กรุงเทพฯ--14 ม.ค.--ปตท.
ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่แหล่งก๊าซธรรมชาติเยตากุน สหภาพพม่า ปิดซ่อมบำรุงตามแผนงานประจำปีเพื่อเชื่อมต่อแท่นผลิตใหม่กับระบบการผลิตปัจจุบัน ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2556 ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้การดำเนินงานดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยผู้ผลิตฯ เริ่มจ่ายก๊าซฯ เข้าสู่ระบบตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 13 มกราคม 2557 เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ โรงไฟฟ้าและลูกค้าอุตสาหกรรมสามารถทยอยกลับมาใช้ก๊าซฯ จากแหล่งสหภาพพม่าเป็นเชื้อเพลิงได้แล้ว ซึ่งในช่วงซ่อมบำรุง ผู้ใช้ก๊าซฯ ทุกกลุ่ม ทั้งไฟฟ้า อุตสาหกรรม และขนส่ง ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เนื่องจาก ปตท. ได้วางแผนบริหารจัดการด้านพลังงานอย่างรัดกุม ด้วยความร่วมมือของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงพลังงานและหน่วยงานในสังกัด การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ที่สำคัญคือ การได้รับความร่วมมือทั้งจากภาคผู้ผลิต อุตสาหกรรม และประชาชนร่วมใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างประหยัด ช่วยให้การบริหารจัดการพลังงานของประเทศในช่วงหยุดจ่ายก๊าซฯ เป็นไปด้วยความราบรื่น ซึ่ง ปตท. ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมให้การสนับสนุนการดำเนินงานในครั้งนี้
ทั้งนี้ ปตท. ได้จัดหาและสำรองเชื้อเพลิงทุกประเภทเพื่อให้เพียงพอรองรับต่อความต้องการใช้ของ ทุกภาคส่วนในช่วงระยะเวลาดังกล่าว และพร้อมสำรองในกรณีฉุกเฉินหากต้องขยายเวลาการปิดซ่อมออกไป โดยสรุปในการซ่อมบำรุงครั้งนี้ ปตท. ได้รับก๊าซฯ จากผู้ผลิตในทะเลและบนบก รวมทั้งก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) รวม 3,829 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ปริมาณการใช้น้ำมันเตารวม 65.9 ล้านลิตร ต่ำกว่าแผน 45.4 ล้านลิตร และการใช้น้ำมันดีเซลรวม 12.1 ล้านลิตร สูงกว่าแผน 1.4 ล้านลิตร (ข้อมูล ณ วันที่ 13 มกราคม 2557) รวมทั้งได้ติดตามและบริหารการจัดการด้านพลังงานของประเทศ ผ่านศูนย์ติดตามสถานการณ์ฯ อย่างต่อเนื่องทุกวัน เพื่อประสานงานการซ่อมบำรุงกับแหล่งผู้ผลิต การบริหารจัดหาจัดส่งพลังงานสำรอง รวมทั้งการจัดส่งก๊าซฯ ผ่านระบบท่อส่งก๊าซฯ และโรงแยกก๊าซฯ อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ส่งผลให้ การจัดการพลังงานของประเทศในช่วงดังกล่าวผ่านพ้นไปด้วยดี
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากแหล่งก๊าซธรรมชาติของไทยส่วนใหญ่ มีอายุ การใช้งานมานาน จำเป็นต้องมีการหยุดซ่อมบำรุงสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถรักษาศักยภาพการผลิตของ แหล่งก๊าซฯ ไว้ได้ โดย ปตท. จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุดเพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานของคนไทยทุกภาคส่วน