กรุงเทพฯ--2 ม.ค.--โกลบ์เบิล ครีเอชั่น
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผยดัชนีอุตสาหกรรม 11 เดือนของปี 2556 หดตัว 2.9% โดยมีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ระดับ 64.77% ส่วนดัชนีอุตสาหกรรมเดือน พ.ย. 2556 หดตัว10.6% เป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญ และการบริโภคภายในประเทศชะลอตัว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่มีการผลิตลดลงเนื่องจากความต้องการในประเทศลดลง ประกอบกับฐานที่สูงในปีที่แล้ว
ดร.วิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า สำหรับ GDP ภาคอุตสาหกรรมไตรมาสที่ 3/56 หดตัวร้อยละ 0.4 เป็นผลจากการส่งออกที่ลดลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญ ขณะที่การบริโภคภายในประเทศชะลอตัว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่มีการผลิตลดลงเนื่องจากความต้องการในประเทศลดลง ประกอบกับฐานที่สูงในปีที่แล้ว จากนโยบายคืนภาษีรถยนต์คันแรก ส่วนดัชนีอุตสาหกรรม 11 เดือน (มกราคม-พฤศจิกายน 2556) ลดลง 2.9%
ดร.สมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(MPI) เดือนพฤศจิกายน หดตัวลดลง 10.6% ด้านอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ระดับ 63.14% โดยภาพรวมสิ้นสุด 11 เดือนของปี 2556 หดตัวลง 2.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 64.77% เป็นผลมาจากการลดลงของการผลิตรถยนต์ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ และอาหารทะเลกระป๋องและแช่แข็ง
ภาวะการผลิตรายอุตสาหกรรมของปี 2556 ที่สำคัญ มีดังนี้
อุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ 11 เดือนแรกปี 2556 ขยายตัวร้อยละ 4.09 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากปริมาณการส่งออกขยายตัวไปประเทศแถบโอเชียเนีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรป อเมริกากลางและอเมริกาใต้ โดยการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.13 แต่การจำหน่ายในประเทศลดลงร้อยละ 5.36 แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ ปี 2557 การผลิตจะมีการขยายตัวเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีการผลิตรถยนต์ประมาณ 2,600,000 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.75 แบ่งเป็นการจำหน่ายรถยนต์ในประเทศประมาณ 1,300,000 คัน ลดลงร้อยละ 0.69 และการส่งออกรถยนต์ประมาณ 1,300,000 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.97
อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ การผลิตอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ภาพรวม 11 เดือนแรกปี 2556 มีการปรับตัวลดลงร้อยละ 6.05 เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งมาจากอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการปรับตัวลดลงร้อยละ 6.71 จากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่รวดเร็ว ทำให้ความต้องการคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ/โน๊ตบุ๊คในตลาดโลกลดลงอย่างมาก สำหรับอุตสาหกรรมไฟฟ้ามีการปรับตัวลดลงร้อยละ 3.05 โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่มี การปรับตัวลดลง ส่วนแนวโน้มปี 2557 ในภาพรวมคาดว่าการผลิตจะปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1-3
อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า ปริมาณความต้องการบริโภคเหล็กของไทย 11 เดือนของปี 2556 ขยายตัว ร้อยละ 5.19 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การผลิตชะลอตัวลงเล็กน้อย ร้อยละ 1.96 โดยเป็นผลมาจากตลาดเหล็กในประเทศช่วงครึ่งหลังของปี 2556 มีทิศทางที่ทรงตัวของอุตสาหกรรมต่อเนื่องหลายอุตสาหกรรม ได้แก่ ก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักรกล บรรจุภัณฑ์ ในปี 2557 คาดการณ์ว่าแนวโน้มระดับความต้องการใช้เหล็กของไทย จะเผชิญกับความผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจมหภาคของประเทศสถานการณ์ทางการเมือง และแนวโน้มตลาดในอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่ใช้เหล็ก
อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ภาพรวม 11 เดือนของปี 2556 ขยายตัวได้ดีทั้งการผลิต การจำหน่ายในประเทศ และการส่งออก ส่งผลให้การนำเข้าเส้นใยสิ่งทอฯ ปรับลดลง สำหรับในกลุ่มผ้าผืน ได้รับผลกระทบจากการนำเข้าผ้าผืนราคาถูกจากจีน และในกลุ่มเสื้อผ้าสำเร็จรูป ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ส่วนแนวโน้มปี 2557 คาดว่าจะขยายตัวได้ในส่วนของการผลิตเส้นใยสิ่งทอฯ และผ้าผืน เพื่อสนองความต้องการโดยเฉพาะผู้ผลิตในอาเซียน และญี่ปุ่น ส่วนเสื้อผ้าสำเร็จรูป การผลิตจะขยายตัวใกล้เคียงกับปี 2556
อุตสาหกรรมอาหาร การผลิตอุตสาหกรรมอาหารของปี 2556 การผลิตในภาพรวมคาดว่าปรับตัวลดลงจากปีก่อนร้อยละ 0.1 ส่วนการส่งออกในภาพรวมลดลงร้อยละ 6.2 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติและการระบาดของโรค และการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศผู้นำเข้า เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ส่วนแนวโน้มปี 2557 คาดว่า ในภาพรวมการผลิตจะขยายตัวประมาณร้อยละ 1-2