กรุงเทพฯ--24 ธ.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทีจีส์
สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทยได้เปิดเผยผลการศึกษาของ องค์การความปลอดภัยของอาหารแห่งสหภาพยุโรป (The European Food Safety Authority หรือ EFSA) เกี่ยวกับแอสพาร์แทม ซึ่งเป็นวัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาลชนิดหนึ่งที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชนิดไม่มีพลังงานว่า มีความปลอดภัยต่อการบริโภคและไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพแต่อย่างใด ทั้งนี้ ผลการศึกษาชิ้นนี้สอดคล้องกับความเห็นของนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทั่วโลกที่มีมาอย่างยาวนาน และเป็นเครื่องยืนยันถึงความปลอดภัยของแอสพาร์แทมได้เป็นอย่างดี
สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย ได้เปิดเผยว่า ดร. อลิเซีย มอร์เทนเซน ประธานคณะทำงานด้านFood Additives and Nutrient Sources Added to Foods (ANS) แห่งองค์การความปลอดภัยของอาหารแห่งสหภาพยุโรป (EFSA) ได้แถลงถึงผลการศึกษาด้านความปลอดภัยในการบริโภคแอสพาร์แทมทั้งในมนุษย์และสัตว์ทดลอง ซึ่งพบว่าแอสพาร์แทมเป็นวัตถุเจือปนอาหารที่ไม่มีอันตรายใดๆ ต่อการบริโภค และเนื่องจากการศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงลึกและครอบคลุมมากที่สุดเท่าที่เคยมีการดำเนินการมา จึงน่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคที่เลือกดื่มเครื่องดื่มที่มีแอสพาร์แทมเป็นส่วนประกอบได้เป็นอย่างดี
นายวีระ อัครพุทธิพร อุปนายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย กล่าวว่า “นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกได้ศึกษาความปลอดภัยของแอสพาร์แทมมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 30 ปี ส่วนในประเทศไทยนั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้อนุญาตให้ใช้แอสพาร์แทมเป็นวัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาลในเครื่องดื่มมายาวนานกว่า 7 ปีแล้ว แอสพาร์แทมมักถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมร่วมกับวัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาลชนิดอื่นๆ เพื่อลดปริมาณพลังงานและสร้างทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ตลอดจนผู้ป่วยโรคเบาหวานที่จำเป็นต้องควบคุมการบริโภคน้ำตาลเป็นพิเศษด้วย”
“นอกจากผลการศึกษาล่าสุดจาก EFSA แล้ว ยังมีองค์กรด้านอาหารและสุขภาพทั่วโลกอีกหลายแห่งที่ยืนยันถึงความปลอดภัยของแอสพาร์แทม เช่น คณะกรรมการร่วมด้านวัตถุเจือปนอาหารแห่งองค์กรอนามัยโลก (Joint Committee on Food Additives (JECFA) of the World Health Organization (WHO)) องค์กรอาหารและการเกษตร (Food and Agriculture Organization (FAO)) และหน่วยงานกำกับดูแลด้านความปลอดภัยอาหารในอีกกว่า 100 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทยด้วย
“สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผลการศึกษาของ EFSA ชิ้นนี้ จะทำให้ผู้บริโภคชาวไทยเลือกบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอสพาร์แทมเป็นส่วนผสมได้อย่างมั่นใจ และไม่ต้องกลัวว่าจะมีผลกระทบต่อสุขภาพตามมาแต่อย่างใด” นายวีระกล่าวสรุป
ผลการศึกษาของ EFSA ฉบับเต็มสามารถดูได้ที่ http://www.efsa.europa.eu/en/efsajournal/doc/3496.pdf.