กรุงเทพฯ--2 ม.ค.--PC & Associates Consulting
นาฟิส จัสมานี
ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
บริษัท แอ็กซิส คอมมูนิเคชั่นส์
IMS Research (ซึ่งตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของ IHS) คาดการณ์ว่า CCTV จะถึงจุดอิ่มตัวในปี 2557 โดยรายงานฉบับใหม่ที่มีชื่อว่า The World Market for CCTV and Video Surveillance Equipment (ตลาดโลกสำหรับอุปกรณ์ CCTV และระบบวิดีโอตรวจการณ์) ระบุว่าตลาด CCTV และระบบวิดีโอวงจรปิดกำลังก้าวไปในทิศทางที่ยอดขายสำหรับวิดีโอแบบไอพีจะแซงหน้าระบบอนาล็อกเป็นครั้งแรกภายในปีหน้า ในบทความนี้ โยฮัน พอลสัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของแอ็กซิส คอมมูนิเคชั่นส์ สำรวจตรวจสอบแนวโน้มสำคัญๆ สำหรับตลาดวิดีโอวงจรปิดบนเครือข่าย IP ทั่วโลก ซึ่งจะช่วยปรับปรุงสิ่งต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น
ทุกวันนี้ไม่มีใครอยากซื้อกล้อง
ลูกค้าต้องการซื้อโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง การเปลี่ยนจากระบบอนาล็อกไปสู่ IP ช่วยให้สามารถเพิ่มเติมฟังก์ชั่นให้กับกล้องวิดีโอและโซลูชั่นการรักษาความปลอดภัย เช่น การบันทึกข้อมูลไว้ภายในกล้อง ระบบวิเคราะห์ภาพวิดีโอ และการควบคุมการเข้า-ออกพื้นที่อย่างชาญฉลาดมากขึ้น นอกจากนี้ ยังกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนย้ายไปสู่ระบบวิดีโอเชิงรุกที่ฉลาดมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยปรับปรุงการรักษาความปลอดภัยแล้ว ยังก่อให้เกิดประโยชน์ทางด้านธุรกิจแก่องค์กรทุกขนาดอีกด้วย
การผนวกรวมกล้องเข้ากับระบบ BI ขยายโอกาสใหม่ๆ ทางด้านธุรกิจ
ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจค้าปลีก ผลการศึกษาล่าสุดของแอ็กซิสเปิดเผยว่ากว่าครึ่งหนึ่ง (58%) ของผู้ค้าปลีกในสหราชอาณาจักรมีแผนที่จะโยกย้ายจากระบบ CCTV แบบอนาล็อกไปสู่ระบบวิดีโอบนเครือข่ายรุ่นใหม่ เพื่อผนวกรวมกล้องวิดีโอแบบ IP เข้ากับโปรแกรมบิสซิเนส อินเทลลิเจนซ์ (Business Intelligence - BI) ซึ่งนับเป็นเหตุผลสำคัญที่สุดที่ทำให้ผู้ค้าปลีกในสหราชอาณาจักรตัดสินใจเปลี่ยนย้ายไปสู่ระบบกล้องวิดีโอแบบ IP หรือบางครั้งอาจเรียกว่า ระบบวิดีโอตรวจการณ์บนเครือข่าย IP
ปัจจุบัน ผู้ค้าปลีกสามารถติดตั้งกล้องวิดีโอแบบ IP ที่ผนวกรวมเข้ากับแอพพลิเคชั่น BI ที่มีอยู่ได้อย่างกลมกลืน โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานแพลตฟอร์มและ API แบบเปิด ความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับกล้องวิดีโอแบบ IP อัจฉริยะรุ่นใหม่เป็นผลมาจากความน่าสนใจในการรันซอฟต์แวร์ด้านการวิเคราะห์วิดีโอที่หลากหลายภายในตัวกล้อง
กล้องวิดีโอแบบ IP อัจฉริยะพร้อมทำงานอย่างต่อเนื่องทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง และเมื่อตรวจพบสิ่งผิดปกติ ก็จะเริ่มต้นบันทึกภาพหรือส่งสัญญาณเตือนไปยังผู้ควบคุมระบบ
นอกจากนี้ ระบบวิดีโออัจฉริยะยังสามารถดึงวิดีโอและข้อมูลจากสัญญาณวิดีโอตรวจการณ์ และผสานรวมข้อมูลดังกล่าวเข้ากับแอพพลิเคชั่นอื่นๆ เช่น ระบบจัดการการค้าปลีก หรือระบบควบคุมการเข้า-ออกพื้นที่ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านใหม่ๆ และขยายโอกาสทางธุรกิจ โดยอาศัยฟังก์ชั่นเสริม เช่น การนับจำนวนคนเข้าออกพื้นที่ การวิเคราะห์ข้อมูลประชากรศาสตร์ และการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการรอคิวยาวจนเกินไป
IP เปิดประตูสู่โลกใหม่ของระบบควบคุมการเข้า-ออกพื้นที่
การเติบโตของเทคโนโลยี IP ในตลาดระบบวิดีโอตรวจการณ์ยังช่วยผลักดันความนิยมในการโยกย้ายเทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยอีกอย่างหนึ่งไปสู่สภาพแวดล้อมการทำงานบนเครือข่าย IP นั่นคือ ระบบควบคุมการเข้า-ออกพื้นที่
ตลาดทั่วโลกสำหรับระบบควบคุมการเข้า-ออกพื้นที่มีมูลค่าประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์ (2555) และจะเติบโตจนมีมูลค่าประมาณ 4.2 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2560 โดยคิดเป็นอัตราการเติบโต 7 เปอร์เซ็นต์ ตามข้อมูลของบริษัทวิจัยตลาด IHS
สำหรับองค์กรธุรกิจจำนวนมากและโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาคารแบบอัจฉริยะใหม่ๆ การโยกย้ายระบบควบคุมการเข้า-ออกพื้นที่ไปยังสภาพแวดล้อมดิจิตอลย่อมจะก่อให้เกิดประโยชน์มากมายหลายประการ เช่น ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งที่ถูกกว่า การกำหนดค่าและบริหารจัดการได้ง่ายกว่า ทั้งยังปรับปรุงการใช้งานระบบอย่างได้หลากหลาย และรองรับการผนวกรวมเข้ากับผลิตภัณฑ์ด้านการรักษาความปลอดภัยอื่นๆได้อย่างงายดาย
การโยกย้ายไปสู่โซลูชั่นบนเครือข่าย IP จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับการติดตั้งระบบควบคุมการเข้า-ออกพื้นที่ และจะช่วยแก้ไขปัญหาข้อจำกัดต่างๆ ของระบบแบบเก่าที่มีอยู่ และรองรับฟังก์ชั่นการทำงานเพิ่มเติมนอกเหนือจากระบบควบคุมประตูทั่วไป
การผนวกรวมเข้ากับระบบวิดีโอตรวจการณ์เป็นหนึ่งในตัวอย่างของความต้องการที่สามารถตอบสนองได้ง่ายขึ้นด้วยโซลูชั่นบนเครือข่าย IP ที่จริงแล้ว การทำงานแบบดิจิตอลมาตรฐานมีศักยภาพในการสร้างโอกาสที่นับไม่ถ้วนสำหรับการผนวกรวมระบบอื่นๆ เช่น การตรวจจับการบุกรุก การตรวจจับเพลิงไหม้ และระบบอื่นๆ เข้าไว้ในระบบแบบครบวงจรที่จัดการและใช้งานได้อย่างง่ายดาย
เช่นเดียวกับตลาดวิดีโอตรวจการณ์ การเปลี่ยนย้ายไปสู่เครือข่าย IP ในส่วนของระบบควบคุมการเข้า-ออกพื้นที่ยังหมายถึงการเปลี่ยนย้ายจากระบบปิดไปสู่โซลูชั่นแบบเปิด และโซลูชั่นเหล่านี้จะอ้างอิงมาตรฐานอุตสาหกรรมสากลอีกด้วย
การโยกย้ายระบบควบคุมการเข้า-ออกพื้นที่ไปสู่ TCP/IP จะนำเสนอโอกาสใหม่ๆ ทางด้านธุรกิจ ตัวอย่างเช่น ผู้ติดตั้งระบบจะสามารถดำเนินการติดตั้งได้อย่างง่ายดาย และสามารถผนวกรวมระบบควบคุมการเข้า-ออกพื้นที่เข้ากับระบบอื่นๆ ตัวแทนจำหน่ายจะสามารถขยายตลาดและฐานลูกค้าใหม่ๆ เพราะจะมีอิสระในการผสานรวมส่วนประกอบต่างๆ จากผู้ผลิตหลายรายเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างข้อเสนอธุรกิจที่มีประโยชน์และน่าสนใจ และท้ายที่สุด ผู้ใช้จะได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีราคาประหยัดที่ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้อย่างง่ายดาย และพร้อมรองรับการใช้งานในอนาคต เพื่อคุ้มครองและปกป้องทรัพย์สินอันมีค่า
โซลูชั่นอัจฉริยะเพื่ออนาคตที่สดใส
นับตั้งแต่ที่มีการประดิษฐ์กล้อง IP แบบรวมศูนย์เครื่องแรกในปี 2539 ก็มีการพัฒนามาอย่างยาวไกล จากอุปกรณ์ที่ใช้ตรวจสอบภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น ไปสู่เครื่องมือที่รองรับโซลูชั่นเสริมมากมายที่ทำงานในแบบเชิงรุก โซลูชั่นเหล่านี้นอกจากจะปกป้องเราจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มคุณประโยชน์ทางด้านธุรกิจและขยายโอกาสใหม่ๆ อีกมากมายอย่างไม่รู้จบ นอกจากนี้ การใช้โครงสร้างพื้นฐานแพลตฟอร์มและ API แบบเปิดยังช่วยกระตุ้นให้ทุกๆ ฝ่ายออกแบบและพัฒนาโซลูชั่นที่ฉลาดกว่าเดิม เพื่ออนาคตที่สดใสมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลคาดการณ์เพิ่มเติม 6 ข้อสำหรับระบบวิดีโอตรวจการณ์ในปี 2557 และอนาคต
ทีวี High Definition (HDTV) จะกลายเป็นมาตรฐานสำหรับกล้องวิดีโอตรวจการณ์ โดยจะมีความละเอียดและความไวในระดับที่เหมาะสมสำหรับการสร้างระบบวิดีโอตรวจการณ์ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น สามารถใช้ระบุตัวบุคคลหรือวัตถุได้อย่างแม่นยำ เราคาดการณ์ว่าความสนใจหลักสำหรับ HDTV จะเปลี่ยนย้ายจาก 720p ไปสู่ 1080p ในช่วงปี 2557
4K คือพัฒนาการขั้นถัดไปจาก HDTV ซึ่งจะช่วยปรับปรุงคุณภาพของภาพวิดีโอให้ดียิ่งขึ้น สำหรับตลาดเทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัย 4K เหมาะสำหรับกรณีที่ต้องการภาพวิดีโอที่มีรายละเอียดและคุณภาพสูง
กล้องที่ให้ภาพสียามค่ำคืนและไวต่อการเปลี่ยนสภาวะแสงสูงจะมีความสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างมาก และจะกลายเป็นคุณสมบัติมาตรฐานในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า เนื่องจากผู้ใช้มีความต้องการเพิ่มมากขึ้น และมีเทคโนโลยีที่พร้อมใช้งาน
กล้องถ่ายภาพความร้อน ซึ่งทำหน้าที่ “ตรวจจับ” จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของโซลูชั่นการรักษาความปลอดภัย
โซลูชั่นแบบเคลื่อนที่ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจดูภาพวิดีโอตรวจการณ์ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยสามารถปรับขนาดของภาพและไฟล์แบนด์วิธเพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างหลากหลาย
โซลูชั่นสำเร็จรูปแบบอัจฉริยะ กล้องวิดีโอตรวจการณ์มีความฉลาดมากขึ้น เพราะสามารถรันฟังก์ชั่นบนตัวกล้องโดยตรงได้มากขึ้น ซึ่งนั่นหมายความว่ากล้องวิดีโอจะเลือกและแจ้งเตือนไปยังส่วนกลางเฉพาะเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงหรือความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าเพื่อแจ้งเตือนไปยังส่วนกลางในกรณีที่กล้องเกิดเสียหายหรือจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบ