กรุงเทพฯ--22 ก.ย.--เอไอเอส
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดย กรมอุตุนิยมวิทยา จับมือ เอไอเอส ส่งข้อมูล “เตือนภัยธรรมชาติ” ถึงมือคนไทยผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ ด้วยเทคโนโลยี Cell Broadcast ที่สามารถส่งข้อมูลเตือนภัยได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ ทั้งยังระบุพื้นที่ในการเตือนภัยได้อย่างชัดเจน มอบความอุ่นใจและคุณภาพชีวิตให้แก่คนไทยแล้ว ตั้งแต่เดือนตุลาคม ศกนี้
นายสรอรรถ กลิ่นประทุม, รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวว่า “จากสถานการณ์ของสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา หรือสภาพอากาศที่เกิดขึ้นตามช่วงฤดูกาล ภาครัฐ ถือเป็นหน้าที่หลัก ซึ่งนอกเหนือจากการเข้าไปแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือเมื่อมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแล้ว หน้าที่สำคัญอีกประการก็คือ การทำให้ข้อมูลของสถานการณ์ทางธรรมชาติเหล่านั้นถึงมือของประชาชนได้อย่างทันสถานการณ์ เพื่อเตือนภัย ดังนั้น กระทรวงไอซีที ในฐานะที่เป็นผู้นำและเลือกสรรเทคโนโลยีเข้ามาผสมผสานกับบริการต่างๆ อันจะเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ในการส่งข้อมูล “เตือนภัยธรรมชาติ” ไปยังโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประชาชนเพื่อให้ข้อมูลในการเตือนภัยธรรมชาติดังกล่าว”
“ทั้งนี้ด้วยศักยภาพของกรมอุตุนิยมวิทยา หน่วยงานในสังกัดของกระทรวงไอซีที ซึ่งมีหน้าที่ในการตรวจ เฝ้าติดตาม รายงานสภาวะอากาศ และเตือนภัยจากธรรมชาติ จะทำการส่งข้อมูลเตือนภัยธรรมชาติไปยังมือถือ เมื่อเห็นว่าภัยนั้นถึงระดับความรุนแรงที่คาดว่าอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน สำหรับภัยธรรมชาติดังกล่าว ประกอบด้วย
- อุทกภัย : น้ำท่วมฉับพลัน / น้ำป่าไหลหลาก
: น้ำท่วมขัง
: น้ำล้นตลิ่ง
- พายุฤดูร้อน (พายุลูกเห็บ)
- แผ่นดินไหว
- พายุหมุนเขตร้อน : พายุดีเปรสชั่น
: พายุโซนร้อน
: พายุไต้ฝุ่น
- คลื่นลมแรง
- คลื่นพายุซัดฝั่ง
โดยกรมอุตุนิยมวิทยาเองได้ทำการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเผยแพร่ข้อมูลลักษณะนี้เช่นกัน ดังนั้นประชาชนจึงมั่นใจได้ว่า จากนี้ไปข้อมูลการเตือนภัยธรรมชาติ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสภาพอากาศโดยทั่วไป จะส่งถึงมือท่านจากทุกช่องทางอย่างทันท่วงที ไม่ว่าจะเป็นช่องทางของสื่อสารมวลชนแขนงต่างๆ ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ หรือ แม้แต่สื่อที่อยู่ติดตัว เช่นโทรศัพท์เคลื่อนที่
ด้านนายสมประสงค์ บุญยะชัย, ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในฐานะของผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สาย เราพร้อมจะเป็นส่วนเชื่อมต่อทุกรูปแบบการให้บริการเพื่อประโยชน์แก่ประชาชน รวมถึงเพื่อสนับสนุนการทำงานของภาครัฐ ดังนั้นในครั้งนี้จึงได้นำ เทคโนโลยี Cell Broadcast ที่เป็นการส่งข้อมูลถึงโทรศัพท์เคลื่อนที่ทันที เข้ามาใช้เพื่อส่งข้อมูลเตือนภัยธรรมชาติดังกล่าว โดยข้อดีของเทคโนโลยีนี้ คือ
- ไม่ต้องสมัครหรือลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูล
- ส่งได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์
- ข้อมูลที่ส่งจะปรากฏทันทีที่หน้าจอ โดยไม่จำเป็นต้องกดเข้าไปอ่าน
- ส่งได้อย่างไม่จำกัดจำนวนเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่
- มีสัญญาณเตือน กรณีที่เป็นการเตือนภัยธรรมชาติ
- ระบุพื้นที่ในการส่งเพื่อเตือนภัยเฉพาะพื้นที่ในลักษณะของ Location Base
- ไม่คิดค่าใช้บริการในการรับข้อมูล
โดยความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการนำเอาเทคโนโลยีไร้สายใหม่ล่าสุดเข้ามาเพิ่มอีก 1 ช่องทางในการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลสภาวการณ์ทางธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “การเตือนภัยธรรมชาติ” รวมไปถึงข้อมูลสภาพอากาศในช่วงปกติผ่านทางเว็บไซต์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่สามารถเข้าดูได้ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ดังนั้นจึงเชื่อว่าบริการนี้จะก่อให้เกิดความอุ่นใจในการใช้ชีวิตของประชาชนทุกภาคทั่วประเทศอย่างแน่นอน”
สำหรับบริการ “เตือนภัยธรรมชาติบนมือถือ” พร้อมเปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2548 เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ AIS Call Center 1175 หรือ กรมอุตุนิยมวิทยา สำนักพยากรณ์ 0 2398 9830, 0 2399 4012-4 หรือ hotline 1182 และ www.tmd.go.th
เทคโนโลยี Cell Broadcast
เป็นนวัตกรรมของรูปแบบการส่งข้อมูลแบบใหม่ ที่เป็นการส่งหรือ Broadcast ข้อความจากสถานีฐานโดยตรงมายังโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ครอบคลุมของสถานีฐานนั้นๆ ทั้งนี้ลักษณะของข้อความจะเป็นข้อความสั้น ประมาณ 140 ตัวอักษร และจะมาปรากฏที่หน้าจอโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยอัตโนมัติหลังจากได้รับ โดยไม่จำเป็นต้องกดเลือกเข้าไปอ่านข้อความในเมนูแต่อย่างใด ทั้งนี้ข้อความดังกล่าวจะปรากฏอยู่ที่หน้าจอประมาณ 3-5 วินาที และจะหายไปเองโดยไม่ต้องสั่งลบข้อความ
1. รับอัตโนมัติ : ลูกค้าจะมีความสะดวกในการรับข้อความ เพราะปรากฏขึ้นที่หน้าจอทันที โดยไม่ต้องเข้าสู่เมนูรายการใด ให้ยุ่งยาก
2. กำหนดพื้นที่ : ด้วยความอัจฉริยะของเทคโนโลยี จึงสามารถกำหนดและเลือกส่งข้อมูลให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายและพื้นที่ ที่ต้องการได้ อาทิ เกิดภัยธรรมชาติบริเวณจังหวัดแถบภาคอีสาน ผู้ใช้บริการมือถือที่อยู่ในภาคอีสานเท่านั้นที่จะได้รับข้าความแจ้งเตือนภัย
3. เวลา : สามารถบริหารเวลาในการส่งข้อมูลได้ทั้งแบบกำหนดช่วงเวลาส่งไว้ หรือส่งแบบตามเวลาจริง (Realtime) รวมถึงกำหนดความถี่ในการส่งได้เช่นกัน
4. การกำหนดกลุ่มผู้รับ : สามารถเลือกส่งข้อมูลตามกลุ่ม หรือ ตามความต้องการได้อย่างชัดเจน จึงทำให้ข้อความสอดคล้องกับความต้องการอย่างแท้จริง อาทิ แบ่งเป็นกลุ่มพรีเพด/โพสต์เพด และกลุ่มย่อย เช่นกลุ่มที่เลือกรับข่าวสารทั่วไป หรือ ข่าวกีฬา
5. การกำหนดเนื้อหาที่ต้องการรับ : ผู้ใช้บริการแต่ละคนสามารถกำหนดเลือกรับประเภทของข้อมูลที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้อย่างใจต้องการ
ทั้งนี้เอไอเอสได้ใช้เทคโนโลยี Cell Broadcast มาให้บริการข้อมูลข่าวสารหลากหลายรูปแบบแล้ว ตั้งแต่เดือนเมษายน 2548 ที่ผ่านมา โดยลูกค้าเอไอเอสทุกระบบที่สนใจใช้บริการสามารถเปลี่ยน SIM Card เพื่อใช้บริการดังกล่าวได้ที่สำนักงานบริการเอไอเอส ทุกสขา ทั่วประเทศ ในราคา 100 บาท
สำหรับลูกค้าที่จดทะเบียนใหม่ทุกระบบในเครือข่ายเอไอเอส ตั้งแต่เดือนเมษายน 2548 ที่ผ่านมาจะได้รับ SIM Card ที่ใช้บริการ Cell Broadcast ได้ ดังนั้นในปัจจุบัน (กันยายน 2548) จึงมีจำนวนผู้ใช้ SIM Card ที่สามารถรับข้อมูลข่าวสาร และ เตือนภัยธรรมชาติจากกรมอุตุนิยมวิทยา ได้อยู่ประมาณ 2 ล้านราย
สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--