KTAM ฉวยจังหวะตลาดหุ้นปรับลงแรง เปิดขาย TRIG5-2 วันที่ 8-15 มกราคมนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 7, 2014 14:49 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ม.ค.--KTAM นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงประมาณ 70 จุด นับตั้งแต่สัปดาห์แรกของปี จากแรงขายกองทุนประเภท LTF ที่ครบกำหนดการลงทุนตามเงื่อนไข และตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงประมาณ 200 จุด จากสถานการณ์ทางการเมือง ส่งผลให้รัฐบาลต้องเลือกที่จะยุบสภา ทำให้นโยบายต่าง ๆ จากทางภาครัฐที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจต้องชะลอออกไป ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจหลายธุรกิจทั้งทางตรง และทางอ้อม นอกจากนี้ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มที่พัฒนาแล้วเริ่มมีการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้น การประกาศมาตรการการลดทอน QE ที่ชัดเจนจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนคลายความกังวล และหันกลับเข้าไปลงทุนในตลาดที่พัฒนาแล้ว จากปัจจัยต่าง ๆ ถือเป็นโอกาสที่ดี สำหรับการเข้าลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมีหลายหลักทรัพย์ที่ปรับลดลง ไปต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานที่ควรจะเป็น ทั้งที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวน้อย และยังคงมีกลุ่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของตลาดพัฒนาแล้วด้วยเช่นกัน ในโอกาสนี้ บริษัทจึงเปิดจำหน่าย กองทุนเปิดกรุงไทย 5%ทริกเกอร์ ฟันด์ 2 ( TRIG5-2) เสนอขายครั้งแรกและครั้งเดียวในวันที่ 8-15 มกราคม 2557 มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ในราคาหน่วลงทุนละ 10 บาท เงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในหุ้น ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตราสารหนี้ เงินฝาก และ/หรือลงทุนในหลักทรัพย์ หรือ ทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่าง ได้ตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด โดยผู้จัดการลงทุนจะปรับสัดส่วนการลงทุนได้ตั้งแต่ร้อยละ0 ถึงร้อยละ 100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะการณ์ในแต่ละขณะ ทั้งนี้ บริษัทจะเลิกโครงการโดยอัตโนมัติ เมื่อหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.5555 บาท เป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกันขึ้นไป และทรัพย์สินของกองทุนที่จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ จะต้องเป็นเงินสด หรือเทียบเท่าเงินสดทั้งหมด หลังจากนั้น บริษัทจะสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของผู้ถือหน่วยลงทุนทั้งหมดไปยังกองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์ หรือกองทุนรวมตลาดเงินอื่นที่บริษัทเปิดให้สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน โดยมูลค่าหน่วยลงทุนที่คืนให้กับผู้ถือหน่วยต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 105ของมูลค่าที่ตราไว้ที่ 10 บาท ส่วนในกรณีที่ไม่เกิดเหตุการณ์ที่มูลค่าหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นจนเป็นเหตุให้เลิกกองทุนภายใน 6 เดือน นับจากวันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม บริษัทจัดการจะเปิดทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนทุกวันทำการ และหากในวันใดวันหนึ่งราคาหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.5555 บาท เป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกันขึ้นไป บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ พร้อมสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนทั้งหมดไปยังกองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์ นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า ฝ่ายวิจัยของบริษัท มองว่าหากเหตุการณ์ทางการเมืองกลับสู่สภาวะปกติคาดว่าดัชนีสิ้นปีนี้อยู่ที่ 1,590 จุด โดยกองทุนนี้ มีแนวทางการลงทุนโดยใช้กลยุทธ์ในการคัดสรรหลักทรัพย์ที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงตามปัจจัยพื้นฐาน มีศักยภาพในการเติบโตที่มั่นคงและสามารถสร้างอัตราการเติบโตของกำไร ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวนและได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของตลาดพัฒนาแล้ว นอกจากนี้ บริษัทได้เพิ่มทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำ โดยการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 113 (KTSUPB113 ) เสนอขายในวันที่ 8-14 มกราคม 2556 อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ประเภทเงินฝาก Bank of China , Standard Chartered Bank ( Hong Kong ) , MTN ออกโดย ICBC Asia Ltd. , MTN ออกโดย Garanti Bank ในสัดส่วน 75% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในหุ้นกู้ ตั๋วแลกเงิน สถาบันการเงิน / บริษัทเอกชน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.00% ต่อปี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ