กรุงเทพฯ--13 ม.ค.--โฟร์ พี แอดส์
กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค กรมอนามัย และ กรมสุขภาพจิต ได้ประสานสนับสนุนการดำเนินงานศูนย์เด็กเล็กในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นสถานที่ที่เด็กอยู่รวมกันจำนวนมาก และมีมากกว่า 19,000 แห่งทั่วประเทศให้มีคุณภาพและปลอดโรค เพราะหากเด็กเหล่านี้เจ็บป่วยด้วยโรคติดต่อต่างๆ ก็จะสามารถแพร่กระจายสู่กันและแพร่กระจายสู่ชุมชนได้ง่าย เช่น โรคติดเชื้อระบบทางเดินลมหายใจ โรคมือ เท้า ปาก โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน โรคตาแดงโรคสุกใส เป็นต้น โดยการดำเนินงานดังกล่าว ช่วยให้เด็กปฐมวัยมีสุขภาพกายใจที่ดีลดอุบัติการณ์การเกิดโรคได้จริง
นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพอนามัยเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ซึ่งแต่ละปีประเทศไทยมีเด็กเกิดใหม่กว่า 7 แสนคน ทำให้มีเด็กก่อนวัยเรียนที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี เกือบ 4 ล้านคน ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งเป็นเด็กอายุระหว่าง 2 ปีครึ่ง ถึง 2 ปีร่วมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบัน ทำให้สภาพครอบครัวเป็นครอบเดี่ยว พ่อแม่หรือผู้ปกครองเด็กต้องทำงานนอกบ้าน ไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรหลานตนเองในช่วงเวลากลางวัน เด็กกลุ่มนี้จึงถูกนำไปฝากเลี้ยงในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาลจำนวนมาก ซึ่งเป็นสถานที่ที่เด็กอยู่รวมกันจำนวนมาก และมีมากกว่า 19,000 แห่ง ผลที่ตามมาคือศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาลจึงเป็นสถานที่เด็กจำนวนมากอาศัยอยู่รวมกัน เมื่อเด็กคนใดคนหนึ่งเจ็บป่วยด้วยโรคติดต่อ ซึ่งการเจ็บป่วยหรือโรคติดต่อนี้ก็จะแพร่กระจายไปสู่เด็กคนอื่นๆ ได้ง่ายและรวดเร็ว ทำให้เด็กต้องหยุดเรียนจำนวนมาก ติดต่อกันเป็นระยะเวลาหลายวัน หรือแม้กระทั่งปิดโรงเรียนชั่วคราว เพื่อทำความสะอาดและเพื่อลดปัจจัยที่จะนำไปสู่การระบาดมากยิ่งขึ้น เช่น การระบาดของโรคมือ เท้า ปาก เป็นต้น
นายแพทย์ณรงค์ กล่าวต่อว่า ดังนั้นในปี 2552 กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค จึงริเริ่มดำเนินการนำร่องศูนย์เด็กเล็กปลอดโรคใน 4 จังหวัด โดยจัดให้มีการอบรมให้ความรู้แก่ครูผู้ดูแลเด็ก ผู้บริหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกำหนดแนวทางในการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคติดต่อในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาล ต่อมาในปี 2554 มีศูนย์เด็กเล็กที่เข้าโครงการศูนย์เด็กเล็กปลอดโรค กรมควบคุมโรค มากกว่า 1 หมื่น 6 พันแห่ง (ร้อยละ 84 จากศูนย์เด็กเล็กทั่วประเทศกว่า 2 หมื่นแห่ง) จากการติดตามและประเมินผลพบว่าศูนย์เด็กเล็กที่เข้าร่วมโครงการประเมินผ่านเกณฑ์มากกว่าครึ่ง (ประมาณ 9 พันแห่ง) รวมทั้งอัตราการเกิดโรคติดต่อระบาดในศูนย์เด็กเล็กเหล่านี้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เช่น โรคไข้หวัดจากร้อยละ 24.9 เหลือเพียงร้อยละ 9
ด้านนายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคติดต่อสำคัญที่กระทรวงสาธารณสุขต้องป้องกันและควบคุมในศูนย์เด็กเล็ก ได้แก่ โรคหวัด โรคมือ เท้า ปาก โรคสุกใส โรคตาแดง โรคอุจจาระร่วง เป็นต้น ซึ่งโรคติดต่อเหล่านี้ สามารถติดต่อกันได้ทั้ง การหายใจเอาละอองอากาศที่มีเชื้อปนอยู่เข้าไป การไอหรือจามรดกัน และการใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน รวมทั้งการรับประทานอาหารและดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเข้าไป หากเด็กที่อยู่ในศูนย์เด็กเล็ก หรือ โรงเรียนอนุบาล เจ็บป่วยด้วยโรคติดต่อเหล่านี้ก็จะสามารถแพร่กระจายสู่กัน และแพร่กระจายสู่ชุมชนได้ง่าย ซึ่งจากการดำเนินงานศูนย์เด็กเล็กคุณภาพปลอดโรค ช่วยให้เด็กปฐมวัยมีสุขภาพกายใจที่ดีลดอุบัติการณ์การเกิดโรค
นายแพทย์โสภณ กล่าวต่อว่า "การดำเนินงานและมาตรการดำเนินการศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาลคุณภาพปลอดโรค มีดังนี้ 1)การจัดทำแนวทางการป้องกันควบคุมโรคติดต่อในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาล สำหรับครูผู้ดูแลเด็กโดยเน้น 3 ยุทธศาสตร์ คือ ครูผู้ดูแลเด็กมีสุขภาพและความรู้ดี การบริหารจัดการดี และสภาพแวดล้อมดี 2)การนิเทศติดตามผลการดำเนินงานตามแนวทางการป้องกันควบคุมโรคติดต่อในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาล 3)การให้การรับรองผลการดำเนินงานเป็นศูนย์เด็กเล็กคุณภาพ-ปลอดโรค แก่ศูนย์เด็กเล็ก
ที่สามารถดำเนินงานได้ถูกต้องตามข้อกำหนด 4) การจัดทำสื่อการเรียนการสอนแก่ศูนย์เด็กเล็ก ด้านการป้องกันควบคุมโรคติดต่อ และ 5) โครงการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคติดต่อในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาล ซึ่งจัดขึ้นทุกปี ซึ่งโดยกรมควบคุมโรค ได้มีการติดตามประเมินผลการดำเนินงานและมอบใบประกาศศูนย์เด็กเล็กที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ศูนย์เด็กเล็กปลอดโรค กรมควบคุมโรค ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา รวมทั้งได้จัดให้มีการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณและเชิดชูศูนย์เด็กเล็กที่มีการดำเนินงานดีเด่นทุกปี
“สำหรับเด็กที่อยู่ในช่วงปฐมวัย ศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาล นับว่าเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญมาก เพราะเปรียบเสมือนเป็นบ้านหลังที่ 2 ของเด็กๆ การบูรณาการการทำงานร่วมกัน ในการพัฒนาศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาลให้ได้ตามมาตรฐาน มีคุณภาพ และปลอดโรค โดยเน้นการให้ความรู้ ความเข้าใจ แก่บุคลากรที่เกี่ยวข้อง ในการดูแลเด็ก การให้ความรู้แก่เด็กๆ ให้มีสุขลักษณะและพฤติกรรมในการป้องกันโรคที่ถูกต้อง
รวมถึง การสร้างเครือข่ายการป้องกันและควบคุมโรค เพื่อปกป้องสุขภาพลูกหลานของเราให้ปลอดภัย ต่อไปผู้สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422” นายแพทย์โสภณกล่าว