กรุงเทพฯ--2 ม.ค.--BC COMMUNICATION
บ้านสบายนวดแผนไทย สามเสน ซอย 6 ชูจุดเด่นเน้นบริการ ความสะอาด และการคัดสรรพนักงานนวดมืออาชีพ ชี้ธุรกิจนี้ต้องตีโจทย์ให้แตกโดยเฉพาะทำเลที่ตั้งซึ่งเหมาะกับเปิดร้านแบบไหน กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นใคร และใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวมากน้อยแค่ไหน แนะผู้จัดการร้านต้องเรียนรู้ทั้งเรื่องทฤษฎี และการปฏิบัติ เพื่อนำมาปรับปรุง และปรับแก้ให้เข้ากับสไตล์การดำเนินงานของร้านตัวเองให้มากที่สุด
นางสาวทิพย์รดา เอกภิรมย์พงษ์ ผู้จัดการร้าน “บ้านสบายนวดแผนไทย” (สามเสน ซอย 6) กล่าวถึงจุดเด่นของการนวดแผนไทยว่าเป็นที่แพร่หลายอย่างมากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติต่างให้ความนิยม และชื่นชอบ เนื่องจากการนวดนั้นนอกจากจะช่วยทำให้ร่างกายได้ผ่อนคลายแล้ว ยังเหมือนกับเป็นการออกกำลังกายที่ดี และช่วยยืดเส้นให้กับร่างกายผ่านทางผู้เชี่ยวชาญ หรือพนักงานนวดที่ผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
“โดยปกติแล้วชาวต่างชาติจะนิยมทำกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพเป็นประจำ อาทิเช่น การเล่นโยคะ และออกกำลังกาย (ฟิตเนส) ดังนั้น การนวดจึงช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายและเหมือนกับได้ออกกำลังการเหมือนกัน อีกทั้งความถี่ของการนวดนั้นขึ้นอยู่ที่ความชอบของลูกค้าแต่ละคน ซึ่งถ้าเป็นไปได้ไม่แนะนำให้นวดทุกวัน แต่ให้เป็นอาทิตย์ละ 1 ครั้ง หรือ 2 ครั้งต่ออาทิตย์ก็ได้” นางสาวทิพย์รดากล่าว
พร้อมกับระบุเพิ่มเติมถึงการนวดแผนไทยว่าหลักๆ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ได้แก่ การนวดตัว และนวดฝ่าเท้า โดยการนวดนั้นถ้ามีการเรียนรู้ลึกลงไปจะทราบว่าตามจุดต่างๆ ของร่างกายจะรักษาโรคได้ อย่างเช่น นวดฝ่าเท้าจะมีหลายจุดที่บอกว่าเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร ลำไส้ หรือเกี่ยวกับร่างกาย ซึ่งการนวด บ่อยๆ จะช่วยทำให้เลือดลมหมุนเวียนได้ดีขึ้นเป็นเหมือนการนวดกดจุดต่างๆ ดังนั้น การนวดจึงขึ้นอยู่ที่ว่าจะเน้นนวดแบบใด และเลือกประเภทกิจการร้านนวดว่าจะเลือกเปิดแบบใดระหว่างการเปิดร้านนวดที่เน้นรักษาโรคและมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำแบบเมดิคอลสปา หรือเปิดร้านนวดแบบผ่อนคลาย
ผู้จัดการร้าน “บ้านสบายนวดแผนไทย” กล่าวต่อว่าทางร้านบ้านสบายฯ เน้นการนวดแบบผ่อนคลายเป็นหลัก เพราะพิจารณาจากปัจจัยในเรื่องสถานที่ตั้งของร้านซึ่งอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวทั้งถนนข้าวสาร และวัดพระแก้ว จึงมีลูกค้าต่างชาติเป็นจำนวนมาก บวกกับกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศสูงถึงกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ และอีก 30 เปอร์เซ็นต์เป็นลูกค้าคนไทย ดังนั้น การพิจารณาตรงนี้จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และต้องดำเนินการควบคู่กับเรื่องความสะอาด การคัดสรรพนักงานนวดที่มีคุณภาพ และการใส่ใจลูกค้าและสุขภาพของลูกค้าในเบื้องต้นให้มากที่สุด ปัจจัยเหล่านี้ถือว่าเป็นจุดเด่นและช่วยสร้างชื่อให้กับทางร้านเสมอมา อีกทั้งยังเป็นหัวใจสำคัญสำหรับผู้ประกอบการที่อยากจะผัน หรือพลิกตัวเองเข้ามาสู่ธุรกิจประเภทนี้ รวมถึงการคิดค่าบริการ และการปรับสไตล์การนวดให้ลูกค้าพึงพอใจมากที่สุด
“การบริหารร้านนวดนั้นต้องเรียนรู้ทั้งเรื่องทฤษฎี และการปฏิบัติ โดยอาจจะไปเรียนเพิ่มเติม หรือเข้ารับการฝึกอบรมในเรื่องต่างๆ อาทิเช่น การฝึกเป็นผู้จัดการสปา หรือการเรียนรู้ในเรื่องการนวด หรือเทคนิคการนวดแบบใหม่ๆ และนำมาปรับปรุงและปรับใช้ในร้านของตัวเอง รวมถึงการได้รู้จักผู้ประกอบการร้านอื่นๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งตรงนี้จะเป็นเหมือนการช่วยสร้างสายสัมพันธ์ที่ดี และอาจจะมีการขอความช่วยเหลือ หรือคำแนะนำระหว่างกันได้ในอนาคต” ผู้จัดการร้านฯ ทิพย์รดาระบุ
พร้อมกับสรุปทิ้งท้ายว่าโดยปกติแล้วการนวดแผนไทยอาจจะแตกต่างกับนวดในแบบสปา ซึ่งสปาจริงๆ คือเน้นเกี่ยวกับเรื่องน้ำ ดังนั้น จึงจะเน้นในเรื่องการให้บริการที่ครบวงจรมีอ่างน้ำจากุซซี่ มีที่อบสตรีมไอน้ำ ขณะที่ร้านนวดแผนไทยจะเน้นการนวดฝ่าเท้า นวดตัว และนวดน้ำมันอโรมา เป็นต้น ซึ่งจะว่าไปแล้วขณะนี้ร้านนวดส่วนใหญ่คล้ายคลึงกับสปา