กรุงเทพฯ--27 ม.ค.--ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป
ทิสโก้ เวลธ์ ชี้ปัญหาค่าเงินเปโซอ่อนค่า กดดันตลาดหุ้นระยะสั้น ระบุญี่ปุ่น จีน เอเชียเหนือ กระทบน้อย เหตุฐานะการเงินการคลังแกร่ง แนะใช้โอกาสหุ้นปรับฐานเข้าลงทุนเพิ่ม หลังแนวโน้มเศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง
นายคมศร ประกอบผล นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโส ทิสโก้ เวลธ์ (Mr.Komsorn Prakobphol, Senior Strategist, TISCO Wealth) เปิดเผยว่า จากภาวะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกได้ปรับตัวลงแรงในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาต่อเนื่องมาถึงในเช้านี้ โดยเฉลี่ยลดลงถึง 2-3% นั้น ประเด็นหลักมาจากความกังวลเรื่องค่าเงินเปโซของประเทศอาร์เจนติน่าที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว หรือประมาณ 15% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ จากการที่อาร์เจนติน่ามีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศต่ำ และมีการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด (Current Account) รวมถึงมีการขายทำกำไรของนักลงทุน ทำให้เป็นปัจจัยเชิงจิตวิทยาส่งผลให้มีการปรับฐานในตลาดหุ้นทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม การปรับฐานรอบนี้ TISCO Wealth มองว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะ “เข้าลงทุน” ในประเทศที่มีเศรษฐกิจแข็งแกร่ง และซื้อขายที่ Valuation ที่อยู่ในระดับที่น่าสนใจ เช่น กลุ่มประเทศเอเชียเหนือ และจีน ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีฐานะการเงินการคลังแข็งแกร่ง มีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่อง และได้รับผลบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และยังแนะนำซื้อหุ้นญี่ปุนที่ได้รับผลกระทบระยะสั้นจากการแข็งค่าของเงินเยน โดยมองว่าเงินเยนจะกลับมาอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลัง Fed ประกาศชะลอ QE ต่ออีกในการประชุมวันที่ 28-29 ม.ค. นี้
“การไหลออกของเงินทุนต่างประเทศ ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักของตลาดหุ้นในประเทศเกิดใหม่ หรือ Emerging Market ในปีนี้ เราจึงแนะนำให้ Overweight ตลาดหุ้นในกลุ่มเอเชียเหนือ ญี่ปุ่น และจีน ที่มีดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยจำกัดผลกระทบของการไหลออกของเงินทุน และแนะนำ Underweight ตลาดหุ้นละตินอเมริกา และเอเชียใต้ ซึ่งประสบปัญหาขาดดุลบัญชีเดินสะพัด”
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทั่วโลกปรับฐานรอบใหญ่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ม.ค.) ที่ผ่านมา โดยเฉพาะตลาดหุ้นญี่ปุ่น ยุโรป และสหรัฐฯ ปรับตัวลงค่อนข้างแรง โดยตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นจีน HSCEI ปรับตัวลง 1.25% และ 0.94% ตามลำดับ ดัชนียุโรป STOXX50 ปรับตัวลง 2.85% ดัชนี S&P500 ปรับตัวลง 2.09% หลุดระดับ1,800และปิดที่ 1,790.29 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น Nikkei ปรับตัวลง 1.94% ขณะที่ในเช้าวันนี้ (27 ม.ค.) ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดในแดนลบเช่นกัน