กรุงเทพฯ--7 ม.ค.--แมนูไลฟ์
นายต่อ อินทวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด (“บลจ.แมนูไลฟ์”)
เปิดเผยว่า “กองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ เอเชียน สมอลแคป อิควิตี้ เอฟไอเอฟ (MS-ASIAN SM) เติบโตอย่างรวดเร็วมากในช่วงเวลา 23 เดือน นับจากวันจัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2555 โดยขนาดกองทุนเพิ่มจากตอนเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) เพียง 16 ล้านบาท มาเป็น 2,353 ล้านบาท (ณ วันที่ 27 ธันวาคม 2556) และเป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุนต่างประเทศที่เน้นลงทุนในหุ้นเอเชียที่มีขนาดกองทุนใหญ่ที่สุดในไทยในเวลานี้”
นายต่อกล่าวว่า “ด้วยผลการดำเนินงานของกองทุน MS-ASIAN SM ที่โดดเด่นและเหนือเกณฑ์มาตรฐานอย่างมีนัยสำคัญมาโดยตลอด ทำให้กองทุนนี้ได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเพิ่มขึ้นในวงกว้างอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2556 ที่ผ่านมา กองทุนนี้มีผลตอบแทน 22.78% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน MSCI AC Asia Pacific ex JP Small Cap Index 7.03% (ข้อมูล ณ 27 ธันวาคม 2556) และหากย้อนดูผลการดำเนินงานนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (31 มกราคม 2555 – 27 ธันวาคม 2556) กองทุนนี้ให้ผลตอบแทนสูงถึง 56.4% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 11.6% ซึ่งจะเห็นได้ว่ากองทุน MS-ASIAN SM สร้างผลตอบแทนเหนือเกณฑ์มาตรฐานถึง 44.8%
กองทุน MS-ASIAN SM เป็นกองทุน Feeder Fund ที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของ Manulife Global Fund-Asian Small Cap Equity Fund (กองทุนหลัก) บริหารโดย Linda Csellak ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมตราสารทุนที่ลงทุนในแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ของ Manulife Asset Management ในฮ่องกง กองทุนหลักมีกลยุทธ์การลงทุนที่ชัดเจน คือ เน้นการสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม (อัลฟา) จากการทำ Stock Selection ซึ่งก็คือการคัดเลือกหุ้นที่มีคุณภาพและมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาดของแต่ละประเทศ โดยผู้จัดการกองทุนหลักจะเน้นหาหุ้นขนาดเล็กซึ่งกระจายอยู่ทั่วภูมิภาคเอเชียของบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตของกำไรสุทธิอย่างยั่งยืน ซึ่งมักจะทำธุรกิจที่มีตลาดกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง (Niche Market) ทำให้มีคู่แข่งน้อยราย และหลักสำคัญ คือ ต้องเข้าลงทุนก่อนคนอื่นเพื่อให้สามารถลงทุนในระดับราคาที่ยังต่ำและมีโอกาสในการทำกำไรสูงเมื่อราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นหลังจากเริ่มได้รับความสนใจในกลุ่มนักลงทุนสถาบันหรือนักลงทุนรายใหญ่ทั้งหลาย ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นเริ่มวิ่งเข้าสู่ระดับเป้าหมายและเป็นจังหวะที่กองทุนจะเริ่มทยอยขายทำกำไรและหาหุ้นขนาดเล็กตัวใหม่เพื่อลงทุนต่อไป ทั้งนี้ การบริหารพอร์ตการลงทุนแบบเชิงรุกด้วยการใช้ข้อมูลเชิงลึกในการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว จำเป็นต้องการความพร้อมและความเชี่ยวชาญของทีมงานการลงทุนเป็นอย่างมาก ซึ่ง Manulife Asset Management มีความได้เปรียบทางด้านนี้ เนื่องจากเรามีทีมผู้เชี่ยวชาญตลาดตราสารทุนที่ประจำอยู่ทั่วภูมิภาคเอเชียกว่า 75 ท่าน
นายโรนัลด์ ชาน หัวหน้าทีมตราสารทุนภูมิภาคเอเชียของ Manulife Asset Management (Asia) กล่าวเสริมเกี่ยวกับมุมมองสำหรับแนวโน้มตลาดเอเชียปี 2557 ว่า “ตลาดเอเชียเหนือ โดยเฉพาะ จีน เกาหลี ไต้หวัน จะยังคงได้รับประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจโลกต่อไปในปีนี้ เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเน้นด้านการส่งออกมากขึ้นจึงน่าจะมีความได้เปรียบจากการที่การค้าในตลาดโลกดีขึ้น โดยในช่วงที่ตลาดยังคงมีความผันผวนต่อเนื่อง เรามองว่าตลาดเอเชียเหนือน่าจะเผชิญกับความกดดันทางการเมืองและปัจจัยทางเศรษฐกิจโลก เช่น เพดานหนี้สหรัฐ หรือ การปรับลดขนาด QE ได้ดีกว่าตลาดอื่น นอกจากนี้ ด้วยระดับดัชนีและราคาหุ้นที่ยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจลงทุน จึงทำให้เรามองเห็นโอกาสในการลงทุนของตลาดเอเชียเหนือมากกว่าเอเชียใต้
ทั้งนี้ พอร์ตการลงทุนล่าสุดของกองทุนหลักสะท้อนถึงการเพิ่มความสนใจในตลาดหุ้นแถบเอเชียเหนือมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมีการซื้อขายในระดับราคาที่ต่ำกว่าตลาดแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้ว่าราคาหุ้นในบางตลาดแถบภูมิภาคเอเชียได้ปรับตัวสูงขึ้น แต่ด้วยกลยุทธ์การลงทุนแบบ Bottom-up ทำให้พอร์ตการลงทุนของกองทุนหลักมีค่า P/E เฉลี่ยประมาณ 13.4 เท่า ซึ่งยังต่ำกว่า P/E ตลาดที่ประมาณ 21.6 เท่า (ข้อมูล ณ 31 ธันวาคม 2556)”
นายต่อสรุปทิ้งท้ายว่า “กองทุน MS-ASIAN SM มีผลการดำเนินงานที่ดีเยี่ยมและสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานในทุกช่วงเวลาเป็นผลมาจากหุ้นหลายตัวที่ผู้จัดการกองทุนหลักเลือกลงทุนให้ผลตอบแทนสูงกว่าตลาดค่อนข้างมาก อันเนื่องมาจากผลประกอบการของบริษัทที่แข็งแกร่งและดีกว่าตลาดคาดการณ์ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นมาก แม้ว่า P/E ของหุ้นขนาดเล็กในบางตลาดจะสูงขึ้น แต่ด้วยนโยบายการลงทุนที่ไม่ได้ถูกจำกัดในตลาดใดตลาดหนึ่ง ทำให้ผู้จัดการกองทุนสามารถปรับพอร์ตการลงทุนในหุ้นขนาดเล็กที่มีคุณภาพแต่ราคายังไม่แพงซึ่งกระจายอยู่ในตลาดต่างๆ ทั่วภูมิภาคเอเชียได้ เราเชื่อว่า กองทุน MS-ASIAN SM ยังมีโอกาสในการการสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อไปในปี 2557 และเป็นกองทุนที่เราอยากแนะนำให้นักลงทุนไทยได้ลองเข้าลงทุนเพื่อกระจายการลงทุนและหาโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนหุ้นในต่างประเทศ ในขณะที่บรรยากาศการลงทุนในบ้านเรายังคงไม่สดใสนักจากปัจจัยทางเมืองที่อาจส่งกดดันต่อตลาดในระยะสั้นนี้”
หากท่านใดสนใจลงทุนในกองทุนดังกล่าว สามารถติดต่อมาที่ บลจ.แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) โดยตรงหรือผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนที่ได้รับแต่งตั้ง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0-2246-7650 กด 2”