กรุงเทพฯ--17 ม.ค.--เอ็มที่เอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,240 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,241 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 32.78 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,250 บาท กับ 19,350 บาท และกลับมาปิดที่ 19,200 บาท กับ 19,300 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 630 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 2,460 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 0.6% แบบ 10 บาทเพิ่มขึ้น 0.6% GFG14 ปิด 19,440 บาท และ GFJ13 ปิด 19,470 บาท GF10G13 ปิดที่ 19,430 บาท GF10J13 ปิดที่ 19,510 บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 1.9 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,240.2 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 8 เซนต์ ที่ระดับ 20.05 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR (เท่าเดิม) ถือครองทองคำ 789.56 ตัน น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 21 เซนต์ ปิดที่ระดับ 93.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ ปิดลดลง 64.93 จุด ปิดที่ 16,417.01 จุด
ข่าวที่สำคัญ
ทองคำปรับตัวขยับขึ้นเล็กน้อยจากที่ได้รับแรง หนุนจากข่าวตัวเลขเศรษฐกิจบางรายการยังคงออกมาน่าผิดหวังและยังไม่มีปัจจัย ที่ชัดเจนที่จะกดดันให้ทองคำปรับตัวลดลงในเวลานี้
รายงานจากคิทโก้ระบุ ว่าในเวลานี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯและทั่วโลกเริ่มแข็งแกร่งและร้อนแรงจากภาพรวม เศรษฐกิจทั่วโลกนั้นปรับตัวดีขึ้นทองคำเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนจึงมี ภาพรวมที่เป็นภาวะหมีขาลงอย่างแท้จริง
จิม เวคคิฟนักวิเคราะห์จากคิทโก้ได้ให้ระดับแนวรับทองคำไว้ที่ 1,225 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 1,255 เหรียญ
รายงานรอยเตอร์ระบุว่า เมื่อเร็วๆนี้ทางเวิร์ลแบงก์ได้ปรับการคาดการณ์ทางด้านเศรษฐกิจว่าจะดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน จากภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกที่ดีขึ้นจึงลดแรงดึงดูดในการถือครองทองคำ
อินเดียได้ตั้งราคามาตรฐาน หรือ Benchmark ของราคาทองคำนำเข้าไว้ที่ 407 เหรียญต่อ 10 กรัม
ขณะที่การส่งออกเครื่องประดับทองคำของอินเดียในเดือน ธ.ค. ลดลง 30% สู่ระดับ 443.2 ล้านดอลลาร์
ในเวลานี้ประเทศจีนเริ่มเกิดปัญหาเรื่องการปล่อยกู้สินเชื่อ ที่รวดเร็วเกินไปตามการรายงานใน Beige Book ของจีน จากการปล่อยกู้ในระยะยาวอีกทั้งระบบการเงินในรูปแบบระดมทุนต่างชาติที่เพิ่ง เริ่มต้นซึ่งการเกิดปัญหานี้อาจทำให้กระเทือนถึงระบบเศรษฐกิจในตลาดโลกได้
ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯนั้นปรับตัวลดลงจากเดิมอยู่ที่ระดับ 0.7% จากเดิมอยู่ที่ระดับ 0.9% แต่ก็ยังคงอยู่ในอัตราที่ต่ำกว่า 2.0% อย่างไรก็ตามประธานธนาคารบุสดาเบส เยอรมนีได้กล่าวว่า โอกาสที่จะเกิดภาวะเงินฝืดในกลุมสหภาพยุโรปนั้นเริ่มเบาบางลงบ้างแล้ว
การที่ตัวเลขผู้ขอสวัสดิการการว่างงานของชาวอเมริกันออกมาลดลงติดต่อกัน 2 สัปดาห์ สื่อได้ว่าการจ้างงานที่ลดลงอย่างมากในเดือนธันวาคมที่ผ่านมานั้นน่าจะเป็นเพียงชั่วคราว
เบอนัน เก้แถลงเมื่อคืนนี้ว่า เฟดควรจะปล่อยให้เศรษฐกิจได้รับการกระตุ้น แม้ว่าจะมีความกังวลที่ "น่าเชื่อถือ" ว่า มาตรการเข้าซื้อพันธบัตรจำนวนมาก หรือ QE อาจจะส่งผลเสียต่อระบบการเงิน แต่อย่างไรก็ตามเบน เบอร์นันเก้ ยังคงบ่ายเบี่ยงที่จะให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่อง QE โดยได้กล่าวเอาไว้ว่าเป็นเพียงแค่เครื่องช่วยพยุงเศรษฐกิจและยังไม่มีสัญญาณ ใดที่จะก่อให้เกิดการเพิ่มขึ้นในราคาทรัพย์สินต่างๆอย่างรุนแรงในทันทีและ เขาเองไม่คิดว่าตลาดการเงินที่มั่นคงจะมากังวลกับเรื่องนโยบายทางการเงิน หรือสิ่งที่ทางเฟดจะมาดำเนินการจัดหาเครื่องมือใดต่อ
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการที่อ่อนแอของธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐ รวมถึงโกลด์แมน แซคส์ และเจพีมอร์แกน
ตลาดหุ้นโตเกียวเปิดวันนี้ลดลง นำโดยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มประกันและเยี่อกระดาษ ขณะที่การปรับตัวอ่อนแรงที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้และการแข็งค่าของเงินเยน
วันนี้ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการเนื่องในเทศกาลบูชาพระจันทร์ หรือ Thaipusam
เมื่อเย็นวานนี้ ป.ป.ช. มีมติให้ไต่สวน "ยิ่งลักษณ์" ละเว้นยุติความเสียหายโครงการจำนำข้าวและแจ้งข้อกล่าวหา "นายบุญทรง เสรียาภิรมย์ รัฐมนตรีพาณิชย์" พร้อมอดีต รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ทุจริตขายข้าว
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวาน
-Core CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2% ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ 0.1%
-Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 328K ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ 326K
-TIC Long-Term Purchases ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 28.7B ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ -29.3B
-Philly Fed Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 7.0ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.4
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนนี้
- Building Permits ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.01M คาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ระดับ 1.01M
- Housing Starts ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.09M คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 0.99M
- Prelim UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 82.5คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 83.4
ทิศทางราคาทองคำ
ภาพรวมตลาดยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบๆ แบบ Sideways ระหว่าง 1,235-1,245 เหรียญ โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อวาน โดยภาพรวมออกมาทรงตัว โดย Unemployment Claims ก็ออกมาลดลงเพียงเล็กน้อย 2,000 ราย เมื่อคืนนี้ SPDR ก็ไม่ได้ทำอะไร คงถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 789.56 ตัน ในวันนี้เงินบาทเองกลับมาแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วอีกครั้ง เหลือ 32.75 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่วันนี้จะมีตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ ได้แก่ Building Permits, Housing Starts และ Prelim UoM Consumer Sentiment ซึ่งส่วนใหญ่คาดว่าจะออกมาทรงตัว
คือดีขึ้นหรือแย่ลงไม่มาก
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคายังคงเคลื่อนตัวแบบ Sideways ตามที่ได้วิเคราะห์ไปก่อนหน้านี้ อยู่ในกรอบแคบๆระหว่าง 1,230-1,250 เหรียญ ยังคงหาทิศทางที่ชัดเจนไม่ได้ เช่นเดียวกับ ค่าเงินบาทที่เริ่มแกว่งตัวในกรอบ Sideways เช่นเดียวกันระหว่าง 32.65-32.95 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งวันนี้วิเคราะห์คาดว่าจะเป็น Sideways เช่นเดิม
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังเป็นลักษณะรอความชัดเจนของทิศทาง และก็ทำกำไรในกรอบแคบ ตามลักษณะทิศทาง Sideways ยังคงแนะนำให้ขายเมื่อราคาดีดตัวสูงขึ้นบริเวณแนวต้านสำคัญ
- นักลงทุนที่ถือ Long Position และ Short Position
ยังแนะนำให้ทำกำไรในระยะสั้นตามกรอบแคบเท่านั้น และลดการถือครองรอสัญญาณการเคลื่อนตัวที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง
Gold Futures G14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,340 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,540 บาท
Gold Futures J14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,400 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,600บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง