กรุงเทพฯ--6 ม.ค.--IR network
“บมจ.อี ฟอร์ แอล เอม หรือ EFORL ลั่น 2557 เป็นปีแห่งการเทิร์นอะราวด์ หลังจัดทัพธุรกิจใหม่ เดินหน้าปั๊มรายได้จากธุรกิจอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ตั้งเป้ารายได้ 1,500-2,000 ล้านบาท ระบุเป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง พร้อมได้อานิสงส์รัฐหนุนไทยเป็นศูนย์กลางการแพทย์แห่งอาเซียน และเตรียมขยายฐานลูกค้า AEC ประเดิม เวียดนาม-มาเลเซีย นอกจากนี้เล็งหาวิธีล้างขาดทุนสะสมให้หมดโดยด่วน เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นให้เร็วที่สุด ส่วนปี 2556 มั่นใจพลิกโชว์กำไรสบาย หลังเริ่มเป็นบวกตั้งแต่ไตรมาส 3/56 เหตุไตรมาส 4/56 รับรู้รายได้จากธุรกิจเครื่องมือแพทย์เต็มแม็ก
นายธีรวุทธิ์ ปางวิรุฬห์รักข์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อี ฟอร์ แอล เอม หรือ EFORL เปิดเผยว่าปี 2557 ตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นปีแห่งการเทิร์นอะราวด์ คาดว่าจะประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมากและมีการเติบโตของรายได้และกำไรค่อนข้างโดดเด่น ตั้งเป้าหมายรายได้รวมปีนี้ไว้ที่1,500– 2,000 ล้านบาท ภายหลังจากได้ปรับโครงสร้างธุรกิจมาเน้นการนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ควบคู่ไปกับธุรกิจให้บริการสื่อโฆษณาภายในอาคาร ผ่านสื่อดิจิตอล ซึ่งทำให้ผลประกอบการของEFORL เริ่มมีกำไรตั้งแต่ไตรมาส 3/2556 เป็นต้นมา
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2556 ถือเป็นอีกช่วงสำคัญ เพราะจะรับรู้รายได้อย่างเต็มที่จากบริษัทย่อยคือ บริษัท สเปซเมด จำกัด ซึ่งอยู่ในธุรกิจเครื่องมือแพทย์โดยในไตรมาส 3/2556 บริษัทรับรู้รายได้จากสเปซเมดเพียง 10 วันเท่านั้น แต่ยังสามารถพลิกมีกำไรสุทธิ 3.63 ล้านบาท จึงมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2556 จะผลักดันให้ผลการดำเนินงานปี 2556 ตลอดทั้งปีพลิกโชว์กำไรสุทธิได้ นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะหารือกับคณะกรรมการเกี่ยวกับการล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 239 ล้านบาทให้หมดไปเพื่อให้สามารถจ่ายปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้นให้เร็วที่สุด
“บริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจมาเน้นการนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง และบริษัทเป็นผู้นำที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้ มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์ โดยธุรกิจนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลที่กำหนดยุทธศาสตร์ชัดเจนว่า ภายในปี 2556-2560 ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของอาเซียน ซึ่งมองว่าธุรกิจนี้ในประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีก เนื่องจากค่าเฉลี่ยของการใช้จ่ายในอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ของทั่วโลกเปรียบเทียบกับ GDPมีอัตรากว่าร้อยละ10 สหรัฐร้อยละ15 ยุโรปร้อยละ12 เอเชียร้อยละ7-8 ส่วนประเทศไทยร้อยละ4ซึ่งประเทศไทยมีการใช้จ่ายด้านเครื่องมือแพทย์ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเยอะมากดังนั้นธุรกิจนี้จึงมีโอกาสเติบโตได้อีกมากเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น”
นายธีรวุทธิ์ กล่าวต่อว่ากลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2557 นอกจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์ที่มีชื่อเสียงและเป็นผู้นำตลาดแล้ว จะมีการเพิ่มทีมงานที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญมาเสริมทัพให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจเชิงรุก เดินเข้าหาลูกค้าโดยกลุ่มเป้าหมายมีทั้งภายในประเทศที่เป็นกลุ่มโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงบุกตลาดต่างประเทศเพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมอาเซียน หรือ AEC ที่จะเปิดในปี 2558 แต่สำหรับการทำงานของ EFORL จะเตรียมความพร้อมเอาไว้ล่วงหน้า โดยเริ่มรุกตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป โดยมีประเทศเป้าหมายเริ่มต้นคือ เวียดนาม และมาเลเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพ จากนั้นค่อยขยายฐานไปสู่ประเทศอื่นๆ ต่อไป
อุตสาหกรรมด้านสุขภาพประเทศไทย มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 4 แสนล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ร้อยละ 10 หรือประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ซึ่ง EFORL ตั้งเป้าหมายว่าในปี 2557จะมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณร้อยละ5 ของธุรกิจอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์
“ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของ EFORL มาจากธุรกิจใหม่คือ การนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ร้อยละ60 และธุรกิจโฆษณาอยู่ที่ร้อยละ40 แต่ในปี 2557 คาดว่ารายได้จากธุรกิจใหม่จะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่าร้อยละ 80 เนื่องจากฐานรายได้ที่ใหญ่ขึ้น เพราะตลาดยังเปิดกว้างและมีแรงหนุนจากรัฐบาลที่ตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็น HUB ด้านสุขภาพ มีการกำหนดยุทธศาสตร์จะต้องเป็นให้ได้ภายใน 5 ปี (2556-2560) ดังนั้นจึงเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันให้ตลาดนี้เติบโตต่อไปในอนาคต”
ก่อนหน้านี้ EFORL เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนในการนำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องช่วยหายใจของ Hamilton ซึ่งเป็นผู้นำตลาดในด้านนี้ และขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ประกอบการอีกหลายราย เพื่อขอเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์ในประเทศไทย ส่วน “สเปซเมด” เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องวัดความดันดิจิตอล ANA และเป็นตัวแทนจำหน่ายกล้องจุลทรรศน์ของ Olympus เป็นต้น