สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 23, 2013 09:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ธ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,195 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,202 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 32.63 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,350 บาท กับ 18,450 บาท และกลับมาปิดที่ 18,450 บาท กับ 18,550 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,798 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 6,352 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1.3 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 0.6% GFZ13 ปิด 18,630 บาท และ GFG13 ปิด 18,730 บาท GF10Z13 ปิดที่ 18,640 บาท GF10G13 ปิดที่ 18,730 บาท สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 10.1 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,203.7 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 26.7 เซ็นต์ ที่ระดับ 19.453 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 814.12 ตัน (ซื้อเพิ่ม 5.4 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 28 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 99.32 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ ปิดเพิ่มขึ้น 42.06 จุด ปิดที่ 16,221.14 จุด ข่าวที่สำคัญ ทองคำปิดปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่เผชิญกับความผันผวนในตลาดและได้แตะจุดเบรคตัวที่ราคาระดับต่ำสำหรับปีนี้ สำหรับ SPDR นั้นเพิ่มการถือครองเพิ่มขึ้นในคืนวันศุกร์อีก 5.4 ตันสู่ระดับ 814.12 ตัน จากเดิมก่อนหน้านี้อยู่ที่ระดับ 808.72 ตัน จากการรายงาน CFTC ระบุว่าเหล่าบรรดากองทุนใหญ่ลดการถือครอง net –long ที่ระดับประมาณ 2.8% สู่ระดับ 32,524 สัญญา ในตลาดฟิวเจอร์สและออฟชั่น สำหรับสัปดาห์นี้ที่สิ้นสุดรอบวันที่ 17 ธันวาคม ขณะที่การถือครอง Short นั้นกลับเพิ่มขึ้น 1.2% สู่ระดับ75,199 สัญญา ผลสำรวจจากคิทโก้ได้รับการตอบรับทั้งหมด 23 รายพบว่า 8 รายมองว่าราคาจะทะยานตัวขึ้นในสัปดาห์หน้า 11 รายมองว่าจะปรับตัวลงและอีก 4 รายมองว่าไม่เปลี่ยนแปลง จอร์จ จีโร นักวิเคราะห์ จาก อาร์บีซีมาร์เก็ต แคปปิตอล กล่าวว่าเมื่อวันศุกร์ราคาทองคำได้รับแรงซื้อจากการปิด short covering และเกิดแรงซื้อเพื่อเก็งกำไร ทองคำยังคงปิดตัวทะยานขึ้นยังไม่เท่ากับที่ร่วงลงรุนแรงในคืนหลังจาก FOMC ได้ทำการประกาศที่จะลดการซื้อพันธบัตรลงเดือนละ 10,000 พันล้านเหรียญในเดือนมกราคม จาก ทั้งหมด 75,000พันล้านเหรียญ ซึ่งนักวิเคราะห์หลายรายก็กล่าวว่าเป็นอะไรที่ประหลาดใจเพราะเฟดยังไม่ได้ลดในเดือนนี้แต่ราคากลับดิ่งลงอย่างมาก ทองคำ ที่ปิดปรับตัวสูงขึ้นในวันศุกร์ จากระดับต่ำสุดราวๆ1,180 เหรียญ ซึ่งนักวิเคราะห์บางรายมองว่าราคาน่าจะหยุดการปรับฐานลงไปจากที่มองว่าเฟด ยังคงไม่ลดการเข้าซื้อพันธบัตรในเดือนนี้อีกทั้งเข้าใกล้เทศกาล Christmas และ New Year แดเนียล พาร์วิโลนิส จาก อาร์เจโอ ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า ทองคำนั้นมีการปรับทำการล้างบัญชี (Square Book) ก่อนสิ้นสุดปีและเกิดแรงซื้อใหม่ อาจจะเห็นที่ระดับ 1,210,1,212 เหรียญ และอาจแตะที่ระดับ1,230 เหรียญก็มีความเป็นไปได้แต่อย่างไรก็ตาม ทองคำมียังคงมีทิทางขาลงในทางกลับกันเป้าหมายที่เขามองว่าอยู่ที่ระดับ 1,000 เหรียญ อดัม คอฟเฟนสเตนจากอาร์เชอร์ไฟแนนซ์เชี่ยล กล่าวว่า เกิดการทำปรับบัญชีในเหล่าบรรดากองทุนขนาดใหญ่ ทองคำร่วงลงมากกว่า 20% สำหรับปีนี้ส่งผลให้พวกเขาทยอยขายต่อเนื่องตั้งแต่กลางปีอีกทั้งยังต้องขาดทุนจากค่าภาษีอีกด้วย ประธานาธิบดี บารัค โอบามากล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯเติบโตขึ้นต่อเนื่องสำหรับปี 2014 โดยที่มีภาคธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่อีกทั้งอัตราการจ้างงานใหม่ได้เกิดขึ้น ตัวเลข GDP ที่เติบโตขึ้นถึง 4.1%แสดงให้เห็นถึงการโตทางด้านเศรษฐกิจมากที่สุดในรอบ 2ปีที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยประมาณการครั้งสุดท้ายของ GDP ในไตรมาส 3 ปี 2013 ขยายตัว 4.1% ก่อนหน้าที่จะมีการปิดทำการหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลสหรัฐ เศรษฐกิจที่ขยายตัวในอัตราที่เร็วกว่าเดิมจากการประเมินก่อนหน้านี้ เนื่องจากผู้บริโภคเพิ่มการใช้จ่ายในด้านบริการต่างๆมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบริการด้านสาธารณสุข ขณะที่บริษัทต่างๆก็ลงทุนในด้าน Software มากยิ่งขึ้น นับจากช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมากระแสการลด QE เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเกิดการเทขายในตลาดพันธบัตรระยะยาวประเภท 10ปี มาตลอดทำให้อัตราผลตอบแทนขยับขึ้นมา 1.6% สำหรับเดือนพฤษภาคมและเพิ่มขึ้นเกือบ 3% ในเดือนกันยายน เนื่องจาก เมื่อเกิดแรงเทขายราคาร่วงลงอัตราผลตอบแทนจะขยับขึ้น นักวิเคราะห์บางรายได้แสดงความเห็นว่าตลาด bond นั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนักกับถ้อยแถลงการณ์เฟดที่ออกมาเพราะจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเกือบ 0 นั่นเอง ซึ่งด้วยการจัดการและสร้างความเชื่อมั่นของรัฐบาลเชื่อว่าตลาดพันธบัตรนั้นจะไม่รุนแรงเข้าขั้นหายนะได้สำหรับปี2014 Standard and Poor (S&P) ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือในระยะยาวของสหภาพยุโรปลงสู่ระดับ AA+ พร้อมกับคงแนวโน้มไว้ที่ระดับมีเสถียรภาพ โดยอ้างถึงสถานะทางการเงินในภูมิภาคที่ย่ำแย่ลง ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กและดัชนี S&P 500 ต่างก็ปิดพุ่งแตะสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากสหรัฐปรับเพิ่มการประมาณการตัวเลข จีดีพี ในไตรมาสที่ 3 ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปิดทำการเนื่องจากเป็นวันเฉลิมฉลองวันประสูติจักรพรรดิ (Emperor’ s Birthday) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประกาศยุบสภาเมื่อต้นเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา และประกาศจัดการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 2 ก.พ. 2014 แต่ความเคลื่อนไหวนี้ไม่ได้ทำให้กลุ่มผู้ประท้วงพอใจ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ แกนนำพรรคฝ่ายค้านในไทย ประกาศคว่ำบาตรการเลือกตั้งในวันดังกล่าวแล้วในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวาน - Final GDP q/q เดิมอยู่ที่ระดับ 3.6% ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.1% ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนนี้ - Core PCE Price Index m/m เดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% คาดการณ์จะทรงตัวที่ระดับ 0.1% - Personal Spending m/m เดิมอยู่ที่ระดับ 0.3%คาดการณ์จะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.5% ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำมี Technical Rebound ในช่วงวันศุกร์ โดยขึ้นไปทำสูงสุดที่ประมาณ 1,207 เหรียญ และปิดตลาดที่ 1,204 เหรียญ โดยที่เมื่อคืนวันศุกร์ SPDR มีการซื้อเพิ่ม 5.4 ตัน รวมการถือครองปัจจุบันที่ระดับ 814.12 ตัน โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจ Core PCE Price Index คาดว่าจะทรงตัวเท่าเดิมที่ระดับ 0.1% และ Personal Spending คาดว่าจะดีขึ้น จาก 0.3% เป็น 0.5% วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ในเชิงเทคนิคราคาทองคำเป็นแนวโน้มขาลง โดยมีแนวรับที่ระดับ 1,180 เหรียญ แนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,215 เหรียญ ในระยะสั้น ยังคาดว่าจะมีการแกว่งตัว แต่ในช่วง 2 วันนี้คาดว่าตลาดน่าจะเงียบเนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดคริสมาสต์ในวันที่ 24-25 ธ.ค. ตลาดโดยภาพรวมของสหรัฐฯจะหยุด ดังนั้นจึงคาดว่าวันนี้ตลาดคงจะเงียบเหงาและเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบเท่านั้น กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ เป็นการปิดสถานะ Long และหาจังหวะเปิด Short เมื่อราคาดีดตัวสูงขึ้น ในกรณีทิศทางขาลง โดยยังให้น้ำหนักระยะกลางและระยะยาวเป็นขาลง - นักลงทุนที่ถือ Long Position หาจังหวะปิดเพื่อทำกำไร - นักลงทุนที่ถือ Short Position ปิดสถานะเป็นช่วงๆเพื่อทำกำไรเช่นเดียวกัน Gold Futures Z13X จะมีแนวรับที่ระดับ 18,500 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,700 บาท Gold Futures G14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,590 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,790 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ