กรุงเทพฯ--26 ธ.ค.--บลจ.ธนชาต
บลจ.ธนชาต เปิดศักราชใหม่รับปีมะเมีย ส่งกองทุนเปิด “ธนชาต Monthly Income Fund 2” (TMonthlyIncome2)” เน้นลงทุนตราสารหนี้อายุ 3 ปี เพิ่มทางเลือกให้แก่นักลงทุน ช่วงภาวะเศรษฐกิจผันผวน เริ่ม IPO ประมาณ 2- 10 มกราคม 2557
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนปี 2557 ว่า เศรษฐกิจไทยโดยรวมยังคงต้องเผชิญกับปัญหาทางการเมืองที่ยังมีแนวโน้มยืดเยื้ออยู่ แม้รัฐบาลประกาศยุบสภาแล้ว ซึ่งจะกระทบต่อทั้งภาคธุรกิจท่องเที่ยว ภาคส่งออก และการใช้จ่ายของภาครัฐให้หยุดชะงัก และมีผลต่อทิศทางการขยายตัวของเศรษฐกิจปี 2557 ให้ชะลอตัวตามไปด้วย
ขณะที่เรื่องการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดที่ลดขนาดของมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเชิงปริมาณ(QE) ลง ซึ่งล่าสุดแม้ว่า เฟด จะมีมติให้ลดการทำQE ลงเดือนละ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ในต้นปีหน้า เหลือเดือนละ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ แม้ระดับการลดจะไม่ได้มาก แต่อย่างน้อยก็เป็นการส่งสัญญาณว่า นโยบายการเงินของเฟดเปลี่ยนไป ทั้งนี้จาก 2 ปัจจัยข้างต้นส่งผลให้ทิศทางตลาดหุ้นไทยในปีหน้าแนวโน้มอาจไม่สดใสมากนัก
บลจ.ธนชาต จึงขอนำเสนอกองทุนเปิด “ธนชาต Monthly Income Fund 2” (TMonthlyIncome2) เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่นักลงทุน ช่วงภาวะเศรษฐกิจผันผวน โดยกองทุนมีเป้าหมายเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ ที่เน้นลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ อายุ 3 ปี ลงทุนขั้นต่ำ 50,000 บาท เริ่มขายครั้งแรก (ครั้งเดียว) ประมาณวันที่ 2 – 10 มกราคม 2557 โดยกองทุนจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติปีละไม่เกิน 12 ครั้ง ซึ่งจะทำการซื้อขายทุกวันที่ 25 ของทุกเดือน
กองทุนเปิดธนชาต Monthly Income Fund 2 เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนหรือภาครัฐ หรือหุ้นกู้สกุลเงินตราต่างประเทศที่เสนอขายในประเทศไทย หรือเงินฝากโดยสามารถลงทุนได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
อย่างไรก็ตามในกรณีที่กองทุนลงทุนในต่างประเทศ กองทุนจะจัดให้มีการป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยน หรืออัตราดอกเบี้ยเต็มจำนวนสำหรับมูลค่าตราสารหนี้ต่างประเทศที่กองทุนได้เข้าไปลงทุน
“กองทุนเปิดธนชาต Monthly Income Fund 2 มีเป้าหมายเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ และเหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยง รวมถึงนักลงทุนที่ต้องการพักเงินกับกองทุนตราสารหนี้”