กรุงเทพฯ--12 ธ.ค.--โออิชิ กรุ๊ป
โออิชิ กรุ๊ป “เจ้าตำรับอาหารญี่ปุ่น” ส่งร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นนำ 2 แบรนด์ดัง ทั้ง “ชาบูชิ (Shabushi by OISHI)” และ “โออิชิ ราเมน (OISHI Ramen)” มัดใจชาวอีสานใต้ คาดภายในสิ้นปี ดันรายได้รวมธุรกิจอาหารแตะ 7,000 ล้านบาท
คุณแซม-ไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคชาวอีสานช่วงหลายปีที่ผ่านมามีไลฟ์สไตล์เปลี่ยนแปลงใกล้เคียงคนกรุงเทพฯ มากขึ้น เนื่องจากชาวอีสานมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นจากนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท รวมทั้งการขยายตัวของหัวเมืองใหญ่ส่งผลให้มีงานมากขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดหัวเมืองใหญ่ อาทิ นครราชสีมา ขอนแก่น และอุดรธานี เป็นต้น ดังนั้น ร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือโออิชิเล็งเห็นความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจึงได้เริ่มทำตลาดในจังหวัดขอนแก่นเป็นลำดับแรกก่อน ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีเกินคาด จากนั้นจึงได้ขยายร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือโออิชิเพิ่มเป็น 19 สาขาในเวลาต่อมา แบ่งเป็น ร้านชาบูชิ 13 สาขา โออิชิ ราเมน 8 สาขา โออิชิ บุฟเฟต์ 1 สาขา และ นิกุยะ 1 สาขา ทั้งนี้ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ เตรียมขยายสาขาเพิ่มอีก 4 สาขาไปยังหัวเมืองรองอย่างจังหวัดบุรีรัมย์และสุรินทร์ ประกอบด้วย ร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นนำ ชาบูชิ (Shabushi by OISHI) สองความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นยอดนิยม ทั้งชาบู-ชาบู...สุกี้หม้อไฟ และซูชิ...ข้าวปั้นสารพัดหน้า จำนวน 2 สาขา และ โออิชิ ราเมน (OISHI Ramen) อร่อยเส้น อร่อยซุป อีก 2 สาขา ทำให้สิ้นปีนี้จะมีร้านอาหารในเครือโออิชิในพื้นที่ภาคอีสานรวมทั้งสิ้น 23 สาขา (จาก 190 สาขาทั่วประเทศ) พร้อมทั้งผลักดันให้ปีนี้สามารถปิดรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 7,000 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้นราว 18%
อย่างไรก็ตามภาพรวมธุรกิจอาหารญี่ปุ่นมีมูลค่าสูงถึง 22,000 ล้านบาท โดย โออิชิ กรุ๊ป มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 7,000 ล้านบาท หรือประมาณ 33% ซึ่งรายได้ของ โออิชิ กรุ๊ป มาจากภาคอีสานถึง 25% โดยธุรกิจอาหารเมื่อปีที่แล้วมียอดขายอยู่ที่ 5,300 ล้านบาท
สำหรับร้านชาบูชิ และโออิชิ ราเมน สาขา โรบินสัน จังหวัดสุรินทร์ พร้อมเปิดให้บริการในวันที่ 20 ธันวาคม 2556 ส่วนสาขา ห้างทวีกิจซุปเปอร์เซ็นเตอร์ (วีมาร์ท) จังหวัดบุรีรัมย์นั้นพร้อมเปิดให้บริการในวันที่ 21 ธันวาคม 2556 เป็นต้นไป โดยใช้งบประมาณในการขยายสาขารวมกว่า 50 ล้านบาท