Thailand Market outlook

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 18, 2013 15:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--บลจ.อเบอร์ดีน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อเบอร์ดีนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในปี 2557 แม้ว่าเศรษฐกิจโลกยังคงซบเซา โดยอเบอร์ดีนมองว่า ภูมิภาคเอเชียโดยรวมอาจจะมีการชะลอตัวลงบ้าง แต่ก็มีการส่งสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และของภูมิภาคยุโรป สำหรับประเทศไทยนั้น ภาคการส่งออกมีการคาดการณ์อัตราการเติบโตอยู่ที่ 7% สำหรับปี 2557 ซึ่งจะชดเชยกับการชะลอตัวลงของการเติบโตภายในประเทศซึ่งเห็นได้จากจากการปรับตัวลดลงของสินเชื่อผู้บริโภคหลังจากมีการเติบโตในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คาดว่าประเทศไทยจะยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเห็นได้จากภาคการลงทุน FDI และภาคการท่องเที่ยว ที่มีมูลค่าสูงถึง 3-5% และ 10%ของ GDP ตามลำดับ ทั้งนี้ การคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่อยู่ในระดับประมาณ 3-3.5% นั้นต้องขึ้นอยู่กับ ปัจจัยทางการเมืองซึ่งได้มีการยุบสภาเมื่อเร็วๆนี้ด้วย หากมีความชัดเจนหลังการเลือกตั้ง ตลาดหลักทรัพย์น่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยอเบอร์ดีนคาดว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนน่าจะเติบโตประมาณ 10% หลังจากที่ได้มีการขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลง 16% จากดัชนีสูงสุดที่ระดับ 1,643 ในเดือนพฤษภาคม คุณพงค์ธาริน ทรัพยานนท์ หัวหน้าฝ่ายตราสารหนี้ บลจ.อเบอร์ดีน กล่าวว่า“ภาพรวมของเศรษฐกิจมีหลายปัจจัยที่ส่งผลดี โดยมีการเติบโตของภูมิภาคที่ได้รับผลดีจากเศรษฐกิจของประเทศจีน การเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ของประเทศสหรัฐฯ และการค้าภายในภูมิภาค ด้านเงินสดสำรองและดุลการค้ายังอยู่ในระดับดี ในส่วนของตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติลงทุนในตลาดพันธบัตรลดลงในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่ราคาพันธบัตรอยู่ในระดับสมเหตุสมผล และค่าเงินบาทไม่น่าจะอ่อนกว่าปัจจุบันไปมาก ทั้งนี้แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำน่าจะสนับสนุนการลงทุนในตราสารหนี้ต่อไป” คุณอดิเทพ วรรณพฤกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน บลจ.อเบอร์ดีน กล่าวเพิ่มเติมว่า“อเบอร์ดีนเชื่อว่ามูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ยังอยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (P/E) เฉลี่ยอยู่ที่ 13.3 เท่า แม้ว่ายังมีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องจากภายนอกประเทศ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความผันผวนของตลาดหลักทรัพย์ตลอดจนเม็ดเงินที่เข้ามาลงทุน แต่หากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเริ่มปรับตัวดีขึ้น ตลาดหลักทรัพย์ก็น่าจะยังมีเสถียรภาพ โดยมีอัตราการจ่ายปันผลอยู่ในระดับดีและสถานะทางการเงินของภาคธุรกิจก็ยังมีความแข็งแกร่ง เราคาดว่าการส่งออกและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน หากยังคงดำเนินต่อไปน่าจะเป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ สำหรับ การบริโภคยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง ในขณะที่หนี้ภาคครัวเรือนเริ่มปรับตัวขึ้น แต่ทว่าปัจจัยการเมืองจะยังคงมีบทบาทต่อความไม่แน่นอนสำหรับเศรษฐกิจไทยต่อไป โดยสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองปัจจุบันอาจจะทำให้มีการชะลอการลงทุนและทำให้ความมั่นใจของนักลงทุนต่างชาติลดลงตลอดจนอาจส่งผลให้มีการเติบโตช้าลงด้วย” ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ: ชนัญทิมา ปิ่นเงิน โทร. 0-2352-3382, 0-2352-3388 Head of Marketing สักกพล ตั้งสงค์ไพบูลย์ โทร. 0-2352-3387, 0-2352-3388 Marketing Communication Executive

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ