กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--ธนาคารธนชาต
TCAP รายงานผลประกอบการปี 56 เติบโต 68% จากปีก่อน ซึ่งกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นมาจาก ความสามารถในการสร้างรายได้ของทุกบริษัทภายใต้กลุ่มธนชาต ทั้งจากรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย รวมถึงความสำเร็จในการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ตามเป้า ถึงแม้ว่ามีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นก็ตาม
นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงผลการดำเนินงานของปี 2556 ว่า “กำไรของกลุ่มธนชาตในปีนี้อยู่ที่ 17,004 ล้านบาท โดยเป็นกำไรในส่วนที่เป็นของบริษัทฯจำนวน 9,231 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,722 ล้านบาท หรือ 68% จากปีก่อน อย่างไรก็ดี แม้จะไม่รวมรายการพิเศษที่เป็นกำไรจากการขาย TLIFE กำไรสุทธิก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญมาจาก ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานปรับลดลงร้อยละ 1.92 เป็นผลมาจากความสำเร็จในการลดค่าใช้จ่ายได้ตามแผนที่วางไว้ ในขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 จากการขยายตัวของสินเชื่อ และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 2.55 ส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.82 ตามการเติบโตของทุกธุรกิจภายใต้กลุ่มธนชาต อย่างไรก็ตามมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 5,380 ล้านบาท เพื่อรองรับความเสียหายจากขาดทุนการขายรถยึดซึ่งเป็นผลกระทบจากอุปสงค์และอุปทานในตลาดรถมือสอง”
ขณะที่ นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “ในปี 2556 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 15,385 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84% จากปีก่อน เป็นผลจากในไตรมาสที่ 2 ที่ธนาคารธนชาตได้ดำเนินการขายหุ้นในบริษัทธนชาตประกันชีวิตให้กับ พรูเด็นเชียลประกันชีวิต รวมทั้งรายได้อื่นๆก็ปรับตัวดีขึ้น”
“เป็นปีที่เอื้อในการประกอบธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการขยายตัวของธุรกิจจากนโยบายการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด การให้บริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ของลูกค้าได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งความร่วมมือของพนักงานทุกระดับชั้นและระบบงานที่ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นทิศทางที่ดีในการประกอบธุรกิจต่อไปในอนาคต”