กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--กระทรวงวัฒนธรรม
ดร.ปรีชา กันธิยะ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และอุทยานประวัติศาสตร์ เป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมที่มีศักยภาพในการศึกษาเฉพาะด้านศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมของชาติ โดยจะเปิดพื้นที่ให้บริการ เพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ ในการอนุรักษ์ สืบทอด และพัฒนาวัฒนธรรม ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมจะดำเนินการตามยุทธศาสตร์ของประเทศตามนโยบายของรัฐบาล โดยดำเนินโครงการพัฒนาพิพิธภัณฑ์ และแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม เพื่อให้เด็กและเยาวชน ได้เรียนรู้เกี่ยวกับหลักธรรมทางศาสนา เอกลักษณ์ทางศิลปะ และวิถีชีวิตทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ของท้องถิ่น รวมถึงการใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าในการเรียนรู้มรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษ เข้าใจในรากเหง้าของตนเอง เกิดความรักความหวงแหนในความเป็นไทย
ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้กำหนดนโยบาย ให้กรมศิลปากรจัดกิจกรรมร่วมกับสถานศึกษาทั่วประเทศ โดยนำเด็กนักเรียนไปทัศนศึกษา เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ โบราณคดี และศิลปวัตถุ โดยจะดำเนินการที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ 44 แห่ง และอุทยานประวัติศาสตร์ 10 แห่งทั่วประเทศ พร้อมทั้งจัดวิทยากรบรรยายและนำชมของดีที่มีอยู่ในพิพิธภัณฑ์ และจะนำโบราณวัตถุที่เก็บรักษาไว้ มาหมุนเวียนจัดแสดงให้มีความหลากหลาย แปลกใหม่ รวมทั้งจัดกิจกรรมความบันเทิง เพื่อสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ ขณะเดียวกัน ก็จะสนับสนุนค่าพาหนะ ค่าอาหาร และเข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น โดยกระทรวงวัฒนธรรมจะจัดสรรงบประมาณในการดำเนินการในเบื้องต้น และเสนอของบประมาณจากรัฐบาลเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม
"การนำเด็กนักเรียนไปทัศนศึกษาในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจะใช้เวลาประมาณครึ่งวัน โดยจะจัดให้เด็กเข้าชมประมาณ 200 คน หรือขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละสถานที่ ซึ่งเด็กๆจะได้รับความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น และการอำนวยความสะดวกในการเข้าชม มีการจัดอาหารว่างและอาหารกลางวันไว้บริการ ส่วนการจัดแสดงศิลปวัตถุ และโบราณวัตถุ จะทำให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น และมีการจัดทำปฏิทินกิจกรรมรายเดือน รวมทั้งมีการประชาสัมพันธ์ทางสื่อมวลชนและสื่อออนไลน์อย่างกว้างขวาง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับสถานศึกษาและเด็กนักเรียนที่จะเข้ามาชมอีกด้วย" ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าว