มัคคานซิสเผยผลการศึกษาผู้ใช้งานสมาร์ทดีไวซ์เกินครึ่ง ถือครองมากกว่า 1 เครื่องในเวลาเดียวกัน ส่งผลดีต่อการเติบโตของปริมาณการใช้งานข้อมูลไร้สาย

ข่าวเทคโนโลยี Friday January 24, 2014 10:47 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--มัคคานซิส จากผลการศึกษาของมัคคานซิส บริษัทให้คำปรึกษาด้านข้อมูลและกลยุทธ์ในอุตสาหกรรมไอซีที ผ่านแบบสำรวจออนไลน์กับกลุ่มผู้ใช้งานสมาร์ทดีไวซ์ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จำนวน 248 ราย พบว่า กว่าครึ่งของผู้ใช้งานสมาร์ทดีไวซ์ (สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต อีบุ๊ครีดเดอร์ และสมาร์ทแกจเก็จอื่นๆ) ครอบครองอุปกรณ์เหล่านี้มากกว่า 1 ชิ้น ในเวลาเดียวกัน โดยส่งผลต่อการใช้งานปริมาณข้อมูลที่เพิ่มสูงขึ้น ผลการศึกษาวิเคราะห์ในเดือนธันวาคม2556 ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงอัตราการถือครองอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ของกลุ่มคนเมืองที่มีมากกว่า 1 เครื่องมากถึงร้อยละ 67 โดยในการศึกษานี้ พบผู้ที่ถือครองอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์จำนวน 2 เครื่องมีสัดส่วน มากถึงร้อยละ 37 และที่น่าสนใจไปกว่านั้น ผู้ที่ถือครองอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ตั้งแต่ 3 เครื่องขึ้นไป มีสูงถึงร้อยละ 30 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการซื้อและครอบครองอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์มากกว่า 1 เครื่องของผู้ใช้งานในเขตกรุงเทพและปริมณฑลเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนจัดเป็นอุปกรณ์ที่มีการครอบครองและใช้งานมากที่สุด รองลงมาคือแท็บเล็ต ขณะที่อุปกรณ์อื่นๆเช่นแฟบเล็ต ยังมีจำนวนผู้ใช้งานน้อยแต่มีแนวโน้มการเติบโตที่สดใสในอนาคตจากข้อมูลดังกล่าว พอจะสรุปได้ว่า อุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ทำให้ผู้ใช้งานมีความจำเป็นในการถือครองมากกว่า 1 เครื่องในปัจจุบัน เมื่อศึกษาถึงพฤติกรรมการใช้งานเชิงลึกพบว่า กลุ่มผู้ใช้งานส่วนใหญ่ร้อยละ 83 ยังคงมีการใช้งานอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์เฉลี่ยนานกว่า 12 เดือนก่อนจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของระยะเวลาการครอบครองที่สั้นกว่าในอดีต ที่ระยะเวลาการใช้งานของอุปกรณ์เหล่านี้จะอยู่ที่ประมาณ 22-24 เดือนก่อนที่จะเปลี่ยนเครื่องใหม่ และอาจจะเกี่ยวกับปัจจัยด้านราคาของอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์เหล่านี้ที่มีช่วงราคาที่หลากหลาย มีราคาที่ถูกลง และมีตัวเลือกมากขึ้นจากการนำเสนอของแบรนด์ใหม่ๆ ในตลาด ส่งผลให้ผู้ใช้งานมีทางเลือกในการจับจ่ายมากขึ้นและสามารถเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสมขณะที่ปัจจัยเสริมจากผู้ให้บริการเครือข่ายได้เป็นผู้จำหน่ายโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเองหรือร่วมกับผู้ผลิตโทรศัพท์สมาร์ทโฟนแบรนด์ใหม่ๆในตลาด นำเสนอโปรโมชั่นด้วยข้อเสนอและราคาพิเศษยิ่งส่งผลบวกต่อการเพิ่มอัตราการถือครองมากขึ้นและระยะเวลาการครอบครองอุปกรณ์ที่สั้นลง ในด้านของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G จากผลการศึกษาเบื้องต้น พอจะสรุปได้ว่า กลุ่มผู้ใช้บริการดาต้าจากเครือข่าย ได้หันมาใช้บริการในรูปแบบรายเดือน (post-paid) มากกว่ารูปแบบเติมเงิน (pre-paid) ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานดาต้า ที่ไม่อยากมีความยุ่งยากในการปรับเปลี่ยนโปรโมชั่น หรือต้องเติมเงินใช้งานเป็นประจำเพราะการเลือกใช้งานรายเดือนนั้น เป็นการเลือกโปรโมชั่นในครั้งแรกและมีการใช้งานต่อเนื่องและชำระค่าบริการเพียงเดือนละครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ลดภาระของผู้ใช้บริการ และปัจจุบันนี้ได้มีหลากหลายช่องทางการชำระค่าบริการที่สะดวกมากขึ้น ทั้งการชำระผ่านบัตรเครดิต หรือ การชำระผ่านบัญชีธนาคารที่มีการตัดยอดชำระอัตโนมัติ รวมถึงการชำระ online ที่มีให้เลือกใช้บริการแล้ว ในด้านความถี่การใช้งานนั้น กลุ่มผู้ใช้งานมากกว่าครึ่งมีการใช้สมาร์ทดีไวซ์มากกว่า 15 ชั่วโมงต่อสัปดาห์และมีผู้ใช้งานมากกว่า 30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์สูงถึงร้อยละ 32 อัตราการใช้งานที่สูงนี้เป็นผลมาจากการใช้งานด้านโซเซียลมีเดียที่สูงถึงร้อยละ 87 และจากผลสำรวจในประเภทนี้ได้แสดงให้เห็นภาพรวมของการใช้งานแต่เมื่อเรียงความถี่ประเภทของการใช้งานพบว่ากลุ่มผู้ใช้งานมีพฤติกรรมการใช้งานในรูปแบบดาต้ามากกว่าเสียงโดยการรับสายเข้า-ออกตกอยู่ในอันดับที่ 3ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ13 เป็นรองจากโซเชียลเน็ตเวิร์คและอินสแตนท์แมสเซ็นเจอร์ ที่อยู่ในอันดับที่ 1 และ 2ตามลำดับ มัคคานซิสเชื่อว่า แนวโน้มการใช้งานข้อมูลจะมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นในตลอดระยะเวลา 3 ปีนับจากนี้ และในปี 2560 จำนวนผู้ครอบครองสมาร์ทโฟนร่วมกับสมาร์ทดีไวซ์ประเภทอื่นพร้อมกันจะเพิ่มสูงถึงร้อยละ 80 ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล และสูงถึงร้อยละ 35 จากจำนวนผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนทั่วประเทศ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ