กรุงเทพฯ--24 ธ.ค.--บลจ.ธนชาต
บลจ. ธนชาต ปลี้มหลังบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ธนชาติทวีค่า ซึ่งจดทะเบียนแล้ว หรือ NTWK เข้าเป้า รับรางวัลบริหารกองทุนดีเด่น 2 ปีซ้อน จากสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เผยปี 2557 เตรียมเพิ่ม 3 นโยบายการลงทุน ได้แก่ หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ต่างประเทศ และทองคำ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้สมาชิกเลือกลงทุนมากขึ้น
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.ธนชาต ได้รับรางวัลกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดีเด่น ชิงโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จาก “โครงการประกวดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดีเด่น” ครั้งที่ 2 ประจำปี 2556 ที่สมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจัดขึ้น ซึ่งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ธนชาติทวีค่า ซึ่งจดทะเบียนแล้ว หรือ NTWK ได้รับรางวัลติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ของการบริหารกองทุน
ทั้งนี้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ธนชาติทวีค่า ซึ่งจดทะเบียนแล้ว หรือ NTWK มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ หรือ NAV เพิ่มขึ้น ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 อยู่ที่ 2,159 ล้านบาท ปัจจุบันเป็นกองทุนร่วมที่มีหลายนโยบายการลงทุน หรือ Master pooled fund ที่ได้พัฒนามาเพื่อให้สมาชิกเลือกนโยบายการลงทุนด้วยตนเอง หรือ Employee's Choice ตั้งแต่ปี 2552 โดยสมาชิกสามารถเลือกนำเงินไปลงทุนได้ใน 4 นโยบายการลงทุนหลักของกองทุน ได้แก่ นโยบายการลงทุนในหุ้น หุ้นกู้ พันธบัตรรัฐบาล และตลาดเงิน ผ่านการเลือกแผนการลงทุนรวม 5 แผน ซึ่งตั้งแต่ให้บริการ Employee's Choice เป็นต้นมา
นายบุญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2557 บลจ.ธนชาต มีแผนที่จะเพิ่มอีก 3 นโยบาย ได้แก่ หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ต่างประเทศ และทองคำ เพื่อขยายโอกาสในการลงทุน ให้กับสมาชิกได้มีแผนการลงทุนไว้เลือกมากขึ้น และจะได้เปิดให้สมาชิกได้เลือกและเปลี่ยนแผนการลงทุนทางอินเทอร์เน็ตได้เป็นรายวัน พร้อมกับให้เลือกแผนการลงทุนที่มีสัดส่วนต่างกันได้ระหว่างเงินนำส่งรายเดือน และเงินที่เก็บออมไว้ในกองทุนแล้ว เพื่อให้ทันหรือเหมาะสมกับโอกาสการลงทุน
“บลจ.ธนชาต ยึดมั่นในคุณภาพของการให้บริการที่ครบวงจร ที่พร้อมด้วยเครื่องมือในการลงทุน และบริการเสริมทางการเงินจากกลุ่มธนชาต เมื่อผนวกกับบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกองทุนได้อย่างชัดเจนและถูกต้องตามกฎหมาย เป็นที่พึ่งในการวางแผนทางการเงิน โดยเน้นให้ความรู้ความเข้าใจในการลงทุนเพื่อให้เลือกแผนการลงทุนได้เหมาะกับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล และบริหารเงินลงทุนโดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของผู้ลงทุน ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้สมาชิกได้ออมอย่างสบายใจ และถึงเป้าหมายมีเงินออมพอใช้ยามเกษียณอายุในที่สุด”