สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดี ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 16, 2014 09:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ม.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,240 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,238 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 32.87 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,200 บาท กับ 19,300 บาท และกลับมาปิดที่ 19,200 บาท กับ 19,300 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 519 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 3,646 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 0.48 % แบบ 10 บาทลดลง5.13% GFG14 ปิด 19,420 บาท และ GFJ13 ปิด 19,490 บาท GF10G13 ปิดที่ 19,420 บาท GF10J13 ปิดที่ 19,500 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 7.1ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,238.3 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 14.8 เซนต์ ที่ระดับ 20.134 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 789.56 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 1.5ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 94.17ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ ปิดเพิ่มขึ้น 108.08 จุด ปิดที่ 16,481.94 จุด ข่าวที่สำคัญ ทองคำปรับตัวลดลงจากที่นักลงทุนส่วนมากเชื่อว่าเฟดเริ่มวางแผนปรับลดQE ลงในเร็วๆนี้ แฟรงค์ เลซ นักวิเคราะห์จากฟิวเจอร์พาร์ทเทรดดิ้งกล่าวว่า ทองคำได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวนั้นออกมาดีขึ้นทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯนั้นแข็งแกร่ง รายงานจากบลูมเบริ์กระบุว่าทองคำทะยานตัวขึ้นมา6.3% ในช่วงที่ตกลงไปทำระดับต่ำสุดก่อนหน้านี้เมื่อวันที่31ธันวาคมที่ผ่านเพราะได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อของจีนเป็นสำคัญ ราย งานคิทโก้ระบุว่า ดอลลาร์ที่แข็งแกร่งอีกทั้งเม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นเมื่อคืนนี้กดดันให้ ทองคำปรับตัวลดลง และนักลงทุนยังคงต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้อย่าง ใกล้ชิดที่จะมีผลกระทบต่อการตัดสินใจลดเม็ดเงินอัดฉีดจากเฟดเป็นอย่างมาก ข้อมูลตารางตัวเลขเศรษฐกิจจาก Forexfactory ระบุว่า นายเบน เบอร์นันเก้ จะมีถ้อยแถลงการณ์ต่อหน้าสาธารณะชน หลังจากการประกาศตัวเลขการขออ้างสิทธิ์การว่างงานของชาวอเมริกันซึ่งก็จะเป็นช่วงเวลาประมาณ 23.10น. ตามเวลาประเทศไทยในคืนนี้ซึ่งระดับแรงกระทบต่อตลาดหุ้นและทองคำนั้นให้ลำดับความสำคัญมาก ตามการรายงานBeige book จากเฟดเมื่อคืนได้กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจเป็นเชิงบวกและเติบโตขึ้นกว่าเดิมซึ่งตัวเลขบางตัวนั้นเติบโตขึ้นกว่าที่คาดไว้อีกด้วย โดยการเติบโตขยายตัวที่ระดับปานกลางจากเมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านเป็นช่วงเทศกาลผู้คนยังคงมีแรงซื้อ ตลาดแรงงานแข็งแกร่งและภาคการผลิตที่ดีขึ้น นักกฎหมายและสภาสูงของสหรัฐฯ ได้เร่งทำการตามกฎระเบียบที่เข้าควบคุมบทบาทการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ในตลาดวอลล์สตรีท ส่งผลกดดันให้ตลาดนั้นแกว่งตัวในกรอบแคบซึ่งการควบคุมนี้เกิดจากที่เฟดนั้น ต้องการป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงในระบบตลาดการเงินซึ่งก็พบว่าการควบคุม ปริมาณน้ำมันและเจ้าของผู้ที่มีอำนาจในการผลิตนั้นค่อนข้างยากกว่าที่คาดไว้ ตลาดการเงินในยูโซนปรับตัวดีขึ้นจากเมื่อเร็วๆนี้ได้รับข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจในเชิงบวกถึงแม้ว่าตัวเลข GDP ของเยอรมันนั้นจะออกมาเพียงแค่ 0.4%ในอัตราต่อปีที่ 2013 ก็ตาม การรายงานตารางเศรษฐกิจของ ECB ได้ระบุไว้ว่า ซึ่งก็จะยังคงเฝ้าจับตาดูสถานการณ์เศรษฐกิจยุโรปอย่างต่อเนื่องซึ่งการ รายงานนี้จะแสดงถึงแนวคิดเศรษฐกิจของยุโรปว่าจะเป็นในทิศทางใดที่จะเปลี่ยน สถานการณ์เงินเฟ้ออย่างไรและประธาน ECB จะดำเนินการอย่างไรก็จะมีการรายงานในวันนี้ช่วงเวลา 9.00น. ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจนั้นปรับตัวดีขึ้น และขยายตัวที่ระดับปานกลางและเฟดยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดนโยบายการลดเม็ดเงิน อัดฉีดลง ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.1% เทียบกับยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3596 ยูโรต่อดอลลาร์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงดัชนีกิจกรรมการผลิตในนิวยอร์ก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่สดใสของแบงก์ ออฟ อเมริกา ตลาดหุ้นโตเกียวเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ และคำสั่งซื้อเครื่องจักรในญี่ปุ่นที่พุ่งขึ้นอย่างมากในเดือนพ.ย. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้สรุปมติในการหารือร่วมกับหลายหน่วยงานเพื่อพิจารณาข้อเสนอแนะของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ที่เสนอให้เลื่อนวันเลือกตั้งนั้น ที่ประชุมเสียงส่วนใหญ่เห็นสมควรให้มีการเลือกตั้งต่อไปในวันที่ 2 ก.พ.57 ส่วนการเลื่อนวันเลือกตั้งนั้นไม่ใช่อำนาจที่รัฐบาลและ กกต.จะดำเนินการได้ ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวาน -PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.1% ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้น ที่ระดับ 0.4% -Core PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นที่ระดับ 0.3% ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนนี้ -Core CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2% ตัวเลขคาดการณ์ออกมาลดลงที่ระดับ 0.1% -Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 330K ตัวเลขคาดการณ์ออกมาลดลง 327K -Philly Fed Manufacturing Index ตัวเลขเดิมออกมาที่ระดับ 7.0 ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 8.8 ทิศทางราคาทองคำ ภาพรวมของตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวานออกมาค่อนข้างทรงตัวในลักษณะของเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ สำหรับราคาทองคำนั้นมีการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ Sideways ตามที่ได้วิเคราะห์ในช่วง 1,235 – 1,246 เหรียญเมื่อวานนี้ และคาดว่าวันนี้เป็นการเคลื่อนไหว Sideways เช่นเดิม โดยผลการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวานนี้ อันได้แก่ Empire State Manufacturing Index ที่ออกมาดีเกินคาด แตะระดับ 12.5 จุด ซึ่งบ่งบอกถึงเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวของสหรัฐอเมริกา ขณะที่เมื่อวานนี้ SPDR ไม่ได้ทำอะไร ปัจจุบันคงทองที่ระดับ 789.56 ตัน สำหรับคืนนี้จะมีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญได้แก่ CPI คาดว่าจะออกมาลดลง ขณะที่ Jobless Claims และ Philly Fed Manufacturing Index คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ในเชิงเทคนิคราคาทองคำน่าจะเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบ 1,230-1,250 เหรียญ สำหรับเรื่องปัจจัยพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับราคาทองคำ คือเงินบาท ซึ่งเมื่อ 2 วันก่อนมีแรงเทขายเข้ามาจนกดดันเงินบาท ทำให้ค่าเงินบาทไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 32.73 บาท/ดอลลาร์ แต่ว่าเมื่อวานนี้ค่าเงินบาทดีดกลับขึ้นมาบริเวณ 32.83 บาท/ดอลลาร์ และเช้าวันนี้เงินบาทดีดขึ้นมา 32.91 บาท/ดอลลาร์แล้ว ซึ่งภาพรวมคาดว่าราคาเงินบาทน่าจะทรงตัวและกลับมาอยู่ในระดับประมาณ 33.00 บาท/ดอลลาร์ได้ ดังนั้นโดยภาพรวมพื้นฐานอาจจะเป็นตัวดึงทองคำในรูปของเงินบาทให้ปรับตัวสูงขึ้นได้ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ยังคงแนะนำให้ใช้กลยุทธ์ลักษณะขึ้นขายลงซื้อ และให้ระมัดระวังค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มว่าจะอ่อนค่าลง จึงแนะนำให้ปิดสถานะ Short Position เพื่อทำกำไรออกไปก่อน - นักลงทุนที่ถือ Long Position ทำกำไรเป็นช่วงๆ ตามการปรับตัวสูงขึ้นของค่าเงินบาท - นักลงทุนที่ถือ Short Position ปิดสถานะ ทำกำไรออกไปก่อน Gold Futures G14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,350 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,550 บาท Gold Futures J14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,420 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,620 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ