กรุงเทพฯ--6 ม.ค.--แฮฟเอกู๊ดดรีม
วันพุธที่ 8 ม.ค. 57 ห้าทุ่มตรง ทางช่อง 7 สี กับรายการ “เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย” พาชิมวัตถุดิบสุดสยิว “อสุจิปลา” ที่ท่านประธานสันติบอกว่า.. “กินคำเดียว เหมือนกินปลาครบอ่าว”
เริ่มต้นรายการกับช่วง “ล่าวัตถุดิบ..สุดขอบโลก (World Ingredient)” ที่คราวนี้ บอล เชิญยิ้ม และ เฟิร์น พัสกร ยังคงอยู่กันที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อตามหาวัตถุดิบหลัก (Secret Ingredient) สำหรับใช้ในการแข่งขันบนเวที คิทเช่น สเตเดี้ยม (Kitchen Stadium) กับวัตถุดิบชิ้นแรก ที่ท่านประธานสันติย้ำกับสองพิธีกรรับเชิญว่าต้องไปชิมให้ได้ แถมยังใบ้ให้ด้วยว่า กินแค่คำเดียว เหมือนกินปลาได้ครบทั้งอ่าว มีเหรอที่สองพิธีกรจะไม่อยากลิ้มลอง รีบตรงดิ่งสู่เมืองซัปโปโร แหล่งรวมวัตถุดิบอันล้ำค่าของประเทศญี่ปุ่น ตามที่ท่านประธานสันติได้ให้ลายแทงไว้ จนได้พบว่าวัตถุดิบที่ท่านประธานให้ตามหานั้นก็คือ “อสุจิปลา” ที่ทำเอาสาวเฟิร์นถึงกับเหวอพูดไม่ออก แต่ด้วยความที่ได้รับมอบหมายภารกิจไปแล้ว ถ้าไม่ได้ลิ้มลองก็ดูจะเสียเที่ยว จึงตัดใจชิมแบบกล้าๆกลัวๆ จนได้รับรู้ถึงรสชาติแถมการันตีอีกว่า อร่อยอย่าบอกใครเชียว! เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการตามหาวัตถุดิบชิ้นแรก
ตามมาติดๆกับการตามหาวัตถุดิบชิ้นที่สอง ที่ท่านประธานสันติมอบหมายให้เดินทางไปเมืองมิยาซากิ อีกหนึ่งเมืองท่าและเมืองตากอากาศของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะคิวชู อีกหนึ่งเมืองที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบอันล้ำค่า แต่ด้วยความที่หนุ่มบอลจะขอพักผ่อนต่อที่เมืองซัปโปโล สาวเฟิร์นเลยต้องเดินทางไปยังเมืองมิยาซากิด้วยตัวคนเดียว ท่านประธานสันติเห็นท่าว่าไม่น่าจะรอด จึงรีบส่ง กอล์ฟ เบญจพล ให้ไปดูแล และอีกหนึ่งวัตถุดิบที่ต้องไปตามล่านั่นก็คือ “เนื้อวัวมิยาซากิ” โดยเนื้อวัวของเมืองมิยาซากิจะโดดเด่นในเรื่องของมันที่แทรกอยู่ในเนื้อ จึงให้รสชาติที่อร่อยนุ่มละมุนไม่แพ้เนื้อวัวมัสสึซากะเลย และด้วยดีกรีที่เป็นถึงรายการเชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย จึงได้รับเกียรติอย่างสูงจากรัฐบาลของประเทศญี่ปุ่น อนุญาตให้เข้าไปชมถึงโรงงานแล่เนื้อวัวมิยาซากิที่ใหญ่ที่สุดในเมืองมิยาซากิ ซึ่งเปิดมานานกว่า 34 ปี แถมยังได้เดินชมทุกกระบวนการ ก่อนจะได้ออกมาเป็นเนื้อวัวมิยาซากิอันเลื่องชื่อ ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกกระบวนการการผลิตอยู่ภายใต้ความสะอาด ที่เรียกว่าอยู่ในขั้นที่สะอาดมากถึงมากที่สุดกันเลยทีเดียว
จากนั้นไปพบกันเช่นเคยกับ ชาคริต แย้มนาม พิธีกรประจำรายการ บน คิทเช่น สเตเดี้ยม (Kitchen Stadium) ที่ครั้งนี้เชฟผู้ท้าชิงเป็นเชฟในสไตล์ อาหารจีนกวางตุ้งต้นตำรับขนานแท้ (Authentic Cantonese Chinese Cuisine) เชฟสำรอง เพ็งไชย เชฟผู้สั่งสมประสบการณ์อาหารจีนกวางตุ้ง มามากกว่า 40 ปี ทั้งในประเทศไทย และประเทศมาเลเซีย ปัจจุบันเป็นหัวหน้าเชฟ ของโรงแรมโฟร์วิงส์ สุขุมวิท กรุงเทพฯ การมาในครั้งนี้เขาเจาะจงมาแข่งขันกับ เชฟป้อม-ธนรักษ์ ชูโต เชฟอาหารจีนร่วมสมัย ประจำเวทีเชฟกระทะเหล็ก โดยเฉพาะ เพื่อให้เชฟป้อมซึ่งเป็นเชฟอาหารจีนร่วมสมัย ได้รู้จักอาหารจีนกวางตุ้งแบบต้นตำรับของจริง แถมเขายังได้ฝากถึงเชฟป้อมอีกด้วยว่า.. “เชฟอาหารจีนที่ไม่แท้ ย่อมต้องแพ้เชฟอาหารจีนต้นตำรับแน่นอน!!”
ระหว่าง “เชฟสำรอง” เชฟผู้ท้าชิง กับ “เชฟป้อม” เชฟกระทะเหล็ก ใครจะเป็นผู้ชนะในการแข่งขันครั้งนี้ และ ระหว่าง “อสุจิปลา” กับ “เนื้อวัวมิยาซากิ” วัตถุดิบใดจะถูกเลือกให้เป็นวัตถุดิบหลัก (Secret Ingredient) ติดตามชมได้ในรายการ เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย คืนวันพุธที่ 8 มกราคม 57 เวลา 23.00น. – 01.00น. ทางช่อง 7 สี ห้ามพลาด!!