กรุงเทพฯ--23 ธ.ค.--โทเทิ่ล ควอลิตี้ พีอาร์
โดยสายการบินได้เริ่มดำเนินการขยายฝูงบินหลักด้วยเครื่องบินลำตัวกว้างรุ่นยอดนิยมของแอร์บัส
สายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ผู้ให้บริการการบินระยะไกลในเครือ แอร์เอเชีย กรุ๊ป ได้สั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ330-300 จำนวน 25 ลำ คำสั่งซื้อดังกล่าวนี้เป็นคำสั่งซื้อเดี่ยวของแอร์บัส เอ330 ที่มากที่สุด โดยบริษัทได้สั่งซื้อเครื่องบินรุ่นนี้รวมกันแล้วเป็น 51 ลำ ซึ่งจะมีการขยายฝูงบินด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ330-300 อีก 6 ลำ โดยเป็นการเช่าซื้อจากบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ลีส ไฟแนนซ์ คอร์ปเปอเรชั่น (ไอแอลเอฟซี)
สัญญาคำสั่งซื้อนี้ได้ลงนามที่กรุงปารีส โดย มร.อัสราน ออสมาน-รานี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ และ มร.ฟาบริซ เบรจิเย่ร์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอร์บัส โดยมี มร. ตัน ศรี โทนี่ เฟอร์นานเดส ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้อำนวยการบริหารของแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ร่วมเป็นสักขีพยานลงนาม
สายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ จะเริ่มรับมอบเครื่องบินรุ่น เอ330-300 ที่ได้ทำการสั่งซื้อไปล่าสุดนี้ในปี พ.ศ.2558 เนื่องจากในปีเดียวกันนี้จะเป็นการขยายเครือข่ายการบินหลักไปทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค การสั่งซื้อดังกล่าวได้รวมไปถึงเครื่องบิน เอ330-300 รุ่นล่าสุด ซึ่งสามารถบินจากเอเชียไปยุโรปหรืออเมริกาได้โดยไม่ต้องหยุดพัก
มร. ตัน ศรี โทนี่ เฟอร์นานเดส ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้อำนวยการบริหารของแอร์เอเชีย เอ็กซ์ กล่าวว่า “การสั่งซื้อครั้งนี้ตอกย้ำเจตนารมย์ของบริษัทที่จะครองตลาดเครื่องบินโดยสารระยะไกล และเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ รวมไปถึงเป็นก้าวถัดไปของสายการบินในการพัฒนาให้เป็นผู้นำตลาดโลกอย่างไร้ข้อครหา ด้วยพันธสัญญาของเราได้แสดงให้เห็นว่าสายการบินของเรามีฝูงบินที่มีลำตัวกว้างและมีอายุการใช้งานน้อยที่สุดในภูมิภาค โดยมีอายุการบินที่ต่ำกว่า 5 ปีไปจนถึงปี พ.ศ.2562 ซึ่งสอดคล้องกับประสิทธิภาพของน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีศักยภาพทางด้านการแข่งขัน รวมไปถึงความน่าเชื่อถือและความสะดวกสบายของห้องโดยสาร”
“คำสั่งซื้อเครื่องบินนี้ถือเป็นแผนเพื่อเตรียมการขยายธุรกิจของเราในประเทศมาเลเซีย และศูนย์กลางการบริการของสายการบิน ไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ ที่ได้เสนอเพื่อให้พิจารณาไปก่อนหน้านี้ ตลอดจนธุรกิจการบินระยะไกลอื่นๆ ที่วางแผนไว้ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย การพัฒนาธุรกิจดังกล่าวนี้จะช่วยเสริมวิสัยทัศน์ของแอร์เอเชีย กรุ๊ปในระยะยาวในการพัฒนาสถานะของสายการบินในตลาดหลักในทวีปเอเชีย และยังช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างการบินระยะไกลและระยะใกล้ของสายการบินต้นทุนต่ำให้มีความแข็งแกร่งมากยื่งขึ้น”
“แอร์เอเชีย เอ็กซ์ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วถึงความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจการบินระยะไกลต้นทุนต่ำให้ประสบความสำเร็จสูงสุด” มร.ฟาบริซ เบรจิเย่ร์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอร์บัส กล่าว “และแอร์บัส เอ330 ถือแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับการให้บริการในลักษณะนี้ เนื่องด้วยต้นทุนในการดำเนินการต่ำ ความสามารถในการบินในระยะทางไกล และความน่าเชื่อถือทางเทคนิคที่เป็นเลิศซึ่งได้รับการพิสูจน์จากการติดตามในการบันทึกสถิติแล้ว และเราคาดหวังที่จะร่วมงานกับสายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ซึ่งยังคงสร้างนวัตกรรมและพัฒนาตลาดการบินระยะไกลด้วยต้นทุนต่ำ”
ปัจจุบัน แอร์เอเชีย เอ็กซ์ ใช้เครื่องบินแอร์บัส เอ330-300 จำนวน 16 ลำ ให้บริการเส้นทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์เชื่อมไปยังปลายทางประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชีย ตะวันออกกลาง และคาบสมุทรแปซิฟิค นอกจากการสั่งซื้อเครื่องบิน รุ่น เอ330 แล้ว ยังมีเครื่องบินรุ่น เอ350-เอ็กซ์ดับบลิวบี ที่สั่งซื้อไปแล้วจะได้รับในอนาคต อีกด้วย
การสั่งซื้อเพิ่มเติมจากแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ครั้งล่าสุดนี้ ทำให้สถานะของแอร์เอเชียกรุ๊ปเป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ที่สุดในโลกของแอร์บัส รวมแล้วคำสั่งซื้อของแอร์เอเชีย กรุ๊ป ตอนนี้อยู่ที่ 536 ลำ ซึ่งรวมถึงเครื่องบินทางเดินเดี่ยวในตระกูล เอ320 จำนวน 475 ลำ เพื่อใช้ในการบินระยะใกล้ของแอร์เอเชียที่บินออกจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ กรุงเทพฯ จาการ์ตา และมะนิลา รวมถึงรุ่น เอ330 จำนวน 51 ลำ และรุ่น เอ350 เอ็กซ์ดับบลิวบี จำนวน 10 ลำ
เครื่องยนต์คู่ของแอร์บัส เอ330 เป็นหนึ่งในเครื่องบินลำตัวกว้างที่ใช้บริการกันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในปัจจุบัน โดยปัจจุบันนี้ แอร์บัสคว้ายอดการสั่งซื้อเครื่องบินรุ่นต่างๆ มากกว่า 1,280 ลำ และทางบริษัทได้ส่งมอบ แอร์บัส เอ330 มากกว่า 1,000 ลำไปเป็นเรียบร้อยแล้ว และมีเกือบ 100 สายการบินที่ใช้เครื่องบินรุ่นนี้ให้บริการผู้โดยสารทั่วโลกอยู่ในปัจจุบัน