กรุงเทพฯ--12 ธ.ค.--ไอเดีย เวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่นส์
บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เผยผลประกอบการ 9 เดือน ของปี 2556 เติบโตทุกช่องทาง ด้วยเบี้ยประกันภัยรับรวม (GWP) คิดเป็นมูลค่า 17,585 ล้านบาท เติบโตขึ้น 11% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และเบี้ยประกันภัยรับรายปี (ANP) คิดเป็นมูลค่า 4,062 ล้านบาท เติบโตขึ้น 15% โดยเฉพาะช่องทางการตลาดขายตรงยังคงครองอันดับ 1 ในตลาดอีกสมัย มั่นใจสิ้นปีนี้พิชิตเป้าเบี้ยประกันภัยรับรายปี (ANP) 5,600 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยรับรวม (GWP) 25,000 ล้านบาท ได้อย่างแน่นอน
นายไบรอัน สมิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยว่า เราพอใจกับผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีจนถึงปิดไตรมาสที่ 3 ของปี 2556 ของอลิอันซ์ อยุธยา ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมากช่องทางตัวแทน ล่าสุดได้มีการปรับโครงสร้างผลประโยชน์ฝ่ายขายใหม่ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนกันยายน สามารถสร้างเบี้ยประกันภัยรับรวมได้ถึง 9,643 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยรับรายปี ได้ถึง 1,619 ล้านบาท เรามั่นใจว่าช่องทางตัวแทนจะสามารถสร้างเบี้ยประกันให้เติบโตได้ต่อเนื่อง และจะเป็นช่องทางที่สามารถดึงดูผู้มีความสามารถให้เข้ามาร่วมงานกับเราได้มากขึ้น
สำหรับช่องทางการขายผ่านธนาคาร สร้างเบี้ยประกันภัยรับรวม ได้สูงถึง 4,457 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยรับรายปี ได้ถึง 1,131 ล้านบาท ซึ่งผลงานที่ยอดเยี่ยมนี้เป็นผลมาจากความสัมพันธ์ที่แนบแน่นและการทำงานร่วมกันอย่างดีของบริษัทฯกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ส่วนช่องทางการตลาดขายตรง อลิอันซ์ อยุธยา ยังคงเดินหน้าสร้างผลงานได้ดีทะลุเป้า ด้วยเบี้ยประกันภัยรับรวม 2,846 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับรายปีสูงถึง 1,210 ล้านบาท ปัจจัยความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมในครั้งนี้มาจากการขายผ่านโทรศัพท์ (Telesales) นอกจากนั้นในปีนี้ยังได้เพิ่มช่องทางขายผ่านสาขาของคู่ค้า (Face-To- Face) เพื่อเจาะลูกค้าระดับกลาง เป็นการเพิ่มยอดขายให้กับช่องทางนี้ได้เป็นอย่างดี สำหรับช่องทางขายผ่านโทรทัศน์ บริษัทได้เปิดตัว “สูงวัย ได้เกินร้อย” ไปไม่นาน โดยมีจุดเด่นคือ เป็นประกันสำหรับผู้สูงวัยที่มีเงินคืนให้ระหว่างสัญญาและได้รับความคุ้มครองชีวิตที่เพิ่มมากขึ้น โดยจ่ายเบี้ยเท่าเดิม
“เรามั่นใจว่า ช่องทางการตลาดขายตรงของอลิอันซ์ อยุธยาจะยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำต่อไป และจะขยายสู่ลูกค้าระดับกลางในประเทศไทยมากขึ้น” นายไบรอันกล่าว
นายสมิธ กล่าวอีกว่า สำหรับในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2556 นี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่จะมากระตุ้นยอดขายให้กับทุกช่องทาง ซึ่งทุกผลิตภัณฑ์ยังเน้นจุดขายที่การคุ้มครองชีวิตและสามารถนำไปลดหย่อนภาษีในช่วงปลายปีได้ ดังนี้ สำหรับช่องทางตัวแทน “มาย เซฟวิ่งส์ 10/6 (มีเงินปันผล)” ช่องทางการขายผ่านธนาคาร “กรุงศรี ไฮบริด อีซี่ พลัส 12/7 (มีเงินปันผล)” โดยทั้งสองผลิตภัณฑ์มีจุดเด่นคือ นอกจากการันตีเงินคืนรายปีและการันตีเงินคืนเมื่อครบกำหนดสัญญาแล้ว ยังมีโอกาสได้รับเงินปันผลทั้งแบบรายปีและเมื่อครบกำหนดสัญญา เพื่อรับมือกับเงินเฟ้ออีกด้วย
ด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์สูง พร้อมด้วยระบบการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ ผสานกับการทำงานอย่างใกล้ชิดกับฝ่ายขายและพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ ทำให้เชื่อมั่นว่าบริษัทฯ จะสามารถพิชิตเป้าเบี้ยประกันภัยรับรายปี 5,600 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 25,000 ล้านบาท จากทุกช่องทางในปี 2556 นี้ได้อย่างแน่นอน” นายสมิธ กล่าว
ขณะเดียวกันผลประกอบการของ กลุ่มอลิอันซ์ เยอรมนี ผู้ถือหุ้นหลักของบริษัทฯ ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2556 ถือว่ามีพัฒนาการที่ดี แม้จะมีผลกระทบเชิงลบจากอัตราแลกเปลี่ยนแต่ยังสามารถทำรายได้ที่ 1,071 พันล้านบาท (25.1 พันล้านยูโร) ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 1,075 พันล้านบาท (25.2 พันล้านยูโร) ผลกำไรจากการดำเนินงาน อยู่ที่ 106.66 พันล้านบาท (2.5 พันล้านยูโร) ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเล็กน้อยประมาณ 0.7% รายได้สุทธิที่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 6.3% สูงกว่าระดับ 59.73 พันล้านบาทที่เคยทำไว้ (1.4 พันล้านยูโร)
นายดีเทอร์ เวมเมอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการเงิน กลุ่มอลิอันซ์ กล่าวว่า “การเติบโตขึ้นของรายได้และกำไรจากธุรกิจใหม่ในช่วงไตรมาสที่สามของปี 2556 ทำให้บริษัทฯ มีความมั่นใจยิ่งขึ้นในกลุ่มธุรกิจประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าผลิตภัณฑ์ของเรายังคงได้รับความสนใจอย่างดีจากลูกค้า เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดี พร้อมกับความมั่นคงและปลอดภัยสูง โดยเฉพาะในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่องเช่นนี้”
“จากผลประกอบการที่ดี ที่ผ่านมาของปี 2556 ของกลุ่มอลิอันซ์ ทำให้เราคาดการณ์ได้ว่าผลกำไรจากการดำเนินงานตลอดทั้งปีจะเกินกว่า 413.85 พันล้านบาท (9.7 พันล้านยูโร) เล็กน้อย ซึ่งถึงเป็นเป้าหมายระดับสูงที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้” นายไมเคิล ดิกแมนน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอลิอันซ์ เอสอี กล่าว
อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 = 42.6651 บาท