กรุงเทพฯ--28 ม.ค.--ปตท.
ฝ่ายกลยุทธ์และแผนธุรกิจ หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สรุปรายงานสถานการณ์น้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) เพิ่มขึ้น 0.86 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 107.36 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล, น้ำมันดิบเวสท์เท็กซัสฯ (WTI) เพิ่มขึ้น 2.84 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 96.42 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) เพิ่มขึ้น 0.92 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 103.94 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาเฉลี่ยน้ำมันเบนซินออกเทน 95 เพิ่มขึ้น 0.76 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 117.79 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล น้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 0.98 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 121.44 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ได้แก่
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงบวก
- TransCanada Corp. เปิดดำเนินการท่อขนส่งน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ส่วนต่อขยายของระบบท่อ Keystone XL ช่วยระบายอุปทานจากคลังน้ำมันบริเวณกลางประเทศ ในรัฐ Oklahoma ไปยังฝั่งอ่าว (Gulf Coast) ในรัฐ Texas ที่มีโรงกลั่นน้ำมันตั้งอยู่มากมาย โดยเบื้องต้นสามารถขนถ่ายน้ำมันดิบได้วันละ 300,000 บาร์เรล
- สำนักตัวแทนพลังงานนานาชาติ หรือ IEA ปรับเพิ่มประมาณการณ์อัตราการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันดิบโลกในปี 57 ขึ้น 50,000 บาร์เรลต่อวัน จากครั้งก่อน มาอยู่ที่ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน เทียบกับปีก่อน และปรับเพิ่มอุปสงค์น้ำมันดิบจากกลุ่ม OPEC (Call-on-OPEC) ขึ้น 200,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 29.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มประมาณการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) โลก ในปี 57 ขึ้นมาอยู่ที่ 3.7% เทียบกับปีก่อน จากการคาดการณ์ครั้งก่อนในเดือน ต.ค. 56 ที่ 3.6% เนื่องจากเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ฟื้นตัว
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงลบ
- กลุ่มประเทศมหาอำนาจ (P5+1) ได้แก่ สหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน และเยอรมนี รวมถึงสหภาพยุโรป เริ่มผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. 57 เป็นระยะเวลา 6 เดือน คาดว่าจะทำให้อิหร่านส่งออกน้ำมันดิบในเดือน ม.ค. 57 นี้ เพิ่มขึ้น 50,000 บาร์เรลต่อวัน จากเดือนก่อน อยู่ที่ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- สำนักสถิติแห่งชาติของจีนรายงาน GDP ในปี 56 อยู่ที่ 7.7% เทียบกับปีก่อนหน้า ต่ำสุดนับแต่ทศวรรษที่ 1990
แนวโน้มราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงเพื่อสร้างความอบอุ่นเพิ่มสูงขึ้น จากภูมิอากาศหนาวเย็นในซีกโลกด้านเหนือ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ซึ่ง Commodity Weather Group LLC พยากรณ์อุณหภูมิในเดือน ม.ค. 57 จะอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบทศวรรษ กอปรกับประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) นาย Mario Draghi เผยเศรษฐกิจยูโรโซนกำลังฟื้นตัว หลังจากเศรษฐกิจดีขึ้นในไตรมาส 4/56 สะท้อนถึงการดำเนินนโยบายทางการเงินที่มีประสิทธิผล อย่างไรก็ตามให้จับตามองการประชุมนโยบายการเงินของสหรัฐฯ (FOMC) ในวันที่ 28-29 ม.ค. 57 นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์หลายสำนักคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดระดับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการเข้าซื้อสินทรัพย์ อาทิ พันธบัตรรัฐบาล ลงอีก 1 หมื่นล้านสหรัฐฯ ต่อเดือน อยู่ที่ 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน
ในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดิบ Brent จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 106.5-108.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล, น้ำมันดิบ WTI อยู่ในกรอบ $96.3-98.4 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบ Dubai อยู่ในกรอบ 103.5-106.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันเบนซิน
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยปริมาณสำรอง Gasoline เชิงพาณิชย์ที่สิงคโปร์ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เนื่องจากอุปสงค์อยู่ในระดับสูง จากฟิลิปปินส์ ไต้หวัน เวียดนาม และอินโดนีเซีย สำหรับในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันเบนซินจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 117.5-119.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากภูมิอากาศที่หนาวเหน็บในสหรัฐฯ ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเพื่อทำความอบอุ่นสูงขึ้น ล่าสุดสำนักพยากรณ์อากาศคาดว่าหลายส่วนในสหรัฐฯ อาทิ เมือง Boston, Pittsburgh, Philadelphia และ New York จะมีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียสไปตลอดเดือน ม.ค. 57 ในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดีเซลจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 121.3-124.3 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล