สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 13, 2013 10:09 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ธ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,257 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,228 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 32.06 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,000 บาท กับ 19,100 บาท และกลับมาปิดที่ 18,850 บาท กับ 18,950 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,182 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 4,818 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 0.8 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 11% GFZ13 ปิด 18,990 บาท และ GFG13 ปิด 19,080 บาท GF10Z13 ปิดที่ 18,990 บาท GF10G13 ปิดที่ 19,090 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 32.3 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,224.9 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 90.3 เซ็นต์ ที่ระดับ 19.453 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 827.6 ตันขายออก 6 ตัน น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 6 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 97.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ ปิดลดลง 104.10 จุด ปิดที่ 15,739.43 จุด ข่าวที่สำคัญ ทองคำร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ของปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าเฟดจะปรับลด QE ในการประชุมสัปดาห์หน้า หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯบ่งชึ้ให้เห็นถึงภาวะที่แข็งแกร่งจากตัวเลขยอดค้าปลีกอีกทั้งค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้นกระตุ้นให้เกิดแรงเทขาย นักวิเคราะห์บางรายเชื่อว่า ยอดค้าปลีกที่ปรับตัวอย่างแข็งแกร่งถึงแม้ว่าตัวเลขการขออ้างสิทธิ์การว่างงานจะเพิ่มขึ้นก็ตามแต่โดยรวมแล้วยังคงดีอยู่ เป็นปัจจัยที่ทำให้เฟดพิจารณาปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในสัปดาห์หน้าเข้ากดดันราคาทองคำ รายงานคิทโก้ระบุว่าทองคำเกิดแรงเทขายจากการที่มีการที่พรรคเดโมแครตและรีพับลีกันได้บรรลุข้อตกลงในเรื่องงบประมาณสำหรับสัปดาห์นี้ซึ่งก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่จะช่วยผลักดันให้เฟดนั้นลดQE ได้เร็วขึ้นเพราะเนื่องจากปัญหาครั้งก่อนเฟดนั้นได้เลื่อนการลดเม็ดเงินจากสาเหตุนี้เช่นกัน จิม เวคคอฟ นักวิเคราะห์จากคิทโก้ให้แนวรับสำคัญที่ระดับ 1,210 เหรียญ และแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,250 เหรียญ เมื่อวานนี้ SPDR ยังคงเทขายทองคำต่อเนื่องอีก 6 ตัน ทำให้ปัจจุบันเหลือการถือครองทองคำเพียง 827.6 ตัน หากนับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. จนถึงปัจจุบันSPDR ทำการเทขายไปแล้วทั้งสิ้น 15.61 ตัน นักลงทุนเจ้าของบริษัทเหมืองได้กลับมาทำการ hedge ในตลาด ฟิวเจอร์สอีกครั้งจากที่ราคาทองคำนั้นปรับตัวลงเพื่อสร้างโอกาสทำกำไรและลดความเสี่ยงในธุรกิจ สำหรับวันนี้ นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ที่จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนพ.ย. เวลา 20.30น. โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าผลที่ออกมาน่าจะทรงตัว ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเท่าไหร่นัก นักลงทุนส่วนมากเฝ้าจับตาดูการประชุมเฟดที่จะมีขึ้นในวันที่ 17-18 ธันวาคมที่จะถึงนี้เนื่องจากได้รับแรงผลักดันจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีขึ้นที่เฟดอาจตัดสินใจเริ่มลด QE ในเดือนธันวาคมทันทีเป็นไตรมาสแรก เมื่อคืนนี้การประกาศตัวเลขยอดการผลิตของสหภาพยุโรปนั้นลดลงอย่างมากสำหรับเดือนตุลาคมที่ปรับตัวลง 1.1% จากเมื่อดือนกันยายนที่ผ่านมาซึ่งการรายงานก็ไม่ได้สอดคล้องกับนโยบายทางการเงินของ ECB ที่ยังอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ มาริโอ้ ดาร์กี้ ประธาน ECB กล่าวว่า ยังคงต้องการใช้นโยบายทางการเงินด้วยการคงที่ดอกเบี้ยที่ระดับต่ำออกไปก่อนและปัญหาเรื่องเงินฝืดไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับปัญหาตอนนี้ แต่อย่างไรก็ตาม สหภาพยุโรปนั้นยังคงมีภาวะเงินเฟ้อที่ระดับต่ำอยู่ในเวลานี้ ขณะที่ค่าเงินยูโรปรับตัวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.3746 ดอลลาร์ จากเดิม 1.3788 ดอลลาร์ หลังจากที่ยูโรแสตทเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนปรับตัวลดลง 1.1% ในเดือนต.ค. สวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นจากข้อมูลค้าปลีกของสหรัฐฯเช่นกัน โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภท 10 ปี อยู่ที่ระดับ 2.865% จากเดิม 2.855% ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดปรับตัวลดลงท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนกังวลเพิ่มขึ้นว่าเฟดจะลด QE ในสัปดาห์หน้า ตลาดหุ้นโตเกียวเปิดวันนี้ที่ลดลงเพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ นักวิเคราะห์ ระบุว่า ตลาดหุ้นต่างประเทศอยู่ในช่วงปรับฐาน ซึ่งเป็นจังหวะเทขายทำกำไร หลังจากวิกฤตการด้านการคลังของสหรัฐฯคลี่คลายไป ขณะเดียวกันตลาดส่วนใหญ่เชื่อว่า เฟดจะลด QE เพราะนอกจากเรื่องงบประมาณที่ดีขึ้นแล้ว ภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐก็ฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด ตลาดหุ้นไทยยังได้รับแรงกดดัน เพราะปัญหาการเมืองไทยอาจจะรุนแรงขึ้นได้อีก ทำให้แนวโน้มตลาดน่าจะปรับลงได้อีกครั้ง ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวาน Core Retail Sales m/m เดิมอยู่ที่ระดับ 0.5% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.2% ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 0.1% Retail Sales m/m เดิมอยู่ที่ระดับ 0.6% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.6% ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 0.7% Unemployment Claims เดิมอยู่ที่ระดับ 300K ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 321K ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 368K ตัวเลขที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้ PPI m/m เดิมอยู่ที่ระดับ -0.2% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.0% Core PPI m/m เดิมอยู่ที่ระดับ 0.2% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.1% ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเริ่มปรับตัวลดลงหลังจากที่ไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,265 เหรียญได้ โดยมีแรงเทขายตั้งแต่ตลาดลอนดอนเข้ามา และยังเทขายต่อเนื่องในตลาด COMEX โดยเฉพาะเมื่อตัวเลข Retail Sales ออกมาดีขึ้นกว่าที่คาดเล็กน้อย ตลาดไม่ได้ให้ความสนใจกับตัวเลขคนว่างงานที่สูงขึ้นเท่าไหร่นัก ในขณะที่มีความกังวลกับการที่จะมีการลด QE โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เชื่อว่าการตก Trend จากการที่รัฐบาลสหรัฐฯสามารถยุติประเด็นเพดานหนี้ลงไปได้เมื่อวานนี้ ซึ่งช่วยลดภาวะที่จะเกิดการ Shut Down ออกไป อย่างไรก็ดีโดยภาพรวมน่าจะเป็นการทำราคาเพื่อที่จะปิดปลายปี และ SPDR ยังคงเทขายทองคำต่อเนื่องอีกว่า 6 ตัน ลดการถือครองทองคำเหลือเพียง 827.6 ตัน และในคืนนี้จะมีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา อันได้แก่ PPI ที่คาดว่าจะดีขึ้นจากเดิมเล็กน้อยมาสู่ระดับ 0.0% และ Core PPI คาดว่าจะแย่ลงเล็กน้อยที่ระดับ 0.1% วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ทองคำเมื่อชนแนวต้านสำคัญแรกที่ระดับ 1,265 เหรียญ ไม่สามารถผ่านไปได้ กลับมีแรงเทขายอย่างหนาแน่น การที่มี Technical Rebound ใน 2 วันก่อนได้จบสิ้นลงโดยสมบูรณ์ ตามที่ MTS Gold ได้วิเคราะห์ไว้แล้วว่าเป็นการขึ้นในระยะสั้น ในขณะที่ภาพของระยะกลางและระยะยาวยังเป็นแนวโน้มขาลง ก็ทำให้ภาพรวมของแนวโน้มราคาทองคำ กลับมาเป็นขาลงโดยสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง ทั้งในระยะสั้น กลาง และยาว แนวรับสำคัญของทองคำอยู่ที่ระดับ 1,215 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดเดิมในสัปดาห์ที่แล้ว ถ้าทะลุลงมาได้ก็จะมีแนวรับถัดไปที่ระดับ 1,200 และ 1,180 เหรียญตามลำดับ และมีแนวต้านด้านบนอยู่ที่ระดับ 1,240 เหรียญ ภาพรวมของ Oscillator ก็ยังกลับมาเป็นแนวโน้มขาลงในระยะสั้น กลาง และยาว กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ กลับมาเป็นกลยุทธ์เดิม คือ กลยุทธ์แนวโน้มขาลง โดยเปิด Short Position มากกว่า Long Position นักลงทุนที่ถือ Long Position แนะนำให้ทำ Stop Loss ปิดไปตั้งแต่เมื่อวานที่ระดับ 1,240 เหรียญ กรณียังถือ Long Position อยู่ ยังคงแนะนำให้ปิดสถานะ Long ออกไป และหาจังหวะที่เด้งขึ้นมา เปิดสถานะ Short แทน นักลงทุนที่ถือ Short Position ซื้อปิดทำกำไรเป็นช่วงๆ Gold Futures Z13 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,700 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,900 บาท Gold Futures G14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,800 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,000 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ