บีโอไอลุ้นนักลงทุนยื่นขอส่งเสริมโค้งสุดท้าย ก่อนมาตรการส่งเสริมชุดใหญ่หมดอายุสิ้นปี 2556

ข่าวทั่วไป Tuesday December 17, 2013 11:42 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--บีโอไอ บีโอไอลุ้นนักลงทุนยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนภายใต้มาตรการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและมาตรการส่งเสริมการลงทุนให้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ซึ่งจะสิ้นสุดภายในปี 2556 นี้ พร้อมโชว์ผลงาน มีนักลงทุนยื่นขอรับส่งเสริมภายใต้มาตรการยั่งยืน 707 โครงการ เงินลงทุนกว่า 7 แสนล้านบาท นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ในปี 2556 นี้ มี 2 มาตรการส่งเสริมการลงทุนที่จะหมดระยะเวลายื่นขอรับส่งเสริม ได้แก่ มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และมาตรการส่งเสริมการลงทุนให้บริษัทที่ได้รับส่งเสริมจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ดังนั้น โครงการลงทุนที่เข้าข่ายได้รับส่งเสริมภายใต้ 2 มาตรการดังกล่าวจะต้องยื่นขอรับส่งเสริมภายในวันที่ 27 ธันวาคม 2556 นี้ สำหรับมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนนั้น ครอบคลุม 4 มาตรการสำคัญ ได้แก่ 1.มาตรการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ประกอบด้วย กลุ่มกิจการที่เกี่ยวกับการประหยัดพลังงานและพลังงานทดแทน กลุ่มกิจการผลิตวัสดุและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และกลุ่มกิจการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง 2. มาตรการส่งเสริมการลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อการประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานทดแทน หรือการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม 3. มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต โดยการปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่ และ 4. มาตรการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งผลจากมาตรการดังกล่าว ก่อให้เกิดการยื่นขอรับส่งเสริมเป็นจำนวนมาก โดยนับตั้งแต่เริ่มมาตรการช่วงต้นปี 2553 ถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2556 มีการยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 707 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 741,184 ล้านบาท ส่วนมาตรการส่งเสริมการลงทุนให้บริษัทที่ได้รับส่งเสริมจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ นั้น มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมรวม 7 โครงการ “โครงการลงทุนที่เข้าข่ายประเภทกิจการข้างต้น ยังมีเวลาในการยื่นขอรับส่งเสริมได้จนถึงวันที่ 27 ธันวาคมนี้ แต่หากเข้าสู่ปี 2557 ก็ยังสามารถขอรับส่งเสริมได้ แต่จะได้รับสิทธิประโยชน์ตามหลักเกณฑ์ปกติ มิใช่รับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการที่กำลังจะสิ้นสุดลง ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสูงกว่า เช่น การไม่จำกัดวงเงินที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตลอดระยะเวลา 8 ปี และการลดหย่อนภาษีเงินได้ นิติบุคคลร้อยละ 50 เป็นเวลา 5 ปี ภายหลังจาก 8 ปีแรก เป็นต้น” เลขาธิการบีโอไอกล่าว ทั้งนี้ กิจการสำคัญๆ ที่สามารถขอรับส่งเสริมภายใต้มาตรการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านพลังงาน ประกอบด้วยกิจการผลิตแอลกอฮอล์หรือเชื้อเพลิงจากการผลผลิต การเกษตร รวมทั้งเศษหรือขยะหรือของเสีย, กิจการผลิตเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ประหยัดพลังงานหรือใช้ พลังงานทดแทน, กิจการผลิตเซลล์เชื้อเพลิง, กิจการผลิตพลังงานไฟฟ้าหรือไอน้ำจากวัสดุทางการเกษตร ก๊าซชีวภาพ และพลังงานลม เป็นต้น รวมถึงการผลิตวัสดุและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้แก่ กิจการผลิตเคมีภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-Friendly Chemicals) กิจการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-Friendly Products)และกิจการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ได้แก่ กิจการผลิตอาหารทางการแพทย์ (Medical Food) กิจการผลิตภัณฑ์ Advanced Ceramics กิจการผลิตวัสดุนาโนหรือการผลิตภัณฑ์จากวัสดุนาโน กิจการผลิตเครื่องมือแพทย์ กิจการผลิตเครื่องมือวิทยาศาสตร์ กิจการผลิตอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเกษตร (Farm Machinery) และอุตสาหกรรมผลิตอาหาร (Food Processing Machinery) กิจการผลิต ซ่อม หรือดัดแปลงอากาศยาน (Aircraft Conversion) กิจการผลิตชิ้นชิ้นส่วนยานพาหนะ กิจการผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคม กิจการผลิตชิ้นส่วนสำหรับอุปกรณ์โทรคมนาคม กิจการผลิตชิ้นส่วนสำหรับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อการเกษตร กิจการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์และวัตถุดิบสำหรับการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ กิจการเทคโนโลยี ชีวิภาพ (Biotechnology) กิจการวิจัยและพัฒนา เป็นต้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ