SET9: ตลท.ประกาศวิธีคำนวณราคาเปิดและปิดหุ้นแบบใหม่

ข่าวทั่วไป Monday September 6, 1999 11:35 —ThaiPR.net

กรุงเทพ--6 ก.ย.--ตลท.
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประกาศใช้วิธีคำนวณราคาเปิดและราคาปิดหุ้น
แบบใหม่ ใช้วิธีสุ่มเลือกเวลา ผสมผสานกับวิธี Call Market เน้นสร้างเสถียรภาพและ
ป้องกันการสร้างราคา เริ่มใช้จันทร์ที่ 6 ก.ย. นี้ เป็นต้นไป
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ได้เปลี่ยนแปลงวิธีคำนวณราคาเปิดและปิดของหลักทรัพย์ โดย
กำหนดให้เป็นวิธีการเดียวกัน คือ ผสมผสานการสุ่มเลือกเวลา (Random Time) และวิธี
คำนวณราคาแบบ Call Market เข้าด้วยกันจากเดิมที่ราคาเปิดจะเป็นราคาที่ได้จากการ
คำนวณด้วยวิธี Call Market เพียงอย่างเดียว และ ราคาปิดที่กำหนดจากราคาซื้อขาย
ครั้งสุดท้าย โดยเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างเสถียรภาพ และ ป้องกันการสร้างราคา ทั้งนี้
จะเริ่มใช้วิธีการใหม่นี้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 6 กันยายนนี้ เป็นต้นไป
ในส่วนวิธีคำนวณหาราคาปิดของหลักทรัพย์ ผู้ช่วยผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์
อธิบายเพิ่มเติมว่า ด้วยวิธีคำนวณแบบใหม่นี้ ตลาดหลักทรัพย์จะยังคงเปิดให้มีการซื้อขายได้
จนถึงเวลาปิดตลาด คือ 16.30 น. โดยระบบซื้อขายจะหยุดจับคู่คำสั่งซื้อขาย ด้วยวิธี
Automated Order Matching ที่เวลา 16.30 น. จากนั้นระบบจะหาเวลาปิดโดยการ
สุ่มเลือกเวลา ในช่วง 16.35-16.40 น. ในระหว่างนี้โบรกเกอร์ยังสามารถส่งคำสั่งซื้อ
ขายได้เพิ่มเติมอีก แต่จะต้องเป็นคำสั่งประเภทระบุราคา (Limit Price) และประเภท
At the Close (ATC) เท่านั้น โดยระบบจะนำคำสั่งซื้อขายทั้งหมดมาเรียงลำดับไว้ แต่
ไม่จับคู่ให้ จนเมื่อได้เวลาปิดที่ได้จากการสุ่มเลือกแล้ว จึงนำคำสั่งซื้อขายที่ค้างในระบบทั้ง
หมดมาคำนวณหาราคาปิดด้วยวิธี Call Market โดยยึดหลักเกณฑ์ 4 เกณฑ์ ต่อไปนี้
* ต้องเป็นราคาที่ทำให้เกิดการซื้อขายได้ปริมาณมากที่สุด ในกรณีที่มีราคาที่ทำ
ให้เกิดปริมาณซื้อขายมากที่สุดมากกว่า 1 ราคา ให้ใช้ราคาที่ใกล้เคียงกับราคาซื้อขายครั้ง
สุดท้ายก่อนหน้านั้นที่สุด เป็นราคาปิด
* ในกรณีที่มีราคาใกล้เคียงกับราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายก่อนหน้านั้น มากกว่า 1
ราคา ให้ใช้ราคา ที่สูงกว่าเป็นราคาปิด
* หากระบบไม่สามารถคำนวณหาราคาปิดตามหลักเกณฑ์ข้างต้นได้ ใ ห้ถือเอา
ราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของหลักทรัพย์นั้นในวันนั้นเป็นราคาปิด
"ตลาดหลักทรัพย์ได้กำหนดให้นำวิธีการคำนวณหาราคาปิด ซึ่งใช้การสุ่มเลือก
เวลา ผสมผสานกับวิธี Call Market นี้ มาใช้กับการคำนวณหาราคาเปิดด้วยเพื่อให้เป็น
หลักการเดียวกัน ง่ายแก่การเข้าใจ จากเดิมที่การคำนวณราคาเปิดจะใช้เพียงวิธี Call
Market อย่างเดียวเท่านั้น ตั้งแต่จันทร์ที่ 6 ก.ย. เป็นต้นไป ก็จะเพิ่มการสุ่มเลือกเวลา
รวมเข้าไปด้วยโดยระบบจะสุ่มเลือกเวลาเปิดจากช่วง 5 นาทีสุดท้ายของช่วง Pre-Open
ของการซื้อขายทั้งภาคเช้า คือ 9.55-10.00 น. และ ภาคบ่าย คือ 14.25-14.30 น.
เมื่อได้เวลาเปิดจากการสุ่มเลือกแล้ว ระบบจะจับคู่คำสั่งซื้อขายเพื่อหาราคาเปิด ด้วยวิธี
Call Market ในหลักเกณฑ์เดียวกับที่ใช้ในการคำนวณหาราคาปิด" นางสาวโสภาวดีสรุป
สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ ฝ่ายสารนิเทศ โทร.
229-2046 หรือ 229-2040-43
หลักเกณฑ์การคำนวณราคาเปิดและราคาปิดของหลักทรัพย์
ช่วงเวลาซื้อขาย วิธีซื้อขาย หมายเหตุ
Pre-opening I 9:30 - T1 Call Market T1 เป็นเวลา Call ที่ได้
จากการ Random เลือก
หาเวลาเปิดในช่วง 9:55
- 10:00 น.เพื่อหาราคา
เปิดใน Session I
Trading Session I T1 - 12:30 AOM, PT
Intermission 12:30 - 14:00 - -
Pre-opening II 14:00 - T2 Call Market T2 เป็นเวลา Call ที่ได้
จากการ Random เลือก
หาเวลาเปิด ในช่วง
14.25-14:30 น.เพื่อหา
ราคาเปิดใน Session II
Trading Session II T2 - 16:30 AOM, PT
16:30- T3 Call Market, T3 เป็นเวลา Call ที่ได้
PT จากการ Random เลือก
หาเวลาปิดในช่วง 16:35
- 16:40 น.เพื่อหาราคา
ปิดของหลักทรัพย์
ตัวอย่าง : วิธีคำนวณหาราคาปิดหลักทรัพย์
ถ้าราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายก่อนที่จะใช้วิธี Call Market ช่วงปิดตลาดใน
วันนั้นเท่ากับ 51 บาท และ ณ เวลาปิดที่ได้จากการสุ่มเลือกที่ 16:38 น. มีคำสั่งซื้อขาย
ในระบบ ดังนี้
Bid (Buy) Offer (Sell)
Buy Volume Price Order Time Order Time Price Sell Volume
A 300 50 16:37 16:30 49 800 D
B 200 49 15:30 14:25 50 700 E
C 300 48 10:50 9:35 52 500 F
G 500 ATC 16:35
โดยระบบซื้อขายจะคำนวณหาปริมาณหุ้นที่สามารถซื้อขายได้ในแต่ละระดับราคา ดังนี้
Price Buy Volume Sell Volume Matchable Volume
48 300+200+300+500 = 1,300 0 0
49 200+300+500 = 1,000 800 800
50 300+500 = 800 800+700 = 1,500 800
51 0+500 = 500 800+700 = 1,500 500
52 0+500 = 500 800+700+500 = 2,000 500
จากตัวอย่างดังกล่าว จะได้ราคาที่ทำให้เกิดการซื้อขายปริมาณมากที่สุด 2
ราคา คือที่ราคา 49 และ 50 บาท จากนั้นระบบจะเลือกราคาที่ใกล้เคียงกับราคาซื้อขาย
ครั้งสุดท้ายก่อนหน้า (51 บาท) มากที่สุดเป็นราคาปิด ดังนั้น จะได้ราคาปิดที่ 50 บาท
และให้มีวิธีจับคู่การซื้อขายตาม Price then time priority โดยที่คำสั่งซื้อขาย ATC
จะมีลำดับการจับคู่การซื้อขายเป็น Last Priority ดังนี้
Deal Buyer Seller Time Price Volume
1 A D 16:38:01 50 300
2 G D 16:38:02 50 (ATC) 500
--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ