กรุงเทพฯ--22 ม.ค.--Core&Peak
ธุรกิจขนาดเล็ก ข้อมูลขนาดใหญ่
ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางจำนวนมากกำลังรับมือกับปัญหาของข้อมูลขนาดใหญ่(บิ๊กดาต้า)อยู่
นายทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ให้ลองคิดอีกครั้งและพิจารณาคำนิยามที่ถูกต้องของข้อมูลขนาดใหญ่(บิ๊กดาต้า)ร่วมด้วย: เมื่อปริมาณ ความเร็ว และความหลากหลายของข้อมูลมีมากกว่าที่ระบบจัดเก็บข้อมูลขององค์กรจะสามารถรองรับได้ หรือเมื่อต้องการประสิทธิภาพด้านการคำนวณเพื่อให้ได้การตัดสินใจที่ถูกต้องและทันเวลา
เห็นได้ชัดว่าข้อมูลขนาดใหญ่มีความเกี่ยวข้อง ทุกองค์กรมีจุดพลิกผัน และองค์กรส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะมีขนาดใดก็ตาม ในท้ายที่สุดแล้วก็จะมาถึงจุดที่เกี่ยวข้องกับปริมาณ ความหลากหลาย และความเร็วของข้อมูลซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาจะต้องคำนึงถึง
สิ่งสำคัญกว่านั้นก็คือทุกองค์กรมีโอกาสใช้ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับตัวเอง เพื่อผลักดันให้เกิดการตัดสินใจที่ถูกต้องและทันเวลาซึ่งมีผลต่อเป้าหมายของธุรกิจและองค์กรอย่างมาก เมื่อคุณจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ด้วยการวิเคราะห์ขนาดใหญ่ คุณจะตระหนักได้ทันทีว่าข้อมูลขนาดใหญ่ได้นำโอกาสมาให้สำหรับทุกองค์กร ข้อมูลขนาดใหญ่ไม่ได้มีประโยชน์สำหรับบริษัทข้ามชาติเท่านั้น และแน่นอนว่าไม่ได้มีขนาดเดียวที่เหมาะกับทุกคนไม่ว่ารายได้ของคุณจะอยู่ที่ 1 ล้านหรือ 1แสนล้านดอลลาร์ การรู้วิธีจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลส่งผลต่อความสำเร็จขององค์กร เช่นเดียวกับงานวิจัยของ Economist Intelligence Unit ที่แสดงให้เห็นในการศึกษาล่าสุดเรื่อง Big Data: Harnessing a Game-Changing Asset โดยเกือบครึ่งของผู้ตอบแบบสำรวจที่รายได้ 500 ล้านดอลล่าร์หรือน้อยกว่านั้นระบุว่าข้อมูลขนาดใหญ่นั้นเป็นประเด็นสำคัญสำหรับองค์กร
ผลการวิจัยของรายงาน พบว่า: ในช่วงปีที่แล้ว 73% ของผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่าการเก็บรวบรวมข้อมูลของพวกเขาเพิ่มขึ้น "ค่อนข้างมาก" หรือเพิ่มขึ้น "อย่างมีนัยสำคัญ" โดยบริษัทที่ระบุตัวเองว่าเป็น "ผู้จัดการข้อมูลเชิงกลยุทธ์" เป็นผู้ที่มีกลยุทธ์การจัดการข้อมูลที่มุ่งเน้นทรัพยากรในการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลที่มีค่าที่สุด และบริษัทในกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะมีผลประกอบการเหนือกว่าคู่แข่งรายอื่นที่ระดับ 53% ต่อ 36%
ในขณะที่ 32% ของผู้ที่ระบุตัวเองว่าเป็น “ผู้ใช้ข้อมูลอย่างสิ้นเปลือง” ระบุว่าพวกเขาล้าหลังกว่าบริษัทอื่นๆ ในด้านผลประกอบการทางการเงิน โดยจะเห็นได้ว่ามีเพียง 1% ของผู้ใช้ข้อมูลเชิงกลยุทธ์เท่านั้นที่รายงานข้อมูลดังกล่าว และมากกว่าครึ่งหนึ่งของบริษัทที่รายงานว่าพวกเขาคาดหวังว่าปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นจะช่วยปรับปรุงการดำเนินงาน โดยคำตอบยอดนิยมอันดับสอง (ผู้ตอบแบบสอบถามเลือกเป็นอันดับสอง): 36% คาดว่าข้อมูลจะช่วยนำไปสู่การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้
ผลกระทบที่มีต่อธุรกิจของคุณ
คุณอาจคิดว่ามีเพียงธุรกิจบางอย่างเท่านั้นที่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาของข้อมูลจำนวนมหาศาลหรือต้องรับมือกับข้อมูลรูปแบบใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา อาทิ ร้านค้าปลีกที่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับรายการสินค้า (SKU) จำนวนมากจากซัพพลายเชนของตน และสถาบันการเงินที่กำลังติดตามตรวจสอบการไหลเข้าและการไหลออกของเงินอย่างต่อเนื่อง แล้วบริษัทผู้ให้บริการสาธารณูปโภคขนาดเล็กระดับภูมิภาค คุณคิดว่าพวกเขาจะมีความกังวลเกี่ยวกับข้อมูลขนาดใหญ่บ้างหรือไม่
บริษัทผู้ให้บริการสาธารณูปโภคหลายแห่งเริ่มนำระบบมิเตอร์อัจฉริยะเข้ามาใช้ในการปฏิบัติงานของตนแล้ว ทำให้พวกเขาสามารถคาดการณ์ปริมาณการใช้บริการได้ดีขึ้นและลดความจำเป็นในการสร้างโรงงานเพิ่ม นอกจากนี้ ข้อมูลที่ระบบมิเตอร์อัจฉริยะได้มานั้นยังสามารถสร้างประโยชน์ได้มากกว่าที่คิด โดยจะเห็นได้ว่าบริษัทผู้ให้บริการสาธารณูปโภคสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้บริการของลูกค้าได้ที่ระดับ 3,000 รายการต่อลูกค้าต่อเดือน อีกทั้งยังสามารถส่งข้อมูลการใช้บริการเข้าสู่ระบบได้มากถึงสี่ครั้งต่อชั่วโมง
ทั้งนี้ บริษัทผู้ให้บริการสาธารณูปโภคขนาดเล็กแห่งหนึ่งในมิดเวสต์เทิร์นกำลังใช้ข้อมูลจากระบบมิเตอร์อัจฉริยะสร้างโปรแกรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมขึ้นมาเพื่อช่วยวิเคราะห์การใช้งานที่มีอยู่ไปจนถึงการคาดการณ์การใช้งานในอนาคต การคิดราคาตามปริมาณการใช้งานและแชร์ข้อมูลดังกล่าวกับลูกค้าที่ไม่ต้องการจ่ายค่าบริการมากเกินความจำเป็น
บริษัทขนส่งสินค้าระดับภูมิภาคเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ได้เลือกใช้เทคโนโลยีระบุตำแหน่งผ่านดาวเทียม (GPS) เพื่อช่วยในการติดตามรถบรรทุกสินค้า และยังมีการติดแท็ก RFID ที่สินค้าเพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการยิ่งขึ้น โดยบริษัทสามารถใช้ข้อมูลที่ได้รับจากเทคโนโลยีดังกล่าวในการกำหนดเส้นทางที่มีประสิทธิภาพให้กับรถบรรทุก แจ้งเตือนลูกค้าเมื่อสินค้ามาถึง และคาดการณ์ระยะเวลารวมถึงค่าบริการต่างๆ ได้ โดยสิ่งที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้มาจากความสามารถในด้านการจัดการและการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพโดยตรง
ร้านอาหารที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในระดับภูมิภาคต่างได้รับผลกระทบจากปริมาณข้อมูลจำนวนมหาศาลด้วยเช่นกัน หากคุณเป็นเจ้าของร้านอาหารร้านใดร้านหนึ่ง คุณจะทำอย่างไรเมื่อพบว่ามีการโจมตีร้านของคุณด้วยความคิดเห็นเชิงลบผ่านระบบแสดงความเห็นทางออนไลน์ คุณสามารถวิเคราะห์ความคิดเห็นที่มีต่อร้านอาหารของคุณใน Facebook หรือ Yelp ได้หรือไม่ จากข้อสังเกตที่ได้จากรายงานของ Economist Intelligence Unit พบว่า "มีข้อมูลรูปแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้ข้อมูลเหล่านั้นร่วมกับข้อมูลที่มีอยู่และสร้างมุมมองเชิงลึกใหม่ขึ้นมา"
อีกหนึ่งตัวอย่าง นั่นคือ บริษัทให้คำปรึกษาด้านการดูแลสุขภาพ ซึ่งให้บริการจัดเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติงานทางการแพทย์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญต่อความสำเร็จของธุรกิจในสายนี้ โดยบริษัทได้เก็บรวบรวมข้อมูลการเรียกเก็บเงินและการวินิจฉัยจากแพทย์จำนวน 10,000 คนทั้งในแบบรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน จากนั้นนำไปสร้างเป็นโมเดลคลินิกเสมือนขึ้นมา โดยระบบจะนำข้อมูลที่ได้ไปเปรียบเทียบกับมาตรฐานของแนวทางปฏิบัติด้านการรักษาที่มีอยู่ด้วยกัน 90 มาตรฐาน สิ่งนี้จะช่วยให้การปฏิบัติงานของแพทย์สอดคล้องกับแนวทางที่คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางกำหนดไว้สำหรับการเจรจาต่อรองในเรื่องค่าชดเชยสำหรับแพทย์ โดยบริษัทให้คำปรึกษาแห่งนี้จะวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อช่วยให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าใจได้ว่าแพทย์ได้ปฏิบัติงานตามแนวทางที่กำหนดไว้หรือไม่ และพวกเขามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะได้รับเงินชดเชยเพิ่มขึ้นภายใต้มาตรฐานด้านการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมหรือไม่ นอกจากนี้ ระบบยังสามารถส่งข้อมูลแจ้งเตือนอัตโนมัติเพื่อส่งเสริมให้เกิดการดูแลรักษาผู้ป่วยได้ดีขึ้น เช่น การสร้างระบบโทรออกอัตโนมัติสำหรับผู้ป่วยเด็กเมื่อถึงวันครบกำหนดที่ต้องมาฉีดวัคซีน
จะเห็นได้ว่าบริษัทต่างๆ ในธุรกิจแขนงนี้กำลังให้ความสำคัญกับการสร้างโมเดลธุรกิจของตนเองขึ้นมาจากการวิเคราะห์ข้อมูลโดยเฉพาะ ดังนั้น ข้อมูลขนาดใหญ่จึงไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณสามารถดำเนินธุรกิจให้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับองค์กรด้วย
ข้อควรพิจารณาด้านไอที – ไม่ว่าธุรกิจจะใหญ่และเล็ก
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในแวดวงการดูแลสุขภาพหรืออุตสาหกรรมบริการ คุณจำเป็นต้องพิจารณาถึงความต้องการที่แท้จริงของตัวคุณและดำเนินการออกแบบการวิเคราะห์เฉพาะสำหรับคุณขึ้นมา เมื่อข้อมูลของคุณเพิ่มจำนวนมากขึ้น ระบบไอทีอาจไม่สามารถตอบสนองความต้องการทางธุรกิจของคุณได้ หากต้องการเอาชนะความท้าทายเหล่านั้น ให้พิจารณาประเด็นดังต่อไปนี้
ขนาดไม่ใช่เรื่องสำคัญ แม้ว่าขนาดองค์กรจะมีความสำคัญ แต่คุณควรให้ความสำคัญกับมูลค่าทางธุรกิจก่อน โดยคุณจะต้องระบุถึงความท้าทายและเป้าหมายทางธุรกิจที่ชัดเจน อาทิ คุณต้องการใช้ข้อมูลในบล็อกและสื่อสังคมออนไลน์เพื่อวิเคราะห์การภักดีของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ของคุณหรือไม่ คุณต้องการเสริมความแข็งแกร่งให้กับแนวทางการวิเคราะห์การทุจริตด้วยการสร้างคลังรวบรวมพฤติกรรมของผู้ใช้และเนื้อหาในรูปแบบอื่นๆ หรือไม่ คุณต้องการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของลูกค้าหรือไม่ จากนั้นให้มุ่งเน้นไปที่มูลค่าทางธุรกิจเพื่อที่คุณจะได้สามารถกำหนดเป้าหมายให้สอดคล้องกับแนวทางด้านเทคนิคและการแก้ปัญหาของคุณได้
มองภาพรวม ในการออกแบบระบบ คุณจำเป็นต้องมองระบบให้เป็นภาพรวม แน่นอนว่าคุณไม่จำเป็นต้องเลือกใช้การออกแบบโครงสร้างที่มีขนาดใหญ่โต แต่ควรใช้หลักการด้านสถาปัตยกรรมที่เป็นมาตรฐานเพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ปิดกั้นตัวเองไว้ที่ระบบใดระบบหนึ่งเท่านั้น
อย่าหลงเชื่อโฆษณาชวนเชื่อ ถ้าคุณศึกษาเรื่องข้อมูลขนาดใหญ่ คุณอาจคิดว่าระบบ Hadoop เป็นระบบที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากเฟรมเวิร์กของซอฟต์แวร์ใหม่นี้ได้รับการออกแบบขึ้นมาสำหรับข้อมูลขนาดใหญ่โดยเฉพาะ แม้ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่ดีเยี่ยม แต่นี่อาจไม่ใช่โซลูชั่นที่เหมาะสมกับธุรกิจขนาดกลางและเล็ก อย่างไรก็ตาม การที่ Hadoop ไม่ได้เหมาะสมกับคุณ ก็ไม่ได้หมายความว่าข้อมูลขนาดใหญ่จะไม่มีความสำคัญ ให้พิจารณาสิ่งที่ดีที่สุดที่สามารถรองรับการเติบโตขององค์กรของคุณก่อนที่คุณจะลงทุนตามโฆษณาชวนเชื่อที่มีอยู่ในตลาด
การวิเคราะห์เป็นกุญแจสำคัญ โดยส่วนใหญ่แล้ว เราจะคิดถึงการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการจัดการข้อมูล เช่น การรวมข้อมูลและคุณภาพของข้อมูลที่ใช้เพื่อจัดเตรียมข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล แม้ว่านี่จะเป็นขั้นตอนที่สำคัญ แต่มีความต่างอย่างมากเกี่ยวกับลักษณะที่คุณสามารถใช้การวิเคราะห์เพื่อกำหนดสิ่งที่จะดำเนินการกับข้อมูลองค์กรของคุณ กำหนดว่าข้อมูลใดที่มีความเกี่ยวข้องกัน รวมถึงลักษณะการจัดเก็บข้อมูลหรือข้อมูลที่ควรได้รับการจัดเก็บไว้ด้วย
ทรัพยากรมีไม่เพียงพอ การขาดแคลนทรัพยากรโดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรที่เหมาะสมในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง จากการวิจัยของ Economist Intelligence Unit พบว่าการขาดทักษะที่เหมาะสมเพื่อจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพถือเป็นความท้าทายสองอันดับแรกที่ผู้ตอบแบบสอบถามระบุไว้ (30%) ตามมาติดๆ ด้วย "เราไม่สามารถเรียกใช้ข้อมูลให้กับบุคคลที่เหมาะสมในองค์กรได้" (23%) และ "เราไม่ได้มีทักษะด้านการวิเคราะห์ที่จะทำให้รู้วิธีในการใช้ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ" (22%) แต่การใช้ข้อมูลไม่จำเป็นต้องมีการว่าจ้างทีมงานเฉพาะ จริงๆ แล้ว บริษัทที่ประสบความสำเร็จจำนวนมากเริ่มต้นด้วยการมองหาบุคคลากรภายในองค์กรที่มักจะถามคำถามที่ทุกคนอยากรู้คำตอบและจับคู่พวกเขากับนักสถิติที่จะสามารถช่วยให้พวกเขาเจาะลึกข้อมูลที่มีอยู่ได้
การแก้ปัญหาข้อมูลขนาดใหญ่ของคุณด้วยการวิเคราะห์ที่มี่ประสิทธิภาพ
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับองค์กรทุกขนาด: คุณไม่ควรดำเนินการวิเคราะห์ที่ซับซ้อนน้อยเพียงเพราะคุณมีข้อมูลมากขึ้น ถ้าขนาดของข้อมูลกำลังขัดขวางการวิเคราะห์ของคุณ ปัญหาไม่ใช่เพราะคุณมีข้อมูลมากเกินไป แต่เป็นเพราะคุณไม่มีระบบการวิเคราะห์ที่เหมาะสม
โลกแห่งข้อมูลขนาดใหญ่นี้ไม่ใช่เพียงแค่ขับเคลื่อนปัญหาเร็วขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น แต่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาที่ไม่เคยแก้ได้มาก่อน เมื่อปริมาณข้อมูลขยายตัวและแหล่งข้อมูลใหม่ๆ ยังคงเพิ่มจำนวนอย่างต่อเนื่อง ปัญหาข้อมูลขนาดใหญ่ที่คุณมีคืออะไร เมื่อคุณใช้การวิเคราะห์ที่เหมาะสมเพื่อจัดการกับปัญหาข้อมูลขนาดใหญ่ของคุณ คุณจะพบว่าข้อมูลขนาดใหญ่ไม่ได้เป็นแค่ความท้าทาย แต่เป็นโอกาสสำหรับองค์กรของคุณด้วย
สื่อมวลชน กรุณาติดต่อ
คุณพิมพิดา อัครอัศวบดี(แพง)
pimpidaa@corepeak.com
โทร. 02 439 4600 ต่อ 8200