาสัมพันธ์ : MTS Gold จัดงานสัมมนาพิเศษหัวข้อ "คลินิกการลงทุน : การบริหาร port การลงทุนและการใช้เครื่องมือSmart Technic" โดย นพ.กฤชรัชต์ หิรัณยศิริ วันที่ 9 ธ.ค. 56 ณ MTS Gold สาขาเซ็นลาดพร้าว ชั้น 12 เวลา 13.30 – 15.00 น. และ วันที่ 11 ธ.ค. 56 ณ MTS Gold สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น 17 เวลา 15.30 – 17.00 น. รับเฉพาะสมาชิก สำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิก แต่สนใจเข้าร่วมฟังงานสัมมนา สามารถเข้าร่วมได้ ด้วยการเปิดบัญชีในวันที่เข้าฟังสัมมนากับ MTS Gold สามารถสำรองที่นั่งเพื่อเข้าสัมมนาได้ที่ MTS Call Center 02 770 7777

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ