กรุงเทพฯ--23 ม.ค.--ก.ล.ต.
สืบเนื่องจากนายบี เตชะอุบล ร่วมกับบริษัท ไทยไพร์ม จำกัด ได้มาซึ่งอำนาจควบคุมกิจการของบริษัท อุตสาหกรรมอีเล็คโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) (“EIC”) และอยู่ระหว่างยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EIC ในราคาหุ้นละ 1.25 บาท โดยจะปิดรับซื้อในวันที่ 27 มกราคม 2557 นั้น จากการตรวจสอบพบว่าในระหว่างนี้นายบีได้เข้าซื้อหุ้น EIC ในตลาดหลักทรัพย์ จำนวน 1,017,500 หุ้นในราคาหุ้นละ 3.50 บาทซึ่งสูงกว่าราคาในคำเสนอซื้อ ทำให้ราคาหุ้น EIC ที่นายบีเสนอซื้อต่อผู้ถือหุ้นทุกรายมิได้เป็นราคาหรือรูปแบบเดียวกัน อันอาจก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันในระหว่างผู้ถือหุ้นของกิจการ
ก.ล.ต. ได้เสนอเรื่องดังกล่าวให้คณะอนุกรรมการวินิจฉัยการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการพิจารณาและคณะอนุกรรมการฯ เห็นว่า ข้อกำหนดเกี่ยวกับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์มีเจตนารมณ์เพื่อคุ้มครองผู้ถือหลักทรัพย์เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอำนาจในการควบคุมกิจการ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นที่ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงผู้มีอำนาจควบคุมกิจการสามารถขายหุ้นของตนได้อย่างเป็นธรรม (fair exit) และได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม (fair treatment) ดังนั้น การที่นายบีเสนอซื้อหุ้น EIC จากผู้ถือหุ้นบางรายผ่านตลาดหลักทรัพย์ในราคาที่สูงกว่าราคาตามคำเสนอซื้อ ทำให้ราคาเสนอซื้อหุ้น EIC จากผู้ถือหลักทรัพย์ทุกรายมิได้เป็นราคาหรือรูปแบบเดียวกัน และไม่เป็นไปตามประกาศเกี่ยวกับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ ซึ่งออกตามความในมาตรา 247 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
ก.ล.ต. จึงมีหนังสือแจ้งให้นายบีชี้แจงและแก้ไขการดำเนินการให้เป็นไปตามบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องโดยเร็วและเพื่อประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นของ EIC ได้ขอให้นายบีเปิดเผยการแก้ไขการดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์แก่ EIC เพื่อให้บริษัทเผยแพร่ข้อมูลต่อผู้ถือหุ้นผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์ต่อไป โดยขอให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนพ้นระยะเวลาสิ้นสุดการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ด้วย