สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2557เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 27, 2014 09:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 ม.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,260 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,268 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 32.86 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,500 บาท กับ 19,600 บาท และกลับมาปิดที่ 19,500 บาท กับ 19,600 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 447 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 1,946 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 10.3% แบบ 10 บาทเพิ่มขึ้น 13.3% GFG14 ปิด 19,730 บาท และ GFJ13 ปิด 19,810 บาท GF10G13 ปิดที่ 19,730 บาท GF10J13 ปิดที่ 19,800 บาท สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,264.3 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 24.5 เซ็นต์ ปิดที่ 19.765 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR (เท่าเดิม) ถือครองทองคำ 790.46 ตัน น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 68 ดอลลาร์ ปิดที่ 96.64 ดอลลาร์/ออนซ์ ดาวโจนส์ ปิดลดลง 318.24 จุด ปิดที่15,879.11 จุด ข่าวที่สำคัญ ทองคำทะยานตัวจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกอีก ครั้งอีกทั้งทางเทคนิคได้หนุนให้ทองคำมีทิศทางขาขึ้นก่อนการประชุมเฟดที่ กำลังจะเริ่มขึ้น และตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยเพียง 1% แต่ก็ยังเป็นสถิติการปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันสัปดาห์ที่ 5 แล้ว นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่เป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนทำการเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่เป็น Save Heaven อย่างไรก็ดี ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการร่วงลงของพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐฯที่แรงกังวล เพิ่มขึ้นจากการที่ประเทศจีนนั้นเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวลงสร้างความกังวล เรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกผลักดันให้ทองคำทะยานตัวทะลุระดับ 1,255 เหรียญ รายงานบลูมเบริ์กระบุว่าทองคำคำทะยานตัวขึ้น 5.2% สำหรับเดือนมกราคมนี้ จากแรงควมต้องทองแท่ง เหรียญ จิเวลรี่จากประเทศจีนเพิ่มขึ้นซึ่งก่อนหน้านี้ร่วงลงกว่า28% จากที่เฟดต้องการถอนเม็ดเงิน QE ออกจากระบบ ผลสำรวจจากคิทโก้ได้รับการตอบรับทั้งหมด22ราย 13รายมองว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้น 5รายมองว่าราคาทองคำจะปรับตัวลง และ4รายให้ความเป็นกลางไม่เปลี่ยนแปลง เทรดเดอร์ กล่าวว่า ความผันผวนของตลาดการเงินในหลายๆประเทศ ที่ปรับตัวลดลง ช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพิ่มมากขึ้น นักวิเคราะห์ ระบุว่า ปริมาณความต้องการลงทุนในทองคำยังคงอ่อนแรง หลังจากที่กองทุนทองคำ SPDR ยังคงมีการเทขายทองคำอย่างต่อเนื่อง โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา SPDR มีการลดการถือครองทองคำทั้งสิ้น 6.59 ตัน ปัจจุบันเหลือการถือครองทองคำเพียง 790.46 ตันเท่านั้น นักวิเคราะห์ กล่าวว่า สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อินเดียจะนำเข้าทองคำเพิ่มมากขึ้น หากว่ารัฐบาลอินเดียตัดสินใจปรับลดภาษีนำเข้าทองคำ จึงส่งผลให้ค่าพรีเมียมในอินเดีย ปรับตัวลดลงไปกว่า 30% นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ เชื่อว่า กำลังซื้อจากจีนในช่วงเทศกาลตรุษจีน จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สนับสนุนให้ราคาทองคำยังปรับตัวสูงขึ้นต่อได้ แต่ความต้องการทองคำในจีน ยังคงเบาบาง ส่งผลให้ค่าพรีเมียมในตลาดเซี่ยงไฮ้ ปรับตัวลดลง 10 เหรียญ จากเดิมที่ระดับ 12 เหรียญ ข้อมูลจาก ทอมสัน รอยเตอร์ แสดงให้เห็นว่า อย่างไรก็ดี จีน ยังคงเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่แห่งแรกของโลก จากกลุ่มผู้บริโภคจิวเวลลี่ นักลงทุนจับตาดูการประชุม FOMC ในวันที่ 28 – 29 ม.ค.นี้ โดยมีกระแสคาดการณ์กันว่า เฟดจะเดินหน้าปรับลดขนาด QE ลง ด้วยการปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตร 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน อย่างไรก็ดี นักลงทุนบางคนก็ยังไม่มั่นใจต่อความน่าเชื่อถือของเฟด หลังจากที่เฟดให้คำมั่นว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับใกล้ 0% ต่อไปเป็นเวลานาน นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี กล่าวในการประชุม เวทีเศรษฐกิจโลก ว่า “รัฐบาลควรพิจาณาการปรับลดภาษี เนื่องจากเศรษฐกิจยูโรโซนยังคงมีความเปราะบาง ถึงแม้ว่าจะเริ่มเข้าสู่ภาวะการฟื้นตัวและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น รวมทั้งภาวะเงินเฟ้อที่ค่อยๆปรับตัวดีขึ้น ดังนั้นเราจึงควรปฏิรูปโครงสร้างเพื่อให้เกิดผลเชิงบวกเป็นวงกว้าง” นาย นาริมาน เบห์ราเวช หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ไอเอชเอส อิงค์ (IHS) เปิดเผยว่า วิกฤตหนี้ที่เลวร้ายที่สุดของยุโรปสิ้นสุดลงแล้ว แต่ยังคงมีความท้าทายหลายอย่างรออยู่ ซึ่งเศรษฐกิจของยุโรปอาจจะไม่กลับมาขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพได้ หากยังไม่จัดการแก้ไขปัญหาเชิงสังคมได้ รวมถึงอัตราคนว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูงด้วย สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรและค่าเงินเยน ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้าอย่างใกล้ชิด โดยยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3677 ดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 1.3698 ดอลลาร์ เมื่อคืนนี้ ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น 2.757% เนื่องจากอุปสงค์ด้านการลงทุนในทรัพย์สินที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการคุมเข้มภาวะสินเชื่อในจีน และแนวโน้มวิกฤตค่าเงินในอาร์เจนตินา โฆษก ธปท. ระบุว่า ปัจจัยเศรษฐกิจทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากสหรัฐฯยังมีการลงทุนต่อเนื่องในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกของไทยให้ขยายตัวดีขึ้นกว่าปีก่อนหน้า เหตุการณ์ปาระเบิดในอียิปต์ เพื่อโค่นล้มระบอบการปกครองของนาย ฮอสนี มุมบารัค ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วทั้งสิ้น 6 ราย และได้เพิ่มความวิตกกังวลว่าอาจจะมีการก่อการจลาจลเพิ่มขึ้น ซึ่งสถานการณ์อาจทวีความรุนแรงขึ้นได้ภายในเร็วๆนี้ เมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ ปรับตัวลดลง 318.24 จุด หรือคิดเป็น 1.96% ปิดตลาดที่ระดั บ15,879.11 จุด เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างรุนแรงของตลาดหุ้นและสกุลเงินในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ทำให้นักลงทุนกังวลว่า อาจจะส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนมากขึ้น นักลงทุนทำการเทขายหุ้นในตลาดนิวยอร์ก เพราะวิตกกังวลว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา และภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองของบางประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ รวมถึงเรื่องที่เฟด อาจปรับลดขนาด QE ลงในสัปดาห์หน้า นักบริหารเงิน คาดการณ์ว่า สัปดาห์หน้า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.80 – 33.00 บาท/ดอลลาร์ โดยเน้นย้ำให้รอดูบรรยากาศทางการเมืองในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ระบุว่า การที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นวานนี้ เพราะเก็งผลคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีเลือกตั้ง คาดว่าสัปดาห์หน้าอาจปรับตัวขึ้นได้ต่อ จึงคาดว่าในสัปดาห์หน้าจะมีแนวรับบริเวณ 1,300 จุด แนวต้านที่ระดั บ1,340 จุด นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย เผยว่า หากสถานการณ์ทางการเมืองยังยืดเยื้อและไม่สามารถเดินหน้าเลือกตั้งตามเวลาที่กำหนดได้ ก็จะส่งผลให้การเบิกจ่ายภาครัฐลดลง โดยเฉพาะการเบิกจ่ายนอกงบประมาณลงทุนตามกรอบงบประมาณปี 2558 นอกจากนี้ สถานการณ์ทางการเมืองจะส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2557 นี้ ปรับตัวลดลงสู่ระดับใกล้เคียง 3% ซึ่งจะต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4% ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวาน -ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนนี้ - New Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 464K คาดการณ์จะออกมาอยู่ที่ระดับ 457K ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์ที่แล้วเป็นสัปดาห์ที่ 5 ต่อเนื่องกัน โดยราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นมาเกือบ 2% ซึ่งในท้ายตลาดสามารถยืนอยู่เหนือระดับ 1,260 เหรียญขึ้นไปได้ และในตลาด COMEX สามารถไปทำจุดสูงสุดประมาณ 1,271 เหรียญ และกลับมาปิดตลาดที่ระดับ 1,265 เหรียญโดยประมาณ ขณะที่ตัวเลขของสหรัฐอเมริกาในสัปดาห์ที่แล้วมีทั้งดีและไม่ดีสลับกันไป ซึ่งตลาดกลับมาให้ความสนใจในภาวะค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับค่า เงินยูโร โดยค่าเงินดอลลาร์เองอ่อนค่าลงจากระดับ 1.3520 ดอลลาร์/ยูโรขึ้นไปจนระดับประมาณ 1.3730 ดอลลาร์/ยูโรในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้มีแรงซื้อในตลาดทองคำ รวมทั้งแรงซื้อจาก Demand ในช่วงตรุษจีน และจากความคาดหวังว่าอินเดียจะลดภาษีนำเข้า อย่างไรก็ดี ทองคำยังคงรอความชัดเจนจากกรประชุมเฟดในวันที่ 28-29 ม.ค.นี้ ว่าจะมีถ้อยแถลงออกมาเช่นไร วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ทองคำยังเป็นลักษณะการเคลื่อนตัวในทิศทางขึ้นทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง โดยที่แนวโน้มในระยะสั้นมีแนวต้านสำคัญ 1,275 เหรียญ ซึ่งถือเป็นแนวต้านสุดท้าย และถ้าทองคำสามารถทะลุแนวต้านนี้ได้ ในระยะสั้นและกลางจะถือว่าเป็นแนวโน้มขึ้นและน่าจะขึ้นได้นานอีก 2-3 อาทิตย์ วันนี้เราคาดว่าจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,255 – 1,280 เหรียญ โดยคาดว่าจะแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้น กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ยังเน้นการลงทุนทำกำไรในระยะสั้นตามทิศทางแนวโน้มขาขึ้น โดยที่แนะนำให้ปิดสถานะ Short และเปิดสถานะ Long เมื่อราคาอ่อนตัว เป็นกลับทิศทางการลงทุนจากสัปดาห์ที่แล้วในช่วงต้นสัปดาห์ ยังแนะนำให้นักลงทุนใช้ Stop Loss ออกไป -นักลงทุนที่ถือ Long Position แนะนำให้ขายทำกำไรเป็นช่วงๆและเปิด Long เมื่อราคาอ่อนตัว - นักลงทุนที่ถือ Short Position แนะนำให้ปิดสถานะ และทำการตั้ง Stop Loss เอาไว้เป็นช่วงๆ Gold Futures G14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,780 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,980 บาท Gold Futures J14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,840 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,040 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ