กรุงเทพฯ--15 ม.ค.--adwayslabs
จากบทวิเคราะห์ล่าสุดของบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาและบริหารจัดการด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรเช่น ซื้อขายที่ดิน , คอนโดมือสอง , บ้านเช่า ที่เปิดเผยบทวิเคราะห์เกี่ยวกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไทย ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีปัจจัยด้านการเมืองเข้ามากระทบ แต่สำหรับภาคอสังหาฯแล้ว ยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีก
เหตุที่ทำให้ตลาดอสังหาฯยังมีโอกาสเติบโตก็เนื่องมาจาก ทำเลที่ตั้งของประเทศที่เปรียบเสมือนเป็นศูนย์กลางของอาเซียน เป็นประเทศที่น่าลงทุน นอกจากนี้ประเทศไทยยังได้รับการโหวตจากชาวต่างชาติให้เป็นดินแดนในฝันอันดับ 1 อีกด้วย สาเหตุที่เหล่า “เอ็กซ์แพค” (Expact) ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลกลงมติเช่นนั้นก็เนื่องมาจาก ประเทศไทยมีค่าครองชีพที่ต่ำ มีช่องทางและโอกาสในการหารายได้ที่สูง และยังมีรูปแบบการใช้ชีวิตที่ง่ายๆ สบายๆ เป็นกันเองอีกด้วย
จากปัจจัยข้างต้นจึงส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยสำหรับกลุ่ม Expactหรือกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยและทำงานในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบของการเช่า บ้านเช่า , คอนโดให้เช่า หรือจะเป็นการซื้อขาดทั้งโครงการใหม่และโครงการเก่า ทาวน์เฮ้าส์รวมไปถึง บ้านมือสอง ก็ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และยิ่งความต้องการแหล่งที่อยู่อาศัยในย่าน CBD (Central Business District) ในเขตกรุงเทพฯ ก็เติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน แม้ว่าราคาของที่พักอาศัยในย่านดังกล่าวจะสูงขึ้นเรื่อยๆก็ตาม เพราะนอกจากจะเป็นที่นิยมของชาติต่างชาติแล้วโครงการที่พักอาศัยในย่านธุรกิจ โดยเฉพาะโครงการ คอนโดติดรถไฟฟ้า ก็ยังเป็นที่นิยมสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่นิยมความสะดวกสบายทั้งในการเดินทางรวมไปถึงการใช้ชีวิตอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจได้รับการเปิดเผยว่า ผู้ซื้อคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองส่วนใหญ่แล้วซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองสูงถึง 53% สัดส่วนสำหรับผู้เช่าอยู่อาศัยอยู่ที่ 25% ที่เหลือคือสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาว รอขายหรือปล่อยให้เช่าโดยตลาดเช่าใหญ่อยู่ที่ชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย สำหรับนักลงทุนที่สนใจจะลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯนั้น ตลาดคอนโดมิเนียมยังคงเป็นที่น่าสนใจอยู่ โดยจะต้องพิจารณาด้านทำเลที่ตั้งของโครงการเป็นสำคัญ เพราะฉะนั้นเป็นปัจจัยหลักสำหรับผู้อยู่อาศัยในการเลือกที่อยู่อาศัยกันเลยทีเดียว
ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมสำหรับนักลงทุนทั้งหลายที่กำลังสนใจจะเข้ามาลงทุนในตลาดคอนโดมิเนียมในเขตกรุงเทพฯนั้น นอกจากเรื่องของทำเลที่ตั้งที่ควรจูงใจแก่การเช่าหรือซื้อต่อแล้ว ราคาก็เป็นเรื่องสำคัญ ด้วยความที่ตลาดเปิดกว้างจึงมีโครงการต่างๆให้เปรียบเทียบและพิจารณากันมากมาย ดังนั้นก่อนการตั้งราคาทั้งสำหรับปล่อยเช่าหรือขายต่อ ควรมีการศึกษาราคาของตลาดเสียก่อน พิจารณาข้อดี ข้อด้อยของโครงการที่เราถือครองเป็นสำคัญ ประการสุดท้ายนักลงทุนจะต้องคอยศึกษาถึงผลกระทบต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางผังเมือง เส้นทางคมนาคมที่ตัดผ่านใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เม็ดเงินในการลงทุนของคุณไม่สูญเปล่าแน่นอน