กรุงเทพฯ--27 ม.ค.--124 คอมมิวนิเคชั่นส คอนซัลติ้ง
- กรุงศรีรุกหน้าเป็นธนาคารแห่งแรกในไทยที่ตู้เอทีเอ็มรองรับบัตรมาสเตอร์การ์ดแบบมีชิปตามมาตรฐาน EMV ของมาสเตอร์การ์ด
- เอทีเอ็มกว่าพันเครื่องถูกพัฒนาเพื่อลดปัญหาการฉ้อโกงจากเหล่ามิจฉาชีพ
มาสเตอร์การ์ดและกรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) ประกาศความร่วมมือในการเปิดใช้งานตู้เอทีเอ็มกว่าพันเครื่องในประเทศไทยที่สามารถรองรับการทำธุรกรรมด้วยบัตรแบบมีชิป หรือ “ชิปการ์ด” ได้ โดยครึ่งหนึ่งของเครื่องที่ได้รับการอัพเกรดแล้วนั้น ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะเขตศูนย์กลางย่านธุรกิจ สถานที่ท่องเที่ยว และแหล่งช้อปปิ้ง ส่วนอีกครึ่งที่เหลือกระจายอยู่ในบริเวณแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ชลบุรี หัวหิน ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี เกาะพงัน เกาะสมุย และกระบี่ ด้วยมาตรฐานระดับสากลของมาสเตอร์การ์ด ขั้นตอนต่างๆ ที่เกิดจากการทำธุรกรรมที่ตู้เอทีเอ็มของกรุงศรีที่สามารถรองรับบัตรแบบมีชิปได้ จึงมีความปลอดภัยมากขึ้น เป็นการป้องกันเหล่ามิจฉาชีพที่ต้องการคัดลอกและปลอมแปลงข้อมูลหรือสกิมมิ่งจากตู้เอทีเอ็มที่รองรับชิปการ์ด เมื่อเทียบกับตู้เอทีเอ็มทั่วไปที่รองรับเพียงบัตรชนิดแถบแม่เหล็ก
นายกฤษณ์ จันทโนทก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจเงินฝาก การลงทุน ประกันภัยและธนบดี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า “ธนาคารมีเป้าหมายที่จะยกระดับพัฒนาตู้เอทีเอ็มให้มีความปลอดภัยในการทำรายการตามมาตรฐานสากล เพื่อความสบายใจของผู้ถือบัตรมาสเตอร์การ์ดที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ลูกค้าของกรุงศรีเอง และลูกค้าจากธนาคารอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ด้วยความร่วมมือและการสนับสนุนจากมาสเตอร์การ์ดในการพัฒนาและดำเนินการใช้ระบบดังกล่าว ทำให้กรุงศรีเป็นธนาคารแรกในประเทศไทยที่ตู้เอทีเอ็มสามารถรองรับการทำรายการด้วยบัตรมาสเตอร์การ์ดที่มี EMV ชิปการ์ด พร้อมตอบสนองนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ส่งเสริมให้ทุกธนาคารพาณิชย์ออกบัตรติดชิปและพัฒนาตู้เอทีเอ็มให้รองรับการใช้งานผ่านบัตรดังกล่าวได้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ถือบัตรทั่วประเทศ”
ทางด้าน นายแอนโทนิโอ คอร์โร ผู้จัดการประจำประเทศไทยและพม่า มาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า “มาสเตอร์การ์ดรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงศรีอยุธยาในการอัพเกรดตู้เอทีเอ็มของธนาคารให้สามารถรองรับบัตรชนิดติดชิปได้ โครงการนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งในการขยายโปรแกรม Global Chip Liability Shift Program ของมาสเตอร์การ์ดในการทำธุรกรรมที่เครื่องเอทีเอ็ม โดยหนึ่งในจุดมุ่งหมายหลักของโปรแกรมดังกล่าวคือการปกป้องผู้ถือบัตรและธนาคารจากการสูญเสียที่เกิดจากมิจฉาชีพ การลงทุนเพื่อเทคโนโลยีด้านการรักษาความปลอดภัยเป็นวิธีการป้องกันและความรับผิดชอบเพื่อลดการทุจริตทางการเงินในระดับโลก ระบบชิปการ์ดนี้จะช่วยให้การทำธุรกรรมมีความปลอดภัยมากขึ้นและช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคในด้านระบบการชำระเงิน”
การทำธุรกรรมผ่านบัตรแบบมีชิป หรือ EMV chip card นี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยจากการถูกโจรกรรม มากกว่าการทำผ่านบัตรชนิดแถบแม่เหล็กที่ใช้เพียงการตรวจสอบลายเซ็นของผู้ถือบัตรและลักษณะบัตรภายนอกเท่านั้น นอกเหนือจากการใช้ระบบชิปในเอทีเอ็มแล้ว มาตรฐานชิปการ์ดยังถูกใช้ในธุรกรรมทางการเงินอื่นๆ เช่น การชำระเงินทางโทรศัพท์หรือทางออนไลน์ เทคโนโลยีดังกล่าวไม่เพียงเป็นการเพิ่มความปลอดภัย แต่ยังช่วยลดอัตราการเกิดการฉ้อโกง และช่วยให้การควบคุมการตรวจสอบบัตรเครดิตเป็นไปได้อย่างดีขึ้นอีกด้วย
ข้อดีของการทำธุรกรรมผ่าน EMV ชิปการ์ด ได้แก่
- มีการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาขึ้นเมื่อเทียบกับบัตรเครดิตที่ใช้เพียงรหัสข้อมูลที่พบในแถบแม่เหล็กบริเวณด้านหลังบัตร
- ลายเซ็นรูปแบบดิจิตอลที่เก็บอยู่ในชิปจะช่วยพิสูจน์ความถูกต้องของบัตรเมื่อมีการทำธุรกรรมลักษณะออฟไลน์ และช่วยป้องกันไม่ให้อาชญากรนำบัตรปลอมมาใช้
- ช่วยให้การชำระเงินทางออนไลน์ปลอดภัย และป้องกันผู้ถือบัตร ร้านค้า และธนาคารผู้ออกบัตร จากการฉ้อโกงทางธุรกรรม เนื่องจากจะมีการเข้ารหัสเอาไว้ (online cryptogram)
- รองรับวิธีการตรวจสอบผู้ถือบัตรที่แน่นหนากว่าเดิม
- จัดเก็บข้อมูลได้มากกว่าบัตรชนิดแถบแม่เหล็ก
ปัจจุบันธนาคารมีตู้เอทีเอ็มทั้งหมด 4,730 ตู้ โดยธนาคารเริ่มทยอยอัพเกรดให้ตู้เอทีเอ็มสามารถรองรับการทำรายการผ่านบัตรมาสเตอร์การ์ดที่ใช้ EMV ชิปการ์ดไปแล้วมากกว่า 1,000 ตู้ ซึ่งเกณฑ์ในการอัพเกรดนั้นขึ้นอยู่กับศักยภาพของตู้ที่ต้องเป็นตู้รุ่นใหม่ที่ตัวเครื่องและโปรแกรมพร้อมรองรับระบบชิปการ์ดได้ และสถานที่ตั้งตู้เอทีเอ็ม โดยครึ่งหนึ่งของเครื่องที่ได้รับการอัพเกรดแล้วนั้น ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เช่นเขตปทุมวัน วัฒนา บางรัก บางกะปิ และคลองเตย ส่วนอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือนั้นกระจายอยู่ในบริเวณที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น ชลบุรี หัวหิน ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี เกาะพงัน เกาะสมุย กระบี่ เป็นต้น สำหรับตู้เอทีเอ็มที่ยังไม่รองรับการทำรายการผ่านบัตรชิปการ์ดนี้ ทางธนาคารมีแผนที่จะทยอยพัฒนาให้ครบทุกตู้ในอนาคต
มาสเตอร์การ์ดและกรุงศรีเป็นพันธมิตรและได้รักษาสัมพันธภาพที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนาน ธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้ร่วมมือกับมาสเตอร์การ์ดในการออกบัตรเครดิตมากมายและให้บริการผู้ถือบัตรมาสเตอร์การ์ดทั่วโลก ทั้งสององค์กรได้ร่วมกันคิดค้นและพัฒนาหลากหลายโครงการอย่างไม่หยุดนิ่งเพื่อสร้างความก้าวหน้าให้แก่เทคโนโลยีด้านการชำระเงิน ซึ่งรวมไปถึงการพัฒนาตู้เอทีเอ็มให้สามารถรองรอบบัตรมาสเตอร์การ์ดแบบมีชิป ทั้งเดบิตและเครดิตจากทั่วโลกอีกด้วย
โครงสร้างพื้นฐานด้านการชำระเงินระบบชิปนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในหลายภูมิภาคทั่วโลก และข้อดีต่างๆ ที่พิสูจน์ได้จริงจากการใช้ระบบชิป เมื่อเทียบกับการใช้แถบแม่เหล็กนั้น กระตุ้นให้หลายๆ ธนาคารหันมาใช้เทคโนโลยีชิป มาสเตอร์การ์ดได้ช่วยธนาคารมากมายทั่วโลกในการย้ายเข้าสู่ระบบชิปอย่างประสบความสำเร็จ ซึ่งท้ายที่สุดจะส่งผลให้การทำธุรกรรมของผู้บริโภคนั้นมีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบการชำระเงินแบบ EMV ของมาสเตอร์การ์ด สามารถดูได้ที่ mastercard.us/mchip-emv.html