กรุงเทพฯ--24 ธ.ค.--ปตท.
ฝ่ายกลยุทธ์และแผนธุรกิจ หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายงานสรุปสถานการณ์น้ำมันในสัปดาห์ล่าสุดที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) เพิ่มขึ้น 0.72 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 109.91 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล น้ำมันดิบเวสท์เท็กซัสฯ (WTI) เพิ่มขึ้น 0.74 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 98.22 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตามน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) ลดลง 0.39 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 106.86 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันเบนซินออกเทน 95 ลดลง 0.01 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 117.82 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลลดลง 0.06 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 125.20 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ได้แก่
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
- นักลงทุนมั่นใจว่าภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเริ่มปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่เดือน ม.ค. 57 โดยลดวงเงินที่เข้าซื้อสินทรัพย์ลง 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน อยู่ที่ 7.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน
- กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ รายงานปรับเพิ่มอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ในไตรมาส 3/56 อยู่ที่ 4.1 % จากปีก่อนหน้า สูงกว่าการคาดการณ์ครั้งที่ 2 ที่ระดับ 3.6 %
- ความกังวลต่อเหตุการณ์ไม่สงบในประเทศซูดานใต้ หลังมีความพยายามก่อรัฐประหาร โดยการปะทะทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 ราย และในช่วงปลายสัปดาห์ ความวุ่นวายในแหล่งผลิตน้ำมันดิบ 2 แห่งของประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 16 ราย ทั้งนี้ ซูดานใต้มีกำลังการผลิตน้ำมันดิบ 350,000 บาร์เรลต่อวัน
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
- อิหร่านและกลุ่มมหาอำนาจ 6 ชาติ (P5+1) กลับมาเจรจากันอีกครั้ง เมื่อวันที่ 19-20 ธ.ค. 56 ภายหลังสะดุดในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า เนื่องจากอิหร่านไม่พอใจที่สหรัฐฯ ยังคงดำเนินมาตรการคว่ำบาตร
- รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดีอาระเบีย นาย Ali al-Naimi ระบุว่าจะยังคงการผลิตน้ำมันดิบในระดับสูงต่อไป ทั้งนี้ในเดือน ต.ค. และ พ.ย. 56 ซาอุดีอาระเบียผลิตน้ำมันดิบ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- โรงกลั่นน้ำมัน 3 ใน 5 แห่งของบริษัท Total ในฝรั่งเศส ปิดดำเนินการ นับเป็นกำลังการกลั่นรวมเกือบ 400,000 บาร์เรลต่อวัน หลังสหภาพแรงงาน มีมติหยุดงานประท้วงเพื่อเรียกร้องการเพิ่มค่าแรงต่อไป
แนวโน้มราคาน้ำมันดิบ
ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในสหรัฐฯ แข็งแกร่งในช่วงเทศกาลวันหยุด และนักลงทุนเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจ โดย IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ของสหรัฐฯ ในปี 57 จะเติบโต 2.6% จากปีนี้ (ซึ่งคาดว่าเติบโต 1.6%) ประกอบกับปิดท่าเรือขนส่งในลิเบียยืดเยื้อ ทำให้ปริมาณส่งออกน้ำมันดิบปัจจุบันอยู่ที่ 110,000 บาร์เรลต่อวัน ลดลงจากในเดือน ก.ค. 56 ที่ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยรัฐบาลไม่สามารถเจรจายุติการประท้วง ทำให้ลุกลามจนเกิดข้อเรียกร้องแบ่งแยกดินแดนฝั่งตะวันออก และขาดแคลนน้ำมันสำเร็จรูปใช้ในประเทศจนต้องนำเข้า อย่างไรก็ตาม ในการประชุม Arab Oil Exporters วันที่ 21 ธ.ค. 56 กลุ่ม OPEC ไม่มีแผนปรับลดเพดานการผลิตน้ำมัน (ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ในปี 57 แม้สหรัฐฯ จะผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (Shale) ได้มากขึ้น และ Standard & Poor's (S&P) ประกาศลดความน่าเชื่อถือของสหภาพยุโรป (EU) ลง 1 ระดับจาก AAA มาอยู่ที่ AA+ เพราะไม่มั่นใจในการระดมงบประมาณจากสมาชิกหลายประเทศ ที่มีฐานะทางการเงินตกต่ำลง
ในสัปดาห์นี้ กรอบความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบ Brent อยู่ที่ 109.4-113.6 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล WTI อยู่ที่ 96.5-101.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบ Dubai อยู่ที่ 104.6-109.6 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันเบนซิน
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากจีน เกาหลีใต้ และไต้หวัน ต่างส่งออก Gasoline มายังสิงคโปร์ ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 ธ.ค. 56 เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามอินเดียส่งออก Gasoline ในไตรมาส 4/56 เฉลี่ย 5.1 ล้านบาร์เรลต่อเดือน ลดลงจากช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ ที่ระดับ 5.6 ล้านบาร์เรลต่อเดือน เนื่องจากโรงกลั่นหลายแห่งปิดซ่อมบำรุงหรือประสบปัญหาทางเทคนิค ในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันเบนซินจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 115.4-120.4 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลเฉลี่ยสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลง โดยปริมาณสำรอง Middle Distillates เชิงพาณิชย์ของสิงคโปร์ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 ธ.ค. 56 เพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 8.5 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม โรงกลั่นบางส่วนของบริษัท Total ในฝรั่งเศสปิดดำเนินการ ทำให้ต้องนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเพื่อรองรับต่อความต้องการในช่วงเทศกาล ในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดีเซลจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 123.2-128.2 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล