กรุงเทพฯ--23 ธ.ค.--IR network
ผู้ถือหุ้น“บมจ.ฟอร์จูนพาร์ท อินดัสตรี้ หรือ FPI”อนุมัติออกหุ้นกู้แปลงสภาพแก่ผู้ลงทุนต่างประเทศโดยเฉพาะเจาะจง (Private Placement) จำนวนไม่เกิน 10 ล้านเหรียญดอลลาร์สิงคโปร์หรือสกุลอื่นใดเทียบเท่า ให้แก่ Advance Opportunities Fund (AO Fund) เพื่อนำเงินที่ได้ไปขยายโรงงาน 100 ล้านบาท ซื้อแม่พิมพ์ชิ้นส่วนรถยนต์ 100 ล้านบาท ที่เหลือเป็นเงินทุนหมุนเวียน “สมพล ธนาดำรงศักดิ์” เผยปีหน้าเตรียมลุยตลาดต่างประเทศเต็มที่ โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา เนื่องจากมีศักยภาพในการขยายตัวและกำไรขั้นต้นสูง เพื่อเพิ่มผลกำไรหลังมีออเดอร์จากยักษ์ใหญ่เข้ามาแล้ว รวมทั้งขยายตลาดสู่อาเซียนรองรับ AEC ยืนยันปีนี้รายได้โต 15%
นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูนพาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ FPI เปิดเผยว่าที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2556 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2556 ได้อนุมัติให้ออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพที่ออกใหม่ให้แก่ผู้ลงทุนต่างประเทศโดยเฉพาะเจาะจง (Private Placement) จำนวนไม่เกิน 10 ล้านเหรียญดอลลาร์สิงคโปร์ หรือเงินสกุลอื่นใดในจำนวนเทียบเท่า ให้แก่ Advance Opportunities Fund (AO Fund) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเงินลงทุนในการขยายโรงงานจำนวน 100 ล้านบาท และซื้อแม่พิมพ์ชิ้นส่วนรถยนต์ 100 ล้านบาท รวมทั้งเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
AO Fund เป็นกองทุนประเภท Open-ended Fund เปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2549 โดยมี Advance Capital Partners Limited (ACP) เป็นผู้จัดการลงทุน (Investment Manager) มีวัตถุประสงค์การลงทุนในบริษัทจดทะเบียนประเทศสิงคโปร์และในต่างประเทศ ผู้ลงทุนส่วนใหญ่ เป็นนักลงทุนชาวเอเชีย โดย AO Fund มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ พันธบัตร หุ้น และหุ้นกู้แปลงสภาพ ซึ่งการออกหุ้นกู้แปลงสภาพครั้งนี้จะทำให้ FPI มีสภาพคล่องและฐานะทางการเงินที่มั่นคงขึ้นสามารถบริหารเงินสดได้อย่างคล่องตัว รวมทั้งผลประกอบการที่ดีขึ้น
พร้อมกันนี้ที่ประชุมยังได้อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทอีกจำนวน 25,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 295,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 320,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 25,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพของหุ้นกู้ดังกล่าว
“ปีหน้า FPI จะมุ่งเจาะตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา เนื่องจากมีศักยภาพและกำไรขั้นต้นสูง ซึ่งจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาดและกำไรมากขึ้น โดยขณะนี้เริ่มมีออเดอร์เข้ามาบ้างแล้วจากบรรดาบริษัทชั้นนำ นอกเหนือก่อนหน้านี้ได้ลงทุนแม่พิมพ์ชิ้นส่วนรถยนต์จากค่ายญี่ปุ่นและเกาหลี ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลัก ทั้งนี้หากมีออเดอร์ใหม่เข้ามาจากสหรัฐอเมริกาจะต้องมีการลงทุนเพิ่มในส่วนของแม่พิมพ์ โดยใช้เงินส่วนหนึ่งจากการออกหุ้นกู้แปลงสภาพ ซึ่งในช่วงแรกจะดำเนินการในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากเป็นตลาดใหม่ที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง”
นอกจากนี้ FPI วางแผนเจาะตลาดสู่กลุ่มประเทศอาเซียนด้วย เพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC (Asean Economics Community) จากก่อนหน้านี้ได้ลงทุนสำนักงานใหม่ เพื่อรองรับบุคลากรเพิ่มขึ้นในการขยายตลาด รวมทั้งจะมุ่งเน้นทำธุรกิจซื้อมาขายไป (Trading) อื่นๆ เช่น ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ (Engine Part) โดยจะมีการหาพันธมิตรใหม่ๆ ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อเพิ่มยอดขาย
“อนาคตจะใช้กลุ่มอาเซียนเป็นฐาน ซึ่งปัจจุบันเรามีลูกค้ามากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยมีสัดส่วนต่างประเทศมากถึง 87% ทำให้ไม่ค่อยได้รับผลพวงจากปัจจัยในประเทศมากนัก โดยคาดว่าไตรมาส 4 ปีนี้จะสามารถทำกำไรทุบสถิติสูงสุดต่อเนื่อง
เนื่องจากได้โปรเจ็กใหม่ทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับการลงทุนแม่พิมพ์ชิ้นส่วนรถยนต์จากค่ายญี่ปุ่นและเกาหลีจะเริ่มเห็นผลไตรมาสนี้ โดยคาดว่าจะมีการเติบโตรายได้ปีนี้ที่ 15%” นายสมพล กล่าวในที่สุด