กรุงเทพฯ--15 ม.ค.--IR network
บมจ.ยูเรกา ดีไซน์ (EUREKA) เปิดเกมรุกธุรกิจต่างประเทศจริงจัง ปี 2557 ประกาศเดินหน้าบุกเต็มสูบ หวังดันสัดส่วนรายได้เพิ่มเป็น 25% จากปีก่อนที่มีเพียง 12-13% เหตุอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศซบเซา พร้อมตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 25% หรือแตะ 500 ล้านบาท ชูกลยุทธ์เน้นบริหารจัดการด้านต้นทุนและขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นควบคู่การดูแลทุกระดับประทับใจ ระบุปัจจุบันมีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 120 ล้านบาท จ่อรับรู้ในไตรมาส 1/2557 มูลค่า 100 ล้านบาท
นายนรากร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) (EUREKA) เปิดเผยถึงแผนธุรกิจในปี 2557 ว่าจะมุ่งเน้นตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น หลังจากประเมินแล้วว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศเริ่มซบเซาลงอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ในต่างประเทศปี 2557 นี้ จะเพิ่มขึ้นเป็น 25% จากปีก่อนที่มีสัดส่วน 12-13% และมีโอกาสขยับเพิ่มขึ้นเป็น 50% หากสถานการณ์ในประเทศยังไม่ดีขึ้น ซึ่งต้องขอรอดูสถานการณ์ในประเทศก่อนประมาณ 2-3 เดือน และตามแผนงานต่างประเทศนั้น เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการสาขาแรกที่ประเทศอินโดนีเซียได้ในเดือนเมษายน และเปิดดำเนินการสาขาที่ประเทศอินเดียในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้
“ยูเรกา ดีไซน์ ได้ส่งออกผลิตภัณฑ์ไปต่างประเทศตั้งแต่ปี 2550 แล้ว ทำให้เกิดความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในตลาดต่างประเทศเป็นอย่างดี โดยการขยายออกไปนั้นเพื่อเป็นการกระจายฐานรายได้และลดความเสี่ยงลง ซึ่งตามแผนงานปีนี้เตรียมเปิดสาขาแรกที่อินโดนีเซีย ถัดจากนั้นเป็นประเทศอินเดีย ส่วนสาขาในเวียดนาม ต้องขอประเมินสถานการณ์ประมาณ 2-3 เดือน เนื่องจากปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจในประเทศดังกล่าวไม่ดีนัก โดยจะมีการพิจารณาอีกครั้งว่าจะเปิดบริการได้ในเดือนตุลาคมตามแผนเดิมหรือไม่”
นายนรากร กล่าวอีกว่า EUREKA ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในปีนี้ไว้ที่ 25% หรือประมาณ 500 ล้านบาท โดยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีนี้จะเน้นการบริหารจัดการด้านต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกับการขยายฐานลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเก่าอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการบริการและดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา โดยขณะนี้มีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 120 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในไตรมาส 1/2557 ประมาณ 100 ล้านบาท นอกจากนี้ EUREKA ยังเดินหน้าเจรจาหาออเดอร์ใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเชื่อมั่นว่าจะได้รับงานจากลูกค้าอย่างแน่นอน เพราะด้วยประสิทธิภาพการออกแบบและคุณภาพเครื่องจักร การส่งมอบเครื่องจักรทันเวลา รวมถึงการบริการหลังการขายที่ดี ทำให้เชื่อมั่นว่าบริษัทฯ จะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามอบหมายให้ทำงานต่อไปอีก
สำหรับแนวโน้มรายได้ในปี 2556 คาดจะเติบโตได้ 30% ตามเป้าหมายที่วางไว้ จากปัจจัยบวกของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปี 2556 ที่ขยายตัวต่อเนื่อง และการขยายฐานลูกค้า ทำให้ได้รับออเดอร์เพิ่มขึ้น โดยในช่วง 9 เดือนปี 2556 บริษัทฯมีรายได้รวมอยู่ที่ 291.7 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 39.6 ล้านบาท