สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 14, 2014 10:20 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ม.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,252 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,247 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 32.95 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,500 บาท กับ 19,600 บาท และกลับมาปิดที่ 19,400 บาท กับ 19,500 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,144 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 5,176 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 2.5% แบบ 10 บาทลดลง 7.5% GFG14 ปิด 19,640 บาท และ GFJ13 ปิด 19,730 บาท GF10G13 ปิดที่ 19,640 บาท GF10J13 ปิดที่ 19,720 บาท สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 4.2 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,251.1 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 16.2 เซนต์ ที่ระดับ 20.385 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 793.12 ตัน (ถือครองทองคำเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 92 เซนต์ ปิดที่ระดับ 91.8ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 179.11 จุด ปิดที่ 16,257.94 จุด ข่าวที่สำคัญ ทองคำปิดปรับตัวสูงขึ้นจากแรงShort Covering และแรงเก็งกำไรในการเข้าซื้อจากที่ทางเทคนิครายสัปดาห์บ่งบอกเป็นภาวะกระทิงขาขึ้นระยะสั้น ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงติดต่อกัน 2 สัปดาห์จากผลพวงในตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาแย่กว่าที่คาดการณ์เอาไว้อีกทั้งตลาดหุ้นพันธบัตรระยะยาวแตะตัวที่ระดับสูงในรอบ 3 สัปดาห์ก็ผลักดันให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆปรับตัวสูงขึ้นตาม รายงานจากคิทโก้ระบุว่า เรายังคงเห็นแรงซื้อที่แกร่งจากตลาดเอเชียโดยเฉพาะจีนที่เข้าใกล้เทศกาลตรุษจีนที่จะเริ่มหยุดกันในช่วงวันที่ 31 มกราคมนี้ จิม เวคคอฟนักวิเคราะห์จากคิทโก้ ได้ให้ระดับแนวต้านทองคำไว้ที่ระดับ 1,260 เหรียญ และแนวรับอยู่ที่ระดับ 1,240 เหรียญ ธนาคารบาร์เคลย์ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำโดยเฉลี่ยในปี 2557 ลงสู่ระดับ 1,205 ดอลลาร์/ออนซ์ และคาดว่าราคาทองคำอาจจะดิ่งลงไปทดสอบระดับต่ำสุดที่ 1,050 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีนี้ ขณะที่โกลด์แมนแซคส์ ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำลงอีกในปี 2557 โดยคาดว่า ณ สิ้นปีนี้ ราคาทองคำจะดิ่งลงไปแตะระดับ 1,050 ดอลลาร์/ออนซ์ เฟดได้เริ่มทำการจำกัดกิจกรรมที่เกี่ยวกับตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ในธนาคารพาณิชย์ต่างๆได้ทำการเข้าควบคุมในขั้นตอนแรกโดยที่พยายามที่จะลดความเสี่ยงด้วยการใช้ระบบบัญชีฝากเงิน (Deposit –taking) เนื่องจากทรัพย์สินประเภทโภคภัณฑ์นั้นอาจเกิดการเสียหายอย่างรุนแรงจากมหันตภัยพิบัติได้ รายงานจากบลูมเบริ์กระบุว่าค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงก่อนที่จะมีการประกาศตัวเลขยอดค้าปลีกและวันนี้ช่วงเวลาประมาณ 12.45-1.20 (เที่ยงคืนสี่สิบห้าจนกระทั่งถึงตีหนึ่งยี่สิบ ตามเวลาประเทศไทยจะมีประธานเฟดสาขา คือ ชาร์ลี โพสต์เซอร์ และริชาร์ด ฟิชเชอร์ได้ออกมาให้ถ้อยแถลงการณ์ เมื่อดอลลาร์เทียบกับยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3669 ยูโรต่อดอลลาร์ ตามการรายงานเอกสารภายในของอีซีบีระบุว่า ธนาคารกลางยุโรปนั้นค่อนข้างจะวิตกกังวลกับความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติว่าจะสามารถแยกแยะสถานการณ์หนี้เสียโดยจะพิสูจน์หรือธนาคารใดที่มีปัญหาที่จะส่งผลต่อสุขภาพทางการเงินในเขตยูโรโซน ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ธนาคารรายใหญ่หลายแห่งของสหรัฐจะเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสในสัปดาห์นี้ รวมถึงซิตี้ กรุ๊ป และโกลด์แมน แซคส์ ตลาดหุ้นโตเกียว โดยดัชนีร่วงลงกว่า 400 จุดในช่วงสั้นๆ เนื่องจากมีแรงเทขายหลังดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อเทียบเยน และตลาดหุ้นวอลล์สตรีทร่วงลงเมื่อคืนนี้หลังข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐออกมาน่าผิดหวัง ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้พลิกกลับมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่เปิดการซื้อขายในช่วงบ่ายเพราะนักลงทุนตอบรับข่าวดีที่เกิดขึ้นในช่วงบ่ายโดยเฉพาะการจะมีการประชุมเพื่อหารือในเรื่องของวันเลือกตั้งซึ่งทำให้มีการตีความในเชิงบวก ดัชนีจะมีแนวต้านที่1,280 จุดและแนวรับที่1,230 จุด นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.80-33.00 บาท/ดอลลาร์ ทั้งนี้ตลาดยังเฝ้าจับตาสถานการณ์ทางการเมือง หากยังไม่เกิดเหตุรุนแรงอาจส่งผลให้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มปรับตัวแข็งค่าได้อีก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยืนยันที่จะเปิดทำการตามปกติทุกวัน แม้จะมีการชัตดาวน์กรุงเทพฯของผู้ชุมนุม และได้เตรียมมาตรการรับมือไว้แล้วหากมีผู้ชุมนุมเข้ามาปิดล้อมอาคารที่ทำการฯ ขณะที่ด้านผู้ชุมนุมปฏิเสธที่จะหารือกับฝ่ายรัฐบาลในประเด็นวันเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. ที่จะหารือในวันที่ 15 ม.ค. โฆษก ศอ.รส. ประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มกปปส. โดยระบุว่า การชุมนุมน่าจะยืดเยื้อต่อไปอีก 4-5 วัน และมีจุดที่น่าเป็นห่วง 3จุด ได้แก่ เวทีแจ้งวัฒนะ 2 เวที เวที 5 แยกลาดพร้าว และเวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เนื่องจากพบว่ามีแนวโน้มจะเกิดเหตุกระทบกระทั่งกับมวลชนกลุ่มอื่นได้ค่อนข้างมาก ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวาน - Federal Budget Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -135.2B ตัวเลขจริงปรับตัวสู่ระดับ 53.2B ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนนี้ -Core Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.4% คาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ระดับ 0.4% -Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.7% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 0.2% ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบด้านบนบริเวณ 1,248 – 1,254 เหรียญเมื่อวานนี้ โดยมีการแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบ ในขณะที่เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลงอย่างมาก โดยดาวโจนส์ตกลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากการที่ราคาน้ำมันดิ่งลงอย่างมากเมื่อวานนี้ ทำให้หุ้นน้ำมันในดาวโจนส์ปรับตัวลดลงอย่างมาก ทองคำในตลาด COMEX เอง ปิดบวก 4.2 เหรียญ ที่ระดับ 1,251.1 เหรียญ ขณะที่ตัวเลข Federal Budget Balance ออกมาดีขึ้น 5.32 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากเดิมที่อยู่ในระดับ -1.352 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีมาก อันจะนำไปสู่การปรับลด QE อย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นดาวโจนส์ อย่างไรก็ตามราคาทองคำดูจะทรงตัวอยู่ได้เนื่องจากมี Demand ซื้อจากทางฝั่งเอเชียค่อนข้างสูง ทั้งจากจีน และอินเดีย เนื่องจากเข้าสู่ช่วงใกล้เทศกาลตรุษจีน ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาคืนนี้ ได้แก่ Core Retail Sales ที่คาดว่าจะทรงตัว และ Retail Sales ซึ่งโดยภาพรวมดูจะเป็นลักษณะปรับตัวลดลงบ้างเล็กน้อย สำหรับ SPDR ยังคงไม่ได้ทำอไร โดยยังถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 793.12 ตัน ในขณะที่ค่าเงินบาทยังคงทรงต้วบริเวณ 33.00 บาท/ดอลลาร์ และตลาดหุ้นไทยก็มีการดีดกลับขึ้นมาได้หลังจากมีข่าวว่าจะมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไป วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ในเชิงเทคนิค ราคาทองคำจะมีแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,255-1,260 เหรียญ โดยที่ยังคงมีลักษณะ Divergence ใน MACD และ RSI Histogram ซึ่งบ่งบอกถึงการใกล้จุดกลับตัวของราคาทองคำ ยังวิเคราะห์ว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,245-1,255 เหรียญในวันนี้ โดยที่ในภาพรวมของวันนี้น่าจะเคลื่อนตัว Sideways เป็นลักษณะระยะสั้นรายวันเท่านั้น กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ลงทุนในลักษณะกรอบ Sideways โดยทำการขึ้นขาย-ลงซื้อเป็นหลัก และแนะนำให้ปิดทำกำไร โดยไม่ถือสถานะข้างใดข้างหนึ่งมากจนเกินไป ในระยะกลางกับยาวยังมองเป็นทิศทางขาลงหลังช่วงเทศกาลตรุษจีน นักลงทุนที่ถือ Long Position และ นักลงทุนที่ถือ Short Position ควรลดสถานะลงและขายทำกำไรออกมา เพื่อรอความชัดเจนในการเคลื่อนตัวของทิศทางมากขึ้น Gold Futures G14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,540 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,740 บาท Gold Futures J14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,650 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,850 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ