กรุงเทพฯ--22 ม.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term IDR) แก่ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ SME Bank ที่ ‘BBB+’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ พร้อมกันนี้ฟิทช์ได้ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SME Bank ที่ ‘AAA(tha)’
สำหรับรายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดแสดงไว้ในส่วนท้าย
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ SME Bank ได้รับการจัดอันดับอยู่ในระดับเดียวกับอันดับเครดิตของประเทศไทยเนื่องจากธนาคารมีความสัมพันธ์กับรัฐบาลในระดับสูง ซึ่งส่งผลให้ฟิทช์เชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ธนาคารจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล หากมีความจำเป็น อันดับเครดิตของธนาคารได้รับการสนับสนุนจากบทบาทที่สำคัญในเชิงกลยุทธของธนาคารในการสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็ก และสถานะทางกฎหมายของธนาคารซึ่งเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจแห่งหนึ่งในประเทศไทย รวมถึงการมีรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นเกือบทั้งหมด และการสนับสนุนด้านเงินทุนจากรัฐบาลในอดีต
ในปี 2555 SME Bank มีผลการดำเนินงานขาดทุน เนื่องจากอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณสองเท่า มาอยู่ที่ประมาณ 30% ของสินเชื่อ ซึ่งเป็นผลจากความผิดพลาดในการปล่อยสินเชื่อ อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้เข้าช่วยเหลือโดยการเพิ่มทุนให้ธนาคารในไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 ซึ่งช่วยให้อัตราส่วนของเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 5.28% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2556 (จาก 3.28% ณ สิ้นปี 2555) การฟื้นฟูสถานะการดำเนินงานของ SME Bank ปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการคลัง ซึ่งสะท้อนถึงการควบคุมอย่างใกล้ชิดของรัฐบาลที่ยังคงมีอยู่
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น และอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ (Support Rating Floor) โดยทั่วไปจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตของประเทศไทย อย่างไรก็ตามอันดับเครดิตสนับสนุน (Support Rating) อาจไม่ได้รับผลกระทบหากอันดับเครดิตของประเทศถูกปรับลดลง เนื่องจากอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำที่สุดที่ยังคงสอดคล้องกับระดับของอันดับเครดิตสนับสนุนที่ ‘2’ นั้นอยู่ที่ ‘BBB- ’ อันดับเครดิตภายในประเทศของ SME Bank ไม่น่าจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทย เนื่องจากรัฐบาลน่าจะยังมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ (default risk) ต่ำที่สุดในประเทศ
อันดับเครดิตสากลและอันดับเครดิตภายในประเทศของ SME Bank อาจได้รับผลกระทบในเชิงลบจากการเปลี่ยนแปลงของมุมมองของฟิทช์ต่อโอกาสของการได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ และความสามารถของรัฐบาลไทยในการให้การสนับสนุนแก่ธนาคาร ตัวอย่างของกรณีดังกล่าวอาจรวมถึง การที่รัฐบาลปฏิเสธที่จะเพิ่มทุนหรือให้การสนับสนุนด้านการระดมเงินทุน (funding) เพิ่มเติม การลดสัดส่วนการถือหุ้นทางตรงของรัฐอย่างมีนัยสำคัญ การลดบทบาทในการควบคุมธนาคาร หรือการเปลี่ยนแปลงสถานะทางกฎหมายของธนาคาร อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากธนาคารดังกล่าวมีหน้าที่หลักในการดำเนินนโยบายของรัฐ
รายละเอียดของอันดับเครดิตของ SME Bank มีดังนี้
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวให้อันดับที่ ‘BBB+’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นให้อันดับที่ ‘F2’
- อันดับเครดิตสนับสนุนให้อันดับที่ ‘2’
- อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำให้อันดับที่ ‘BBB+’
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ ‘F1+(tha)’