กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
‘ตราเพชร’ เปิดแผนปี 57 เน้นรุกตลาดต่างประเทศ รับความต้องการสินค้าวัสดุก่อสร้างในตลาดอาเซียน เร่งหาพันธมิตรและขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในตลาดพม่าและลาวเพิ่ม ส่วนตลาดในประเทศมั่นใจยังสดใส หลังกลุ่มลูกค้าโครงการและห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ยังเดินหน้าลงทุนเพิ่ม ชูความแข็งแกร่งด้านช่องทางการจัดจำหน่ายและกำลังการผลิตที่มีกว่า 9.82 แสนตัน ป้อนความต้องการลูกค้า ตั้งเป้าสิ้นปีทำยอดขายโตไม่ต่ำกว่า 10%
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ พื้นไม้ลามิเนต แผ่นบอร์ด ยิปซัม และบริการหลังการขายภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ เปิดเผยว่า แผนทำตลาดในปีนี้ จะให้น้ำหนักเน้นทำตลาดต่างประเทศในกลุ่มประเทศอาเซียนมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศไทย เช่น พม่า ลาว กัมพูชา ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตจากปัจจัยบวกจากการขยายตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการลงทุนก่อสร้างพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่เพิ่มขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558
สำหรับแนวทางทำตลาดนั้น บริษัทฯ จะเน้นมองหาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย และพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งด้านช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มเติม เพื่อช่วยผลักดันสินค้าตราเพชรไปยังกลุ่มลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น หลังจากที่ผ่านมา ตราเพชรได้รับความเชื่อมั่นในด้านคุณภาพสินค้าและตราสินค้าก็มีความแข็งแกร่งเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคในตลาดอาเซียนอยู่แล้ว
“ปีนี้เราจะผลักดันตลาดส่งออกให้มากขึ้น เนื่องจากมองเห็นศักยภาพของตลาดเพื่อนบ้านที่มีการเติบโตที่ดี โดยเราจะเน้นหนักในตลาดพม่าและลาว ที่เรามีเป้าหมายต้องการจะเพิ่มสัดส่วนยอดขายของทั้ง 2 ประเทศนี้ให้มากขึ้น ด้วยความหลากหลายของสินค้าภายใต้แบรนด์ตราเพชร ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ โดยคาดว่าจะสามารถเพิ่มสัดส่วนยอดขายจากตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นได้อีก จากเดิมที่มีสัดส่วนยอดขายอยู่ที่ 10-12% ของยอดขายรวมทั้งหมด” นายสาธิต กล่าว
รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด ตราเพชร กล่าวว่า ส่วนตลาดภายในประเทศนั้น บริษัทฯ มองว่ายังมีการเติบโต เนื่องจากกลุ่มผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและกลุ่มห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ยังเดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯ จะใช้จุดแข็งด้านความพร้อมของฐานการผลิตในโรงงานจังหวัดสระบุรี เชียงใหม่ และขอนแก่น โดยจะใช้กำลังการผลิตเพิ่มเป็น 75-80% ของกำลังการผลิตทั้งหมด 9.82 แสนตัน ป้อนความต้องการของตลาดผ่านช่องทางขายต่างๆ พร้อมกับจะพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เข้ามาเติมเต็มความแข็งแกร่งในด้านความหลากหลายสินค้าของตราเพชรและการให้บริการหลังการขายที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
“ปีนี้ถือเป็นปีที่มีความท้าทายการทำตลาด ซึ่งในภาวะเช่นนี้ ผู้ประกอบการที่ตราสินค้าที่แข็งแกร่ง สินค้าที่หลากหลายผ่านช่องทางการจัดหน่ายแข็งแกร่ง จะสามารถรับมือกับภาวะตลาดในปีนี้ได้ ซึ่งตราเพชรมีพร้อมและเราจะรุกทำตลาดอย่างหนัก เพื่อผลักดันเป้าหมายในปีนี้ให้เติบโตอย่างน้อย 10% ได้” นายสาธิต กล่าว