ฟรอสต์ชี้ “บิ๊กดาต้า เป็นตัวแปรสำคัญเปิดโอกาสใหม่ให้ธุรกิจ”

ข่าวทั่วไป Monday January 6, 2014 11:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ม.ค.--ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน “บิ๊กดาต้า” หรือ “อภิมหาข้อมูล” เป็นหนึ่งในเทรนด์เทคโนโลยีสำคัญที่มีแนวโน้มการตอบรับที่เพิ่มมากขึ้นในปีนี้ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงและยังคงมีการลงทุนทางด้านไอทีอย่างต่อเนื่อง แนวคิดหลักของบิ๊กดาต้าคือการนำเอาข้อมูลอันมหาศาลที่ถูกสร้างขึ้นทั้งข้อมูลที่มีรูปแบบ (อีเมล์ ฐานข้อมูลองค์กร) และข้อมูลที่ไร้รูปแบบ (ข้อมูลจากสังคมออนไลน์ หรือ ความคิดเห็นโต้ตอบบนกระทู้ รูปภาพ) มาวิเคราะห์ประมวลผลเพื่อให้เกิดวิสัยทัศน์และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งประกอบการตัดสินใจภายในองค์กร อย่างไรก็ตามแม้ว่าบิ๊กดาต้าจะได้รับการพูดถึงอย่างแพร่หลายทั้งในกลุ่มธุรกิจและอุตสาหกรรมไอที คำถามสำคัญที่ยังคงมีอยู่คือ บิ๊กดาต้านั้นสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจได้คุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ นายธีระ กนกกาญจนรัตน์, นักวิเคราะห์ด้านไอซีทีและผู้เชี่ยวชาญด้านบิ๊กดาต้า บริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า “ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ธุรกิจจำนวนมากจากหลากหลายอุตสาหกรรมล้วนให้ความสนใจและเริ่มนำบิ๊กดาต้าเข้ามาใช้ในองค์กรกันมากขึ้น เนื่องจากผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนนั้นชัดเจน ทั้งในด้านการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น” “กรณีศึกษาจากทั่วโลกในการนำบิ๊กดาต้ามาใช้ประโยชน์ในองค์กรนั้นมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่นผู้ให้บริการโครงข่ายและโทรศัพท์เคลื่อนที่ในสหรัฐอเมริกาเริ่มเปิดให้บริการข้อมูลจากบิ๊กดาต้าแก่ลูกค้าองค์กร ธุรกิจค้าปลีกสามารถเข้าถึงข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในแต่ละพื้นที่เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจเลือกที่ตั้งเปิดร้านค้าสาขาใหม่ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนคนที่เดินผ่านถนนเส้นนั้นในแต่ละวัน แบ่งเป็นอัตราส่วนอย่างไรตามแต่ละช่วงของวัน เป็นชายหรือหญิง ในจำนวนคนที่เดินผ่านนี้เป็นผู้อาศัยในเขตนั้นหรือเป็นนักช็อป ร้านใดที่กลุ่มเป้าหมายเข้าเยี่ยมชมมากที่สุด” “ในด้านบริการสาธารณสุข กูเกิลได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขสหรัฐอเมริการในการใช้บิ๊กดาต้าเพื่อวิเคราะห์การแพร่ระบาดของเชื้อหวัดในแต่ละปีเพื่อหาทางป้องกัน ในอุตสาหกรรมกีฬาทีมบาสเก็ตบอลชั้นนำจาก NBA เช่นดีทรอยต์พิสตัน ได้ใช้บิ๊กดาต้าเพื่อเข้าถึงแฟนคลับของทีมให้มากยิ่งขึ้น ฝ่ายการตลาดของทีมสามารถที่จะส่งโฆษณาและแนะนำบริการที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละคนทั้งขณะที่มาชมเกมส์ในสนามและนอกสนาม อีกหนึ่งตัวอย่างคือ Jack in the Box บริษัทฟาสต์ฟู้ดของสหรัฐอเมริกาและฟีนิกส์ ซันส์ ทีมบาสเก็ตบอล NBA ได้นำบิ๊กดาต้ามาใช้ในการติดตามประสิทธิภาพผลลัพธ์ของแคมเปญโปรโมชั่นของแฟนคลับที่ทำร่วมกัน และปรับแผนการตลาดให้เหมาะสม” “ด้วยปริมาณข้อมูลที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการคาดการณ์ว่าปริมาณข้อมูลจะเพิ่มสูงถึง 40 เซตตะไบต์ภายในปี 2563 ดังนั้น ความสำคัญของบิ๊กดาต้าจะยิ่งเพิ่มขึ้นในฐานะแหล่งข้อมูลที่สำคัญของธุรกิจ เมื่อสิ้นปี 2555 ไอบีเอ็ม เอชพี และอีเอ็มซี สามยักษ์ใหญ่ผู้นำวงการมีรายได้จากสินค้าและบริการทางบิ๊กดาต้าทั่วโลกรวมกันมากกว่า 2,350 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่ารายได้จากธุรกิจบิ๊กดาต้าจะยังคงเติบโตต่อไปเรื่อยๆ เมื่ออุตสาหกรรมอื่นๆ เช่นยานยนต์ การศึกษา และรัฐกิจ เริ่มตื่นตัวและให้ความสนใจในเทคโนโลยีนี้มากขึ้น” นายธีระ กล่าวทิ้งท้าย
แท็ก ข้อมูล   ไอที  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ